Anthem AVM90 - Review

Pre-Processor 15.4 channels รุ่นเรือธงที่ในช่วงแรก Anthem ประกาศว่าจะใช้ DAC 32 bit ตัวท้อปอย่าง AKM 4499EQ แต่ช่วงหลังที่ประสบปัญหาชิปขาดแคลนอย่างหนักจนทำให้ AVM90 ต้องเลื่อนการวางตลาดไปเกือบๆปี ตอนหลัง Anthem จึงประกาศว่าจะ swap ตัว DAC เป็นเบอร์ ES9038PRO แทน
และข่าวนั้นก็เป็นจริง เพราะสินค้าล๊อตแรกที่ชิปออกมาจาก Anthem นั้นก็ได้รับการยืนยันว่ามันใช้ ES9038PRO จริงๆ

ซึ่งเท่ากับว่า Pre AVM90 ตัวที่เราได้รับมานี้ จึงเป็น DAC ของค่าย ESS แทน AKM ที่ใช้ใน AVM70 ซึ่งตอนแรกเราก็ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อยเพราะด้วยความที่เราเป็นแฟนและชื่นชอบ tonal balance ของ DAC AKM มากๆ แต่หลังจากได้รับ AVM90 มาฟัง ความกังวลและความผิดหวังดังกล่าวนั้นกลับมลายหายไป เพราะเสียงที่ได้มันแตกต่างจาก AVM70 มากจริงๆ จนเรารู้สึกว่าเสียงที่ได้จาก AVM90 มันน่าทึ่ง และทำให้ Gap ของปรีในระดับราคาบนๆราคา 5-6 แสนนั้นแคบลงมาอย่างน่าใจหาย

Spec ของ Anthem AVM90 นั้นรองรับ 9.1(4).6 channel โดยรองรับ Subwoofer ได้ถึง 4 ช่อง
ตัวเครื่องรองรับ HDMI 2.1 8k@60Hz และ 4k@120Hz โดยให้ HDMI In 7 ช่อง และ HDMI Out 3 ช่อง
ให้ S/N Ratio สูงถึง 115 db ซึ่งสูงกว่ารุ่นอื่นๆของ Anthem ทั้งหมด เป็นผลพวงจาก DAC 32 Bit รุ่นที่ใช้ตัวนี้นั่นเอง
ในส่วนของฟังชั่นเสริมอย่าง Streaming นั้น Anthem ให้ฟังชั่นที่จำเป็นมาดังนี้
Chromecast (Audio), AirPlay 2 (Audio), Bluetooth v4.2, Spotify Connect, and Roon (จะอัพเดทในอนาคต)
จะเห็นว่าฟังชั่น streaming service สำคัญๆนั้นถูก add เข้ามาไว้ในตัวเครื่องเกือบครบ ยกเว้น Tidal connect ที่ไม่รองรับ แต่อย่างไรก็สามารถใช้งาน Tidal ได้ผ่าน Chromecast , Airplay หรือใช้ผ่าน Roon ซึ่งน่าจะให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด แต่ปัจจุบัน Roon ยังไม่รองรับ และน่าจะอัพเดทผ่าน firmware ในอนาคต (แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร่)
อีกฟังชั่นนึงที่สำคัญของ AVM90 ก็คือ Auto Room Correction ที่ทาง Anthem พัฒนาโปรแกรมที่ชื่อว่า ARC Genesis ของตัวเองขึ้นมาใช้เอง ตัวโปรแกรมทำงานโดยการวัดค่าลำโพงจากจุดนั่งฟัง และคำนวณและปรับค่าต่างๆรวมถึง EQ ทั้งหมดให้ตาม Target Curve ที่โปรแกรมตั้งไว้ หรือหากเราไม่ชอบเสียงก็สามารถปรับ Target Curve ให้เสียงเป็นไปตามที่เราต้องการได้หลังจากวัดเสียงเสร็จครับ

