วันนี้เรามีพรีวิวจาก Audioholics มาฝากกันครับ กับ AVR รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว นั่นคือ Onkyo TX-NR646 และ TX-NR747
โดยทั้งสองรุ่นนี้เพิ่งออกใหม่สดๆร้อนๆจากเตา และยังรอบรับ Dolby Atmos และ DTS:X ด้วย ทีนี้เรามาดูกันว่าทั้งสองรุ่นนี้มีฟีเจอร์อะไรเด่นๆ แตกต่างกันยังไง แล้วน่าซื้อมั๊ยกับ AVR ที่รองรับ DTS:X ทั้งสองรุ่นนี้
--------------------------------------------------------------------------------
Credit บทความ: http://www.audioholics.com/av-receiver-reviews/tx-nr646-and-tx-nr747-preview
Credit รูป: http://www.cnet.com/products/onkyo-tx-nr646/
--------------------------------------------------------------------------------
Onkyo TX-NR646 (left) and TX-NR747 (right)
DTS:X ระบบเสียงแบบใหม่ล่าสุดที่ลงมาสู่เครื่องเสียงบ้าน ซึ่งใช้แนวคิดแบบ object-based surround sound ที่อนุญาติให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนด หรือ adjust เสียงรอบทิศทางที่เหมาะกับห้อง และความชอบของคุณได้เอง ซึ่งจะแตกต่างจากระบบเสียงแบบเดิมๆอย่าง channel-based ที่จะฟิกซ์ตำแหน่งลำโพงและเสียงที่ได้จะถูกมิกซ์มาแล้วจากผู้สร้างหรือผู้ผลิตตายตัว ไม่สามารถกำหนดหรือปรับแต่งได้ แต่ DTS:X สามารถเลือกได้ว่าจะให้เสียงออกมาเป็นอะไรและเน้นเสียงที่ตำแหน่งหรือแชนแนลไหน ตามสภาพห้องของคุณเอง (โดยใช้ DTS:X encoded software เป็นตัวช่วยปรับ) และที่สำคัญ DTS:X จะสามารถรองรับกับระบบที่คุณมีอยู่ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 5.1, 5.1.2, 5.1.4, หรือ 7.1.4 ก็สามารถรองรับได้
รายละเอียดระบบเสียง DTS:X - DTS:X Surround Sound Overview and First Listen
แน่นอนว่าระบบเสียงอย่าง Dolby Atmos นั้นทั้ง NR646 และ NR747 สามารถรองรับได้มาจากโรงงานทันที ซึ่งระบบเสียงแบบ Dolby Atmos นั้นเราอาจจะคุ้นเคยกันมาสักพักแล้ว แต่ด้วยคอนเซปจริงๆของ Dolby Atmos นั้นจะประกอบไปด้วย channel-based และ object-oriented ผสมกัน นั้นคือตัวลำโพงยังใช้รูปแบบลำโพงที่ต้องเพิ่มลำโพงตัวด้านบนหัวเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น 5.1.2 หรือ 5.1.4 โดยเสียงจะถูกมิกซ์และบันทึกมาจากผู้ผลิตภาพยนตร์หรือผู้สร้างให้เสียงมีลักษณะรอบทิศทาง เสมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตการณ์จริงๆ โดยเสียงที่ได้จะมีความสมจริงมากกว่าระบบเสียง Dolby True HD ปกติเนื่องจากมีการเติมลำโพงด้านบนเข้าไปทำให้ได้บรรยากาศรอบตัวของจริง และที่สำคัญ AVR ที่รองรับระบบเสียงนี้จะสามารถนำหนังที่ไม่ได้ถูกบันทึกมาแบบ Dolby Atmos มาเล่นโดย Up-mix เสียงให้กลายเป็น Dolby Atmos ได้ด้วยนะ (แน่นอนว่าเสียงที่ได้ย่อมไม่ดี สมจริงเท่าหนังที่ถูกบันทึกมาแบบ Dolby Atmos จริงๆแน่นอน)
ส่วน Onkyo 646, 747 นี้จะรองรับ dolby Atmos ได้แค่สองแชนแนลนั่นคือ 5.1.2 เท่านั้น ถ้าใครอยากจะเล่นแบบเต็มระบบอย่าง 5.1.4 หรือ 7.1.4 นั้นอาจจะต้องหา AVR รุ่นสูงๆกว่านี้ครับ
รายละเอียดระบบเสียง Dolby Atmos: Dolby Atmos for Home Theater Explained
