ลำโพง AudioMaxim ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ เป็นลำโพงในซีรี่ย์ VK Series ที่จัดเป็นลำโพงในหมวด Home Theater และถูกออกแบบเป็นลำโพงในแบบ Dedicated Home Theater (ลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อดูหนังโดยเฉพาะหรือจะเรียกว่า Home Cinema ก็ได้) ซึ่งแน่นอนครับเราปฏิเสธไม่ได้ว่า จุดแรกที่ถือเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ดึงดูดให้หลายๆท่านหันมามองลำโพงในรุ่นนี้นั้นก็คือ "ราคา" นั่นก็เพราะเป็นลำโพงที่ราคาถูกจัดให้อยู่ในระดับ Budget และเข้าถึงง่าย ด้วยราคาขายในบ้านเราเพียงราคาไม่ถึงหมื่นบาท (ต่อตัว) ซึ่งปกติลำโพงในหมวดนี้เราย่อมรู้กันอยู่ว่าเจ้าตลาดผู้ผลิตลำโพงดูหนังคุณภาพสูงๆ อย่าง M&K, Klipsch, XTZ หรือแม้แต่ Procella นั้น มันราคาต่อตัวสูงกว่านี้อย่างต่ำๆ 5-10 เท่า
ประวัติความเป็นมาของ AudioMaxim นั้นก่อตั้งในปี 1991 หรือเมื่อ 30 ปีมาแล้ว ใช้โลโก้เป็นรูปนักวาทยากรบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์และความต้องการของบริษัทที่เขียนไว้ในหน้า Abous Us ของพวกเขาว่า "AUDIMAXIM is a company dedicated to the design, development and manufacture of high quality audio products" โดยสินค้าของพวกเขานั้นมีครบทุกไลน์ ไม่ว่าจะเป็นลำโพง 2 แชนแนล, int amp, Power amp และรวมถึงลำโพงดูหนังที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ด้วย
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเข้าไปดูเป็นสิ่งแรกรองจากสเปกของ product เมื่อเห็นสินค้าหรือแบรนด์ใหม่ๆที่ยังไม่ได้ลองฟังนั่นก็คือ About us หรือ Vision ของ CEO ครับ เพราะผมเชื่อเป็นอย่างยิ่ง บริษัทผู้ผลิตทุกแห่งนั้น ล้วนมีเป้าหมายในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ สร้างเครื่องเสียงที่ดี เสียงเพราะ น่าฟังทั้งสิ้น และคงไม่มี CEO หรือผู้ผลิตคนไหนที่ตั้งเป้าว่าจะสร้างเครื่องเสียงห่วยๆ เสียงแย่ๆ เน้นกำไรสูงสุดอย่างเดียวแน่นอนครับ และทุกรายนั้นก็บอกเหมือนๆกันว่า ของของตัวเองนั้นเสียงดี คุณภาพสูง อ่ะแน่นอนสิครับ ใครมันจะไปบอกของตัวเองห่วย แต่คำว่าเสียงดีตรงนี้แหละครับ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเสียงดีของผู้ผลิต กับเสียงดีของเรามันเป็นไปในทางเดียวกันไหม นั้นเพราะว่า ผู้ผลิตบางรายก็เชื่อว่าเสียงหนาๆ อวบๆ อ้วนๆ laid back ดีเทลไม่ต้องเยอะ แบบนี้คือเสียงดี
"ผู้ผลิตบางรายก็บอกว่า Details is King รายละเอียดต้องพรั่งพรู ต้องสมจริง" "บางผู้ผลิตก็บอกเสียงต้องไร้ color ต้องเหมือนฟังจากแผ่นและห้องอัพ" "ผู้ผลิตบางรายก็บอกว่าเสียต้องไลฟ์ เหมือนฟังสด ฟังอยู่หน้า stage จริงๆ"
นั่นแหละครับ คนทำร้อยคนก็เสียงดีร้อยแบบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เสียงดีกันหมด แต่คนละแนว แล้วเสียงดีที่ว่ามันจะโดยใจและแตะหูเราหรือไม่นั่นก็เป็นอีกเรื่อง เช่นตัวอย่างตอนที่ผมเลือกซื้อ Hegel มาใช้เองนั้นผมเห็นวิสัยทัศน์ของนาย Ben Holter ที่ว่าไว้ว่า Int Amp ของเขานั้น สิ่งสำคัญคือ Dynamic Range และ Damping Factor ซึ่งตรงกับความเชื่อและรสนิยมในการฟังของผมที่เชื่อว่าดนตรีที่ดีต้องมีความเที่ยงตรง ไม่บิดเบือนหรือนุ่มเกินกว่าความจริง ผมจึงซื้อเลยโดยไม่ต้องฟัง เพราะนี่คือแนวคิดและหลักการที่ตรงกับความเชื่อและจริตในการฟังเพลงของเรา