ARC Genesis
ตัว software ARC Genesis ของ Anthem นั้นมีความง่ายและความยากอยู่ในตัว นั่นคือความง่ายของการวัดที่ไม่ยุ่งยาก และวัดน้อยจุดกว่า software อื่นๆเช่น Dirac Live มาก จึงทำให้การวัดทำได้เร็วและไม่เสียเวลามากนัก แต่ข้อเสียก็คือตัวเครื่องยังไม่วัดและปรับ distance ให้ และข้อเสียอีกข้อก็คือหลังจากการวัดแล้ว การจะปรับ target curve หรือภาษาบ้านๆก็เคยปรับกราฟให้มันเสียงถูกใจคนฟังนั้นทำได้ยาก เพราะตัว software ไม่สามารถทำเป็น gui ให้เราดึงกราฟได้เหมือน Dirac Live แต่เราจะต้องนั่ง input ค่าที่แต่ละความถี่เอง ซึ่งการดึงกราฟแต่ละจุดจะต้องใส่ค่าเองบนหน้าจอ เราไม่สามราถเอาเมาส์ไปดึงกราฟขึ้นมาแบบ real time ได้ครับ
และความละเอียดของ algorithm ในการปรับ EQ, Target Curve ออกมานั้นทำได้ดีในระดับนึง
หมายเหตุ: สาเหตุที่ทำไมต้องปรับ Target Curve เพราะความชอบคนเราไม่เหมือนกัน บางคนชอบเบสท่วมๆห้อง เบสช้า เบสเร็ว บางคนฟังบาง บางคนชอบเสียงใหญ่ๆเกินจริง บางคนชอบเสียงสมจริง บางไม่เป็นไร บางคนทนฟังเสียงแหลมตามปกติไม่ได้เพราะแสบหู ทุกอย่างที่กล่าวมาแก้ได้หมดในการปรับ Target Curve นั่นเองครับ (แก้โดยไม่ต้องใช้ spend เงินลงไปบน accessories เพื่อเปลี่ยน EQ ในระบบแม้แต่บาทเดียว)
ข้อเสียอีกข้อก็คือ บางที ARC Genesis มักจะหาเครื่องเราในวงแลนไม่ค่อยเจอ ต้องปิดและเปิดใหม่ (ปัญหาตัว environment ซึ่งบางคนอาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้)
Listen
หลังจากต่อมทดลองฟัง ซึ่งเราใช้ Anthem AVM90 , Emotiva XPA-5 , Klipsch RF-7 III, Kef R600C, Klipsch R500M, Velodyn Impact 10
คุณภาพเสียงที่ได้หลังจากต่อฟังจาก source ไม่ว่าจะเป็น Sreaming อย่าง Netflix, Youtube หรือหนัง Full Rip ที่เราดึงจาก NAS นั้น ต้องบอกว่าน่าตื่นตะลึง สำหรับการลองฟังครั้งแรกหลังจากแกะกล่องมาใหม่ๆโดยยังไม่ได้ทำอะไรกับมันมากนัก เพราะเสียงที่ได้นั้น เมื่อเทียบกับ AVM70 ตัวที่เราเคยนำมาทดสอบแล้ว เสียงมันต่างกันมากจริงๆ ต่างมากแบบชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะความสะอาดของเสียง ความชัด และความกระชับของตัวเบสที่ทำได้ดีมาก ไม่บาง และไม่ท้วมอ้วนอวบจนรู้สึกอึดอัด
นอกจากเสียง สิ่งนึงที่สังเกตว่า improve ขึ้นนั้นก็คือ ภาพที่ได้จากการเล่น content ความละเอียด Full HD เช่น youtube ผมไม่แน่ใจว่าตัว Pre มีการอัพสเกลหรือทำอะไรกับภาพ เพราะทางผู้ผลิตไม่ได้ให้ข้อมูลในส่วนนี้ไว้เลย ทั้งใน specification และทั้งใน feature เด่นๆที่ในหน้าเพจของ Anthem เอง
แต่ภาพที่ได้จาก LED 65" ที่แสดงผลผ่าน HDMI2.1 นั้นมันดูกระจ่าง ชัดและต่างจากเดิมไปแบบสังเกตได้