AVR ทั้งสองรุ่น รองรับเทคโนโลยี HDMI HDCP 2.2 แบบใหม่ล่าสุดที่สามารถรองรับแบนวิธได้สูงสุดถึง 18 Gbps ซึ่งนั่นหมายความว่ามันสามารถรองรับการส่งถ่ายข้อมูลผ่านสายสัญญาณ HDMI จากเครื่องเล่นมายังตัว AVR และส่งต่อสัญญาณภาพไปยังจอภาพไม่ว่าจะเป็นจอ led หรือ projector ให้ภาพที่มีความละเอียดสูงระดับ 4k Ultra HD ได้ โดยมีข้อแม้ว่าเครื่องเล่น สาย hdmi ทั้ง Input / output และจอต้องรองรับภาพแบบ 4K ultra HD ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็จะมีภาพยนตร์ที่ถูกบันทึกในความละเอียดแบบ 4K นี้ทยอยออกสู่ตลาดในอนาคต
ด้วยความละเอียดระดับ 4K@50/60 (2160p) นั้นมีความละเอียดกว่าภาพแบบ hidef ในปัจจุบันที่มีความละเอียด 1080p/60 video resolution ถึง 4 เท่า
และ AVR Onkyo ยังสามารถส่งถ่ายข้อมูลแบบ High Dynamic Range (HDR) formats ได้ด้วย รวมไปถึงยังช่วยปรับปรงคุณภาพภาพในส่วนที่มืดและสว่างได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าด้วย
Onkyo TX-NR646 และ NR747 รองรับ AirPlay, Wi-Fi, Bluetooth มาจากโรงงานโดยไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมใดๆมาต่อเพิ่ม และยังสามารถ streaming เพลงต่างๆผ่านทางอุปกรณ์เช่น Smartphone, Tablet และเครื่องเล่นต่างๆผ่าน network โดยควบคุมผ่านทาง Onkyo Remote app หรือจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เช่นมือถือเข้าโดยตรงกับ AVR โดยใช้ Bluetooth ก็ทำได้เช่นกัน .
AVR ตัวนี้มาพร้อมกับ service ไม่ว่าจะเป็น Spotify, Pandora, SiriusXM Internet Radio, Slacker and TuneIn ซึ่งสามารถเลือกใช้และเล่นได้ตามใจชอบได้เลยผ่านทาง Onkyo Remote app บน Smartphone หรือ Tablet
Onkyo's มีการปรับแผงวงจรและภาคจ่ายไฟให้มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อรองรับเสียงในการรับชมภาพยนตร์ เพลงและเกมให้ดีกว่าขึ้นเดิม โดยรูปแบบแผงวงจรแบบใหม่ที่ Onkyo ใช้นั้นเราเรียกว่า "Wide Range Amplifier Technology" (WRAT) ซึ่งคีย์การทำงาน การออกแบบวงจร รวมถึงภาคจ่ายไฟหลักๆดังนี้
Onkyo amplifier design
จากตัวเลข spec ของ Onkyo NR-TX646 ทึ่เคลมกำลังขับไว้ที่ 170 W/Ch (6 Ohms, 1 kHz, 0.9% THD, 1 Channel Driven, FTC) หรือถ้าเทียบที่มาตรฐานทั่วๆไปก็จะได้อยู่ที่ 100 W/Ch (8 Ohms, 20 Hz–20 kHz, 0.08% THD, 2 Channels Driven, FTC)
และ Onkyo TX-NR747 ให้กำลังขับ 175 W/Ch (6 Ohms, 1 kHz, 0.9% THD, 1 Channel Driven, FTC) หรือให้กำลังขับที่ 110 W/Ch (8 Ohms, 20 Hz–20 kHz, 0.08% THD, 2 Channels Driven, FTC).
มุมมองของผู้เขียน:
วิธีการบอกตัวเลขกำลังขับนั้นโดยปกติจะมองที่กำลังขับที่ 8 โอห์ม อย่างน้อย 2 channel มากกว่าดูที่ 6 โอหม์ 1 channel อย่างที่ Onkyo เคลมสเปกไว้ ซึ่งการใช้งานในชีวิตจริงจะไม่ได้กำลังขับอย่างที่แจ้ง
ถ้าจะดูตัวเลขในการใช้งานจริงๆให้ดูที่ full bandwidth ทุกแชนแนลหรืออย่างน้อย 2 channel (20Hz to 20kHz, 8 ohms) เป็นหลักครับ
Onkyo TX-NR646 (left) and TX-NR747 (right)
รุ่นใหม่นี้ Onkyo ใช้ DAC คุณภาพสูง AK4458 digital-to-analog converter จาก Asahi Kasei ที่ให้ความเพี้ยนต่ำและให้เสียงที่สะอาดในทุกๆย่าน (low-distortion filtering technologies) ซึ่งหมายถึงว่าเสียงทุกฟอร์แมทที่นำมาเล่นจะดีขึ้นในทุกๆย่านไม่ว่าจะเป็น compressed, lossless, hi-res audio (MP3, WMA, WMA Lossless, FLAC, WAV, OggVorbis, AAC, Apple Lossless, DSD 5.6 MHz, LPCM, and Dolby TrueHD).
