ESOTERIC N-05XD
เครื่อง Streamer + DAC + Preamp ในเครื่องเดียวของ Esoteric ที่แค่เสียบสายสัญญาณแค่สองเส้นไปเข้า Amp ก็พร้อมฟังเพลงได้ทั่วโลก ผ่าน Service ที่มีให้เลือกอย่าง Tidal, Spotify, Qobuz และรองรับ Roon Ready ในตัวพร้อม ที่เหลือก็แค่หาเวลามา spend ให้กับเพลงมากมายชนิดที่ทั้งชีวิตนี้ก็ฟังไม่หมดหรือเปล่า
จริงๆเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วผมอาจไม่กล้าพิมพ์เท่าไร่ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Streaming Music อย่างเต็มตัว และอาจจะเคอะเขินนิดหน่อยที่จะบอกใครๆว่า เราใช้ source จาก spotify, tidal
แต่วันนี้เราก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดีว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Streaming Music อย่างเต็มตัว นั่นก็เพราะเราไม่ได้กำลังก้าวเข้าสู่ยุค Streaming Music แต่เราก้าวเข้ามาเต็มตัวนานแล้ว โลกของ digital format ที่ง่าย เร็ว และสะดวก และต้องเสียงดีด้วย
ถ้าลำโพงพร้อม แอมป์ถึง แค่หา Streamer ดีๆสักตัวมาแมทชิ่งให้เหมาะกับลำโพงและแอมป์ก็ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องการตามหาแผ่น CD หรือคอยเดินเปลี่ยนแผ่น หรือกังวลเรื่องเพลงใหม่ๆดีๆ เพราะทุกอย่างมาพร้อมเสริฟ์ตรงหน้าคุณโดยแทบจะไม่ต้องลุกเจากเก้าอี้ไปไหนด้วยซ้ำ
-----------------------------------------
อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ
Klipschorn AK6
Esoteric N05-XD
Primare A35.2
-----------------------------------------

วันนี้ได้มีโอกาศลอง Esoteric N05-XD ที่มาในกล่องสองชั้น ตัวเครื่องสีเงิน อีกนิดเดียวก็จะออกขาวแล้ว (มีสีดำด้วย) การติดตั้งไม่มีอะไรซับซ้อนยุ่งยาก จึงจะขอข้ามไป เพราะแค่เสียบปลั๊ก ต่อสาย analog out (XLR) และต่อสายแลน ก็จบแล้ว เครื่องก็พร้อมใช้งาน ที่เหลือแค่เดินไปที่ Smart phone, Tablet แล้วก็เลือกเพลง
ตัวเครื่องรองรับ Spotify Connect, Tidal Connect, และรองรับ Player อย่าง Roon ready สามารถเล่น Qobuz ผ่าน Roon

หรือจะงานใช้ผ่านแอปของเขาเองอย่าง Esoteric SoundStream ได้ ซึ่งก็จะเล่นได้ตั้งแต่ Spotify, Tidal, Qobuz, Blutooth, File (แต่ผมไม่ได้ใช้แอปของเขา)
ในส่วนของ Qobuz จะไม่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับแอป Qobuz แบบ qobuz connect ได้ เพราะ Audio Output ไม่ขึ้นมาให้เลือก ซึ่งผมยังไม่เคยเจอ Streamer เครื่องไหนรองรับ Qobuz app แบบตรงๆ เช่นกัน
ตัวเครื่องมีหน้าจอสีฟ้า แสดงรายละเอียดพองาม ตัว knob volume ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆนั้นงานประกอบสวยงามมาก และในขณะเดียวกันการใช้งานก็ละเอียดมาก และสามารถเลือกความละเอียดได้ว่าจะเอาให้ละเอียดมากแค่ไหน ตัวเครื่องสามารถเซ็ทให้ XLR รองรับมาตรฐานแบบ American หรือแบบ Japan/Europe ได้ และสามารถตัดฟังชั่น preamp ออกโดยส่งสัญญาณออกเป็น fix ไปให้ Integrated amp หรือ preamp ข้างนอกทำงานต่อได้ (แต่ผมจะปรับเป็น variable เพราะจะไปต่อกับ power amp)