แนวเสียง
เสียงจาก AVM90 มีเนื้อเสียงที่สะอาด จุดเด่นแรกที่เราจะสัมผัสได้ทันทีที่ลองฟังคือความชัดเจน ไร้สากเสี้ยน ไร้ความขุ่มมัว ความถี่ต่ำที่ได้เป็นความถี่ต่ำคุณภาพดีที่กระชับ เก็บตัวเร็ว สะอาด และกระแทกกระทั้น แต่ไม่ช้า เบลอ ไม่มีเนื้อเบสอ้วนๆมาปกคลุมกวนทำให้เนื้อเสียงขาดความสะอาดใสและลดทอนรายละเอียดลงแต่อย่างใด เนื้อเสียงนั้นน่าจะถูกใจสายฟังเพลงที่เน้นความชัด ความสะอาดและคอดูหนังที่เน้นในคุณภาพเบสที่ดีมากๆ แต่อาจจะไม่ถูกใจสายฟังเพลงที่ต้องการความเนิบช้า หรือม่านหมอกของ deep bass มาคลุมให้เสียงมีความ laid back หรือหนาๆอุ่นๆแบบนั้นเท่าใด
ในส่วนของงบรรยากาศและการแยกแยะ บรรยากาศความโอบล้อมนั้นทำได้ดีไม่แพ้กัน เมื่อเนื้อเสียงสะอาด จึงทำให้บรรยากาศรอบๆตัวนั้นทำได้น่าประทับใจ แยกแยะตำแหน่งของเสียงที่ได้จาก Immersive Sound Format ไม่ว่าจะเป็น Dolby Atmos, DTS:X ได้ดีมากเช่นกันครับ
และตัวเครื่องยังรองรับ Imax Enhance สำหรับคนที่มี player และจอภาพที่รองรับฟังชั่นนี้ก็จะได้รับชมและสามารถถอดรหัสให้แสดงผล Imax Enhance ได้ด้วย
จากการทดลองฟังเสียงที่ได้ค่อนข้างถูกใจผมมากพอสมควร การนั่งดูและฟังเพลงจาก Youtube ผ่าน Pre ตัวนี้กลายเป็นความบันเทิงและความสุนทรีย์สำหรับผมมากในค่ำคืนที่ทำการทดสอบ เพราะเนื้อเสียงสะอาด ชัด และเบสคมกระชับดีมากจริงๆ มันผลักดันและทำงานคู่กับ Power Amp และลำโพงที่มีจุดเด่นในเรื่องความชัดเจนอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นความชัดดีขึ้นไปอีกมาก