และ AVR รุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นไฟล์ analog โดยให้ช่องต่อ Phono input line มาไว้ต่อกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้เลยโดยไม่ต้องหา Pre-Phono นอกมาต่อเพิ่มเพื่อเล่นแผ่นเสียง และนอกจากนั้นยังรองรับ digital audio แบบ hi-res audio playback, gapless playback, DSD, Double DSD, FLAC และ ALAC ไฟล์ Hi-Res รูปแบบอื่นๆด้วย เรียกได้ว่ารองรับสนับสนุนไฟล์ hi-res เกือบทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้
Powered Zone 2 and Zone 2 Line-Outs
Onkyo TX-NR646 และ NR747 มีฟังก์ชั่นสามารถเชื่อมต่อลำโพงไปยัง Zone2 ได้สำหรับใครที่มีหลายห้อง และอยากจะต่อเครื่องเสียงออกไปห้องอื่น ไม่ว่าจะเปิดเพลงเดียวกันจาก avr ทั้งบ้านทุกๆห้อง หรือเล่นแต่ละห้องคนละเพลงแยกกันก็ได้เช่นกัน เรียกว่ารองรับความบันเทิงภายในบ้านทุกรูปแบบเลยจริงๆ
- Powered Zone2: สามารถเชื่อมต่อสายลำโพงออกไปกับลำโพงที่ห้องอื่นโดยใช้กำลังขับจาก AVR Onkyo โดยวิธีนี้สามารถลากสายไปต่อลำโพงได้เลยโดยตรง
- Zone 2 line-outs: วิธีนี้จะลากสายสัญญาณออกไปเชื่อมต่อกับ power amp อีกห้องนึง ซึ่ง AVR Onkyo จะทำหน้าที่เป็น pre-processor และส่งแต่สัญญาณออกไปที่ amp และลำโพงอีกห้อง โดยห้องนั้นจะต้องมีลำโพงและ amp เอาไว้ขับลำโพงแยกต่างหากด้วย
ทั้งสองแบบจะทำให้สามารถต่อลำโพงแยกการใช้งาน แยกห้องได้สูงสุดถึง 3 ห้องนั่นคือ ห้องหลักที่ใช้ avr onkyo เอง และห้องที่สองที่ลากสายลำโพงออกไปผ่านช่อง Powered Zone 2 และห้องที่ 3 ที่ใช้สายสัญญาณเชื่อมกับลำโพงและ amp อีกตัวได้ครับ
Onkyo 646: 23,900 บาท: http://www.whatthatsound.com/product/223/onkyo-tx-nr646
Onkyo 747: 33,900 บาท: http://www.whatthatsound.com/product/224/onkyo-tx-nr747
หากมองหา AVR ระดับเริ่มต้น ระดับกลางที่รองรับอนาคต รองรับทุกอย่างแบบครบๆในตัวเดียว ในขณะที่จ่ายไม่ต้องแพงมากนัก ซึ่งในอนาคต DTS:X จะมี firmware มาอัพเดท (ตอนนี้จะมีอีกตัวที่สเปกและรองรับครบๆคล้ายกันคือ Pioneer VSX-90)
และประเด็นที่ต้องคิดคือระบบเสียง Dolby Atmos ที่รองรับนั้นรองรับแค่ 5.1.2 configuration ซึ่งยังไม่รองรับ Dolby Atmos แบบเต็มระบบ ซึ่งถ้าหากคุณอยากได้ Dolby Atmos ที่รองรับ 7.1.4 น่าจะต้องลองไปดูรุ่นอื่นแต่นั่นก็หมายความว่าฟีเจอร์นี้จะอยู่ใน AVR รุ่นสูงๆที่ต้องจ่ายแพงขึ้นเยอะ นอกเหนือจากระบบเสียงอย่าง DTS:X, Dolby Atmos ก็ยังมีฟีเจอร์เด่นๆอย่าง 4k Ultra HD, Bluetooth, Wi-Fi, and Apple Connect, ที่รองรับแบบครบๆเช่นกัน หากคุณยอมรับได้กับ AVR รุ่นใหม่ที่รองรับทุกฟีเจอร์เกือบครบ ในราคาแค่ 2-3 หมื่นบาท ในราคาประหยัดเช่นนี้ได้ และลำโพงคุณไม่ได้โหดร้าย ขับไม่ได้ยากอะไรนะ AVR ทั้งสองตัวของ Onkyo 646, 747 เป็นอะไรที่คุ้มค่าน่าเล่นมากครับ (อย่าลืมว่ากำลังขับที่เอามาพิจารณาลำโพงควรจะต้องดูที่ 8 โอห์มนั่นคือ 100, 110 วัตต์)
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |