แง่คิดดีๆที่ผมเรียนรู้จากการไปลองฟังเครื่องเสียงตามร้าน กับ Klipsch R115SW

ลูกค้าจากรามอินทราโทรมาตอน 5 โมงเย็นว่าอยากได้ซับ 15 นิ้ว Klipsch R115SW หนึ่งตัว เพราะต้องเอาไปใช้เปิดปาร์ตี้พรุ่งนี้ที่บ้านช่วงสิ้นปี
อยากได้เลยเร็วๆ ขอขับมารับเองมีของเลยมั๊ย  ก็ตอบไปว่ามีครับพี่...

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก อีกแป๊ปลูกค้าขับมาถึงที่ (เร็วมาก)
ตามมารยาทก็เชิญเข้าห้องฟัง เพราะเรามี R115 ตัวนี้ประจำการในห้องฟังเราอยู่แล้ว เผื่อลูกค้าจะได้ฟังอีกทีก่อนตัดสินใจ (นาทีนี้ลืมเอาน้ำเอาท่ามาให้ ต้องขออภัยจริงๆครับ)

ตอนนั้นในใจครุ่นคิดว่า อือ....   แล้วจะเปิดอะไรให้เค้าฟังดี... เพลง audiophile ก็ไม่มี เค้าจะฟังอรวีย์ หรือไซ่ฉินหรือลูกทุ่งเปล่า?
หรือจะฟังคลาสสิค หรือจะบลูโน๊ต... อายลูกค้าแน่นอน เพราะปกติตามห้องลอง เวลาฟังเพลงก็ต้องเปิดเพลงดีๆ ให้มันดีๆหน่อย ไม่ใช่เอาเพลงไรไม่รู้มาเปิด
ถ้าเค้ารู้ว่าปกติฟังแต่เพลงอะไรไก่กาก็ไม่รู้ เค้าจะว่ายังไงละเนี่ย เปลี่ยนใจทันมั๊ย  ขอเชิญออกจากห้องทันมั๊ยครับพี่... ฮาๆ

ลูกค้าหย่อนก้นลงโซฟาก็บอก มี EDM มั๊ยแนวๆที่เปิดตาม Waterzonic, TomorrowLand พวก Dimtriti Vegas ไรพวกนี้ เปิดหน่อย  มองตากันแป๊ปนึง....
โห... ในเครื่องก็มีแต่เพลงพวกนี้นี่ละครับ...   เปิดฟังไม่ถึงครึ่งเพลง ไม่รู้ว่าลูกค้ารำคาญเสียงหรือชอบกันแน่...
สุดท้ายก็ตัดสินใจยก R115SW ตัวใหม่ขึ้นรถกลับบ้านไปหนึ่งตัว

แต่บังเอิญรถลูกค้าเป็นรถเก๋งใส่ไม่ได้ (ตัวนี้ต้อง 5 ประตูหรือกระบะเท่านั้น) ก็ต้องคุยกันว่าขอแกะกล่องออกเลยแล้วใส่ประตูหน้าไปแทน 
ขอบคุณลูกค้ามากครับ ที่อุตส่าห์ขับมาตั้งไกล

สุดท้ายที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดไว้นิดนึงสำหรับใครที่ไปลองเครื่อง หรือลำโพง หรือซับ ไม่อยากให้เกรงใจร้านมากนะครับ ส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าร้านร้อยละ 95% เวลาลองฟังเพลง เค้าจะเปิด audiophile ครับ เพราะมันบันทึกมาดี เสียงดี เพราะ ชัด มีโอกาสที่ลูกค้าจะประทับใจสูง หรือไม่ก็เพลงแจ๊ส คลาสสิค Newage ก็มีบ้าง เพลงไทยก้มีพวกแนวเพลงร้อง เพลงช้า

แต่สิ่งหนึ่งคือ ปกติแล้วกลับไปบ้าน คุณฟังเพลงแนวนั้นหรือเปล่า ถ้าใช่ จบครับไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ลองไปเลย  แต่ถ้าไม่ใช่ แล้วเราจะได้อะไรจากการลองฟังครับ.... คำตอบคือ ไม่ได้อะไรเลยนะครับ เพราะผมไม่เชื่อว่ามีลำโพงใดๆในโลกนี้ที่ฟังเพลงดีได้ทุกแนวเพลง  ลำโพงที่ฟัง EDM ดีที่สุดไม่ใช่ลำโพงบ้านที่แพงหรือไฮเอ็นด์ที่สุด แต่กลับเป็นลำโพง PA ตามผับหรือเวทีคอนเสิรต์ (แต่ใครจะเอาลำโพงแบบนั้นมาฟังในบ้าน?)