ทดสอบ HDMI 2.1
หลังจากทดลองต่อ XBOX Series X เข้ากับ AVM90 หน้าจอของ Xbox ในหน้าทดสอบการแสดงผล บอกกับเราว่า Pre ตัวนี้รองรับ 4K@120Hz เรียบร้อยแล้ว เราจึงลองตั้งให้เครื่องปล่อยการแสดงผลออกไปที่ Pre เป็น 4K120Hz
ผลที่ได้หลังจากลองทดสอบ ปรากฏว่าตัว HDMI 2.1 ของ AVM90 ยังทำงานแล้วมีข้อผิดพลาดอยู่ นั่นคือมีอาการเสียงหายเป็นช่วงๆ โดยทุกๆ 10 วินาที เสียงจะหายไปแว่บนึง (เสียงหายไปประมาณวินาทีนึง) และจะหายแบบนี้วนไปทุกๆประมาณ 10 วินาที ซึ่งสร้างความฉงนให้เราพอสมควร และไม่แน่ใจว่าอันนี้เป็น defect ของเครื่องหรือเกิดจาก HDMI 2.1 Issue
จนเราลองไปค้นดูใน forums ของชาวต่างชาติที่ใช้งาน HDMI 2.1 ในรุ่นนี้ก็พบว่า คนอื่นก็เจอปัญหานี้เช่นกัน
โดยฝรั่งเรียกอาการนี้ว่า audio dropout issues
link : https://www.avsforum.com/threads/official-anthem-avm-70-90-owners-thread.3181385/page-407?fbclid=IwAR3HCAtuNOsheDX4p8b8wOF0nEPvfZE5NUJ6lD2OaeZe8boiadaEHolIDcU
ใน foums ฝรั่งเจออาการนี้และ report ไปทาง Anthem เรียบร้อยแล้ว ทาง Anthem ยืนยันว่าเทสแล้ว และให้ลองสลับ hdmi output1 (eARC) ไปเป็น HDMI Output 2 แทน ทางคนโพสก็ทดสอบและยังพบอาการเดียวกันอยู่
และใน Clip CDO Test อันนี้ทางผู้รีวิวก็เจอปัญหาเดียวกัน ข้ามไปดูนาทีที่ 4:20
https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=JXl02k2CEdA&fbclid=IwAR2ldfMDxZBBij40JaIyIHPDCEdgcP_dzjJeeKEpEr9hbgWxH4IAmLwA3M8
ภายหลังจากที่เราปรับตัว source จาก Xbox ลงมาเป็น 4K@60Hz อาการดังกล่าวก็หายไป และใช้งานได้ปกติ ไม่มีอาการเสียงหาย (audio dropout)
ตรงนี้เราเลยสรุปว่า HDMI 2.1 นั้นยังทำงานไม่ได้ และยังมี issue ที่รอทาง Anthem จะต้องแก้ไขต่อไป
หมายเหตุ: การใช้งานปกติที่ไม่ได้ต่อกับ XBOX SX, PS5 ที่ปรับ output ของเครื่องเกมเป็น 4k 120hz จะไม่มีปัญหาอะไรเลย และคนที่ใช้เพื่อดูหนัง ไม่เล่นเกม จะไม่กระทบอะไรกับ feature นี้ใดๆทั้งสิ้น

ข้อดี
1. คุณภาพเสียงดีมากๆๆ นี่อาจจะเป็นโชคดีที่ Anthem เปลี่ยน DAC มาใช้ ESS9038 ซึ่งให้รายละเอียดเสียงได้ดีมากแบบก้าวกระโดดจากตัว AVM70 ที่เราเคยทดสอบ และเสียงที่ได้เข้ากับลำโพงและแนวเสียงตรงกับความชอบของเรามากๆ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดที่พรั่งพรู ความชัดแบบสุดๆ ความสะอาด และแรงกระแทกของเบสที่คมกริบ ไม่เบลอ บวมหนาอวบให้รู้สึกมากวนรายละเอียดใดๆเลย คุณภาพเสียงดีมากจริงๆครับ อันนี้ต้องขอชมเชย
2. Auto Room Correction ทาง Anthem พัฒนา ARC Genesis มาให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ Setup เสียงได้ในระดับที่ผลลัพธ์ใช้งานได้แบบน่าพอใจในระดับนึง และให้คุณภาพการวัดที่ดีกว่าค่ายอื่นๆ และยังมีความง่ายและไม่ซับซ้อนแบบที่ผู้ใช้งานทั่วๆไปสามารถใช้งานได้ไม่ยากจนเกินไปครับ
3. ตัวเครื่องมี user interface การใช้งาน และมีความเร็วที่ดีมาก โดยเฉพาะการบู้ทเครื่องเริ่มใช้งานนั้นใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาที และการสวิทซ์ HDMI เปลี่ยนจาก Channel ต่างๆนั้นทำได้เร็ว และเสถียรดี