ในส่วนของภาค DAC นั้น ตัวเครื่องไม่ได้ใช้ DAC สำเร็จรูปแบบแบรนด์อื่น แต่ใช้สถาปัตยกรรมที่ออกแบบขึ้นเองที่เรียกว่า Master Sound Discrete 64 bit DAC ซึ่งถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นใหญ่อย่าง GRANDIOSO ลงมาในตัวนี้ด้วย ทำให้เรื่องคุณภาพ DAC นั้นมั่นใจได้ว่ามีคุณภาพสูงและมีจุดเด่นที่ไม่มีใครเลียนแบบได้
ตัวเครื่องสามารถต่อ External Clock ต่างหากได้ แต่ในที่นี้เราไม่ได้ต่อใช้งาน จึงต้องเข้าไปปิดฟังชั่น External Clock ในเมนู Setting เสียก่อนจึงจะใช้งานได้
แนวเสียง
จริงๆผมนั่งดูข้อมูล Streamer ของแบรนด์ Esoterik และอีกหลายๆแบรนด์ ซึ่งมีทั้งแบรนด์ระดับราคาไม่เกินแสน ไปจนราคาในช่วงที่คนเริ่มคาดหวังกับคุณภาพแบบจริงจังอย่างแสนต้นๆไปจนถึงสองแสนอีกหลายตัว รวมถึงในช่วงราคาของ 4 แสนขึ้น ซึ่งก็ได้พี่ๆน้องๆส่งมาให้ลองบ้าง ซื้อเองบ้าง ลองอยู่หลายตัวและอยากแนะนำสำหรับท่านที่อยากเริ่มเข้าสู่การฟังเพลงแบบจริงจังขึ้นมาสักหน่อยว่า
คุณภาพและบุคลิคเสียงของระบบฟังเพลง 2 channel นั้นนอกเหนือไปจากลำโพง และอคูสติกห้องฟังจะสำคัญเป็นอันดับแรกๆแล้ว ตัวที่กำหนดบุคลิคเสียงในระบบเลยก็คือตัว DAC / Preamp นี่ละครับ เพราะมันมีตั้งแต่แนว warm อุ่นๆ แต่ detail น้อย ไปจน detail ดี แต่เบสลึกๆไม่ค่อยดี ไปจนระดับเริ่มต้นที่เสียงจะทึบ เบสเยอะ และเมื่อเปิดดังมากๆจะมี noise และเสียงไม่พึงประสงค์ในบางเพลงได้
ซึ่งจะเหมือนกับ pre-processor ในระบบดูหนังที่เป็นคีย์หลักในการกำหนดแนวเสียงของซิสเต็มฉันใด ตัว DAC/Preamp ของระบบ 2 ch นั้นก็เป็นตัวกำหนดแนวเสียงของระบบทั้งระบบฉันนั้นครับ
ดังนั้นการเลือก Streamer ที่มีภาค DAC และ Preamp ในตัวนั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญสุดๆและเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายให้กับบุคลิคเสียงและแนวของซิสเต็มคุณเลย

ลำพังการไปฟังตามห้องฟัง หรือห้องลองต่างๆนั้นอาจจะจับบุคลิคได้ไม่มาก เพราะลำโพง เส้นสาย อคูสติกต่างๆนั้นแตกต่างจากชุดของเรา เราอาจจะไม่รู้ว่าเสียงที่โปร่งนี้มันโปร่งจากลำโพง โปร่งจากห้องฟัง หรืออุปกรณ์ใด
หรือเสียงที่มัน warm หรือทึบนี้ มันหนาขึ้นมาจากลำโพง หรือ dac หรือเพราะห้องฟัง
ดังนั้นสิ่งที่ตระหนักรู้ว่ามีค่าที่สุดในยุคนี้ อาจไม่ใช่เงินทองเสมอไปเหมือนยุคก่อนๆ แต่มันคือ knowledge , knowhow และรู้ว่าแต่ละตัวมีบุคลิคอย่างไร
รู้ว่าซิสเต็มที่เรามีนั้นเด่น และด้อยด้านใด ต้องใช้ของอะไรมาแมทชิ่ง
รู้จุดแข๊งของห้องว่าเด่นด้านใด
รู้จุดอ่อนของห้องเราว่ามีจุดด้อยที่ด้านไหน เช่นบางห้อง bass หาย บางห้องเบสโด่ง
และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ รู้ว่าเราชอบแบบไหน ที่เราต้องตอบตัวเราเอง ไม่ใช่ให้เพื่อนหรือนักเล่น หรือกูรูหรือร้านมาคอยตอบว่าแบบนี้สิดี แต่เราต้องตอบตัวเองได้ว่าแบบไหนคือดี