เพลงร้อง อคูสติก ป๊อป โชว์เสียงร้องก็ต้องใช้ลำโพงบ้าน หวานๆ ละเมียดๆ นุ่มๆ ฟังเคลิ้มๆ จะเอาไปฟังเพลงเร็วก็ไม่ใช่แนวอีก 

ลำโพงกลางๆก็ฟังได้หลายแนวดี แต่มันก็ไปไม่สุดสักทาง

แล้วถ้าฟังร็อคละ ใช้ลำโพงอะไร โอ้ย เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวครับ เยอะมาก

สมัย 10 ปีก่อนผมเคยไปลองฟังที่ร้านดังสอง-สามร้าน ร้านนึงขึ้นชื่อเรื่องอัธยาศัยและการบริการดีมากที่สุดในประเทศนี้ ไปลองก็ไม่ค่อยได้อะไรครับ เพราะเปิดแจ๊ส ผมไม่กล้าลองเปิดแผ่นผมในร้านเค้า เพราะเกรงใจลูกค้าท่านอื่นและผู้จัดการ

อีกร้านก็บริการดีเหมือนกัน แต่เปิดเพลงจีน เลยลองเอาแผ่นผมไปขอเปิด ผลคือฟังไม่ได้ครับ เกรงใจเจ้าของร้านมากด้วย เพราะเบสลงลึกแต่ไม่มี Impact  เลย  ฟังแล้วผมเกรงใจเจ้าของร้าน ไม่กล้าเปิดต่อเพราะมีลูกค้าในร้านด้วย

อีกร้านร้านนี้อินดี้พูดชื่อคงอ้อ เอาแผ่นไปเปิด เจ้าของร้านด่าผมว่าใครให้เอาเพลงแบบนี้มาเปิด

สรุปก็ได้ไอเดียว่า ลำโพงแบบไหนที่ผมจะซื้อ แบบไหนที่ผมจะไม่เล่น 
สุดท้ายไปลองอีกร้านนึง คราวนี้ไปโชวรูมผู้นำเข้าเลยสภาพก็บ้านๆนี่ละครับ (โชวรูมเก่าเค้า) เอาแผ่นไปลอง ขอเปิดนี่ไม่มีอิดออด  เปิดไม่ดังมากครับเกรงใจ ผู้จัดการเดินมาคุยว่าเพลงแนวนี้ผมก็ฟัง แนวผมเลย แถมเร่ง Volume ให้ผมขึ้นไปอีก สอนเทคนิค สอนอะไรต่างๆ คุยกันเปิดแผ่นผมแช่ไว้เป็นครึ่งชั่วโมงก็ไม่ว่า 

สุดท้าย ผลสรุปผมคงไม่บอกว่า เมื่อ 10 ปีก่อนผมได้ลำโพงชุดไหนมา   และที่สำคัญผู้จัดการคนนั้นก็ยังติดต่อกับผมอยู่ถึงทุุกวันนี้ แต่ในฐานะอื่น.. ไม่ใช่คนขายกับลูกค้าแล้ว เพียงแต่เค้าอาจจะจำผมในวันที่ไปขอเค้าลองฟังไม่ได้แค่นั้นเอง

สุดท้ายอย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณจะฟังเพลงแนวไหนก็ล้วนแต่ดีทั้งนั้น ความชอบเป็นเรื่องปัจเจกครับ ไม่มีผิดหรือถูก  มีซิสเต็มแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม ถ้าฟังแล้วมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรือรบกวนการเงินหรือผู้อื่น

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังฟังเพลงที่ชอบครับ

]ราคาและสเปก Klipsch R115SW: http://www.whatthatsound.com/product/3/klipsch-r-115sw