ข้อเสีย
1. ตัวเครื่องยังมีความไม่เสถียร และ bug อยู่พอสมควร เช่นการใช้งาน update firmware จากตัวเครื่องโดยตรงนั้นทำไม่ได้ เมื่อกด update จะเด้งออก ต้องเข้าไปใช้งานในหน้า web IP แทน และเมื่อใช้งาน ARC Genesis แล้วเครื่องยังมีอาการหาเครื่องไม่เจอบ้างเป็นครั้งคราวจาก network หรือเหตุผลต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ต้องปิดและเข้าใหม่ และยังมีความยุ่งยากที่ ARC Genesis ยังมีความเข้ากันได้กับ firmware ของตัวเครื่องในบาง version เช่น ถ้า firmware เครื่องรุ่นเก่าจะใช้งาน ARC Genesis ไม่ได้ ต้องอัพเดท version ของทั้งตัวเครื่องและตัว ARC Genesis ให้เป็น version ที่รองรับกันได้ เป็นต้น
2. HDMI 2.1 มีอาการ audio dropout หรือเสียงหายเป็นระยะๆ และต้องรอทาง Anthem แก้ไข
3. ตัวเครื่องใช้การระบายความร้อนด้วยพัดลม ดังนั้นจึงมีโอกาศได้ยินเสียงพัดลม (fan noise) เมื่อใช้งานในห้องที่มีความร้อนมากๆ ที่ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ (ในความเป็นจริงคงไม่มีใครทำแบบนั้น) หรือเมื่อไม่เปิดหนังหรือเปิดเสียงจากตัวเครื่อง อาจจะได้ยินเสียงพัดลม เพราะตัวเครื่องมีการใช้พัดบมระบายความร้อนและมีความดังพอสมควร หากห้องมีความร้อนสูง หรือปิดเสียงก็อาจจะได้ยินได้ แต่ทั้งนี้หากใช้งานดูหนัง ฟังเพลงปกตินั้นก็จะไม่เจออาการนี้ครับ
ซึ่งเป็นเรื่องปกติของอุปกรณ์ที่ระบายความร้อนด้วยพัดลมอยู่แล้ว

AVM90 เหมาะกับใคร?
ตัว AVM90 อาจจะเป็นเครื่องที่หลายๆคนมองข้าม เพราะด้วยราคาค่าตัวที่ double ขึ้นมาเกือบจะสองเท่าของ AVM70 นั้น ในขณะที่ฟังชั่นและตัวถังแทบจะเหมือนกันทุกประการ จะมีเพิ่มขึ้นมาก็แค่ Subwoofer out ที่ต่อได้ 4 ช่อง ซึ่งเราสามารถหาซื้อ Mini DSP หรือ External DSP มาใช้แทนได้ในราคาแค่ไม่กี่พันบาท และฟังชั่น HDMI2.1 ที่แถมมา หากไม่ใช่เป็นคนที่ใช้ source อย่าง XBOX Series X, PS5 ก็จะไม่ได้ใช้งานในส่วนนี้เลย นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ส่วนต่างที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มมาเป็นแสนบาทนั้นดูไม่คุ้มค่าเท่าใดนัก
ใช่ครับ นี่เป็นความคิดของคนทั่วไป และนั่นก็คือความคิดของผมด้วยเมื่อพูดถึง AVM90 เพราะมันดู overprice ไปมากเมื่อเทียบกับฟังชั่นทีไ่ด้เพิ่มมา
แต่ความไม่คุ้มทั้งหมดที่เขียนไปในย่อหน้าข้างบนมันสูญสิ้นไปหมดหลังจากได้ฟังเสียงของมันตอนต่อฟังในครั้งแรก เพราะคุณภาพเสียงที่ได้นั้นมันต่างกับ AVM70 รุ่นน้องมากจริงๆ
ซึ่งเครื่องเสียง ฟังชั่นหลักที่เราต้องการก็คงจะเป็นคุณภาพเสียง เพราะ output เพียงอย่างเดียวที่มนุษย์สัมผัสได้จาก pre-processor ก็ถือ ภาพ กับ เสียง แม้ฟังชั่นจะมากมายท่วมเครื่องเพียงใด แต่ถ้าเสียงที่ได้มันไม่ถูกใจเรา เราก็ไม่อยากจะทนฟังมันแม้แต่นาทีเดียวถูกมั๊ยครับ
แต่ถ้าเสียงที่ได้มันถูกใจเรานั้น เราก็ถือว่าได้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ของการเล่นเครื่องเสียงและได้ใช้งาน มีความสุขกับมันเต็มที่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดเครื่องครับ