แนวเสียงของ Esoteric
หลังจากที่ผมพยายามขุดค้นรีวิวเมืองนอกว่าแนวเสียงมันเป็นอย่างไร เทียบกับอีกแบรนด์ (ไม่ขอเอ่ยชื่อ) ส่วนใหญ่ก็จะได้คำตอบจากนักเล่นว่า Detail, Transparent และเด่นเรื่องรายละเอียด ซึ่งน่าจะดูเข้าเค้าและตรงกับจุดด้อยของห้อง รวมถึงความต้องการของเราที่ไม่ต้องการอุปกรณ์ใดๆมาเสริมย่านเบส หรือไม่ต้องการเครื่องที่เด่นด้าน warm หรือเติมความอวบอิ่มจนเกินจริง แต่ต้องการรายละเอียด ความชัด ความตรงไปตรงมามากกว่า
หลังจากที่เปิดลองกับ Tidal connect และ Roon Ready ไปสองสามยก (ยกละ 2-3 ชั่วโมง) ก็พบว่าแนวเสียงและจุดเด่นของ Esoteric นั้นก็ไม่ได้เกินไปจากรีวิวของเมืองนอกเท่าไร่ เพราะเนื้อเสียงที่ได้นั้น มีความตรงไปตรงมา เป็นกลาง ฟังได้แทบทุกแนว ไม่เจือปนเบสมากจนกลบรายละเอียด เนื้อเสียงในแต่ละย่านมีความชัด clear รายละเอียดดี เสียงออกแนวเปิดโปร่ง รายละเอียดพรั่งพรู เปิดดังยิ่งฟังดี แต่ใน volume ดังๆนั้นฟังเพลิน และฟังดี ไม่มีความเครียดและความรู้สึกว่ามันดังมาก ทั้งๆที่ก่อนนั้นเมื่อเร่ง volume ในระดับนี้จะรู้สึกว่ามันเริ่มน่ารำคาญแล้ว
แม้ว่าเครื่องในระดับราคา 1-2 แสนบาทอาจจะไม่ได้ให้โทนเสียงที่มีรายละเอียดห่างจาก Esoteric มากตามราคาส่วนต่างๆที่ห่างกัน 2-3 เท่านัก แต่สิ่งที่ฟังออกชัดก็คือ ความสะอาดและเปิดโปร่งเมื่อเร่งดังๆ ของ Esoteric นั้น ไม่มีความเครียด หรือความหมองหรือขมุกขมัวเวลาเร่งดังๆจนทำให้รู้สึกว่า เฮ้ยดังไปแล้ว ต้องลดหน่อย เริ่มฟังไม่ดีแล้ว แต่กลับเป็นยิ่งเร่งรายละเอียดยิ่งมา เร่งแล้วฟังดี เร่งแล้วยังฟังชัดและ clear อยู่โดยไม่รู้สึกว่าน่ารำคาญ
สิ่งที่ผมชอบก็คือเบสของตัว Esoteric นั้นมาแบบพอดีๆ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป มาแบบตรงไปตรงมา และไม่ distort ยามเมื่อเร่งดังๆมากๆ หรือบางเพลงที่มีเบสลึกๆ ซึ่งเป็นบุคลิคที่ตรงไปตรงมา ถ้าอยากได้เบสเยอะ ก็เลือกลำโพงที่เบสเยอะ หรือเลื่อนลำโพงเข้ามุม เข้าผนังไป ไม่ใช่แต่งเติมด้วยบุคลิคของ DAC/ Preamp
ตอนนี้ Esoteric N-05XD ประจำการอยู่ที่เรา จับกับ Klipschorn AK6 สักพัก ใครสนใจอยากลองเริ่มเล่น Streamer ดีๆ และอยากซื้อหาจับจองเป็นเจ้าของสามารถเข้ามาลองเล่นได้ในช่วงนี้ครับ