ตอนนี้ถ้าถามผมว่าเงินที่ต้องจ่ายมากขึ้นเพื่ออัพเกรดจาก AVM70 ไปเป็น AVM90 นั้นมัน overprice มั๊ย ตอนนี้ผมคงตอบได้เต็มปากว่าไม่เลยครับ เพราะเสียงที่ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าฟังชั่นที่ปรากฏบนสเปกในกระดาษมาก แต่อย่างไรก็ตามผมก็ไม่แน่ใจว่า วันใดที่สถานการณ์ชิป กลับมาปกติ Anthem จะเปลี่ยน DAC จาก ESS กลับมาเป็น AKM เหมือนเดิมหรือเปล่า และผมก็ไม่แน่ใจว่าเสียงมันจะยังเหมือนเดิมไหม ไม่แน่นี่อาจเป็นเพียงโอกาศอันน้อยนิดและความโชคดีที่ได้เสียงที่ถูกใจแล้ว และล็อตถัดๆไปอาจจะได้เครื่องที่ใช้ DAC AKM และเสียงก็อาจจะดีขึ้น หรือแย่ลงก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมค่อนข้างโอเคกับคุณภาพเสียงและการจูนเสียงของ AVM90 แบบที่ไม่ต้องแก้อะไรแล้ว ยกเว้นอย่างเดียวคือรีบแก้ HDMI 2.1 issue ให้เสร็จจะดีมากๆครับ
ในส่วนของคนที่สนใจ AVM90 นั้น ผมมีความเห็นว่าตัวเครื่องทำได้ดีทั้งการดูหนัง ฟังเพลง ดูคอนเสริต์และยังใช้งานง่าย รวดเร็ว เนื้อเสียงมีความสะอาดสูงมากกก คมชัด สะอาด เบสเก็บตัวดี กระชับและสะอาดมาก คุณภาพเสียงสูง จึงเหมาะกับคนที่อยากได้ pre-processor คุณภาพสูงสักตัวมาใช้ในห้องดูหนัง โดยที่อุปกรณ์ลำโพง และ power amp นั้นอาจจะต้องใช้ของที่เหมาะสมและอยูในระดับที่ดีหน่อยเพื่อแสดงศักยภาพของตัวเครื่อง AVM90 ให้ออกมาได้เต็มที่ และเพื่อให้มันแสดงความแตกต่างจาก AVM70 แบบชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
แต่ถ้าชุดที่ใช้ไม่ใหญ่มากนักนั้น อาจจะลองดูตัวที่รองลงมาเช่น AVM70 , Emotiva RMC-1, Emotiva XMC-2 แทนจะให้ความคุ้มค่ากับเงินที่ดีกว่าครับ

สรุป
Anthem AVM90 pre-processor 15.4 channels native รุ่นสูงสุดที่มีดีมากพอ และเมื่อเทียบราคากับคุณภาพเสียงที่ได้แล้ว ผมว่ามันคุ้มและไม่แพง แต่ถ้าคุณเทียบราคากับ spec sheet อย่างเดียวก็ไม่แปลกที่จะดูว่ามันไม่คุ้มและราคาแพงไป
และนี่อาจจะไม่ใช้ pre-processor ที่ perfect และไร้ที่ติ แต่ตัวมันยังมี bug ที่ยังไม่ได้แก้ มี feature ที่ยังใช้งานไม่ได้สมบูรณ์เช่น HDMI 2.1, Roon Ready และนี่อาจจะไม่ใช่ pre-processor ที่ราคาเหมาะกับทุกห้อง
แต่ถ้าพิจารณาคุณภาพเสียงที่ได้ และคุณเข้าใจในข้อจำกัดของมัน เข้าใจการใช้งาน อะไรได้อะไรไม่ได้ และชอบเสียงสไตล์นี้ ผมว่านี่เป็น pre-processor อีกตัวที่คุณคุ้มค่าตัว และที่แน่ๆ นี่เป็นปรีอีกหนึ่งตัวในไม่กี่ตัวที่ผมเลือกเข้ามาใช้งานเองในห้องส่วนตัวครับ






