SVS 3000 Micro - Subwoofer for Music?
4 ปีที่ผ่านมา
SVS 3000 Micro - Subwoofer for Music?
เดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา SVS ได้ Launch Subwoofer รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า 3000 micro ออกมา ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการ challenge ตัวเองว่าอยากจะสร้างซับวูฟเฟอร์ขนาดจิ๋วที่ให้เบสที่มีคุณภาพสูง (micro subwoofer that does not compromise on performance) เพราะที่ผ่านมา SVS สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยซับวูฟเฟอร์ดูหนังคุณภาพสูง ในราคาที่เอื้อมถึง แต่ต้องแลกมากับขนาดตัวตู้และขนาดดอกที่ค่อนข้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 13" หรือ 16" อย่าง SB16 Ultra, PB16 Ultra
ความท้าทายนี้ต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดของความถี่ต่ำที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ขนาดของดอกและตู้ที่เล็กย่อมสร้างปริมาณเบสได้น้อย ปริมาณเบสที่เยอะและ deep ก็ต้องแลกมากับความช้า เบสที่คมเก็บตัวเร็วก็ต้องแลกมากับเบสลึกที่หายไป และเบสที่สะอาดก็ต้องแลกมากับปริมาณเบสที่น้อยและไม่เหมาะกับการดูหนัง
ดีไซน์ของ 3000 micro เลือกใช้ตู้ปิดไซส์เล็ก และใช้ดอกวูฟเฟอร์ขนาดเพียง 8" คู่วางตรงข้ามกันและทำงานพร้อมกัน ใช้ Active amp 800 watt RMS, 2,500+ watt Peak รองรับความถี่ต่ำ 23-240 Hz
ตัวตู้มีน้ำหนักเพียง 10 กิโลกรัม และตัวเล็กมากเพียง 10.9” (H) 11.7” (W) 10.7” (D) เรียกว่ามันสามารถตั้งที่ไหนก็ได้ เพราะ foot print มันเล็กนิดเดียว ขอให้มีพื้นที่นิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ก็สามารถเอา 3000 micro ไปวางแอบหรือหาที่วางได้ง่ายเป็นอย่างมาก
ผิวตู้ของ 3000 micro ทำออกมาเป็นสี hi gloss ดำ และ ขาว ไม่มีสี blach ash ให้เลือกเหมือนรุ่นอื่นๆ และแน่นอนว่าข้อดีของสี hi gloss ก็คือความสวยงาม และหรูหรา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยรอยนิ้วมือและรอยขนแมวที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่นาทีแรกที่คุณเอามันออกมาจากกล่องนั่นเองครับ
ช่องต่อของ 3000 micro ให้มาเป็น rca (un-balance) ไม่มีช่อง xlr (balance) และ hi-level แต่มี usb สำหรับเชื่อมต่อกับ svs wireless addapter ของเขาเอง
ที่ด้านหลังของตัวตู้มีปุ่มปรับทุกอย่างครบหมด ตั้งแต่ volume, lowpass (crossover), phase
การต่อใช้งาน
ทดสอบต่อใช้งาน 3000 micro กับซิสเต็ม 2 ch ที่เราใช้ซึ่งประกอบไปด้วย Gryphon Diablo 300 ลำโพง Klipsch La Scala AL5 และ Dac Streaming Nad C658
ทดสอบด้วย tidal connect เพลงที่เราทำ playlist เดิมๆที่เราฟังบ่อยๆ คุณภาพเสียงที่ได้นั้นฟังออกตั้งแต่ฟังเพลงแรก ซึ่งเราก็พยายามจะเลือกเพลงที่มันมีความถี่ต่ำและไลน์เบสที่เดิมเราฟังและคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว
- ปริมาณเบส :
แน่นอนว่าด้วยไซส์ห้องขนาด 35 ตารางเมตรของเรานั้น และขนาดของซับวูฟเฟอร์ไซส์นี้ จึงทำให้ต้องเร่งเบสในระดับ 60-70% ขึ้นไป แต่ข้อดีของ 3000 micro ก็คือ มันไม่มีอาการเหมือนซับยุคเก่าที่ทำ gain มาเหมือนจะเร่งได้เยอะ คือเร่งไม่ถึง 25% ก็ได้ปริมาณเบสมากพอแล้ว แต่พอเร่งขึ้นไปถึงจุดๆนึง เช่น 50% เบสก็จะมีอาการเพี้ยนหรือ distort แล้ว แต่ของ 3000 micro จะสามารถเร่งได้ไปจนสุดเกจ หรือสุดของมันเลยโดยไม่มีอาการที่ว่า ซึ่งอาจจะเป็นผลจากการที่ใช้แอมป์กำลังสูงถึง 800 watt 2500 watt peak กับดอกเล็กขนาดนี้ด้วย
และเมื่อนำไปเทียบกับ sb 1000 pro ที่เราเคยนำมาทสอบเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนนั้น ต้องบอกว่าอันนั้นอาการหนักกว่านี้ เพราะต้องเร่งไปถึงจุด 80-90% เลยทีเดียว
ซึ่งปริมาณเบสของ 3000 micro นั้นก็ถือว่าเยอะเกินตัว เกินหน้า sb1000 pro, sb2000 pro และน่าจะไปแตะใกล้ๆรุ่น sb3000 series ได้เลยเมื่อฟังจากความถี่ต่ำที่ได้
- บุคลิคและแนวเสียง :
3000 micro ที่เราทดสอบกับการฟังเพลง 2 ch ให้เบสที่มีบุคลิค 2 อย่างด้วยกันนั่นคือ Tight, Clean ซึ่งแปลเป็นภาษานักเล่นก็คือ มันแน่น และสะอาด ผลจากการฟังความถี่ต่ำที่ได้ทำงานในจุดที่มันควรจะอยู่นั่นคือเสริมฐานของเบสในย่านของมัน กระชับ เก็บตัว ไม่มีการขึ้นมากวนและแสดงตนจนเด่นเกินหน้า แต่เรารับรู้ได้ในช่วงจังหวะของเพลงที่มีไลน์เบสที่เราฟังแล้วแน่น กระชับ และไม่แห้งเหมือนตอนฟังแบบไม่ได้ใช้ซับวูฟเฟอร์
และคำว่า clean ในที่นี้ก็คือ เบสเก็บตัวได้ค่อนข้างดีและคมกริบ ตัวโน๊ตต่างๆไม่ออกมาเป็นคลื่นหรือลูกใหญ่ตามจังหวะดนตรีช่วงนั้นๆแม้จะเป็นเพลงเร็ว ความถี่ต่ำก็ยังคมและตามทัน และแม้แต่การเอาหูไปฟังใกล้ๆ ซึ่งปกติในจังหวะนี้เราจะได้ยินเบสที่ครางอื้อๆออกจากตู้ แต่เบสที่ฟังในระยะใกล้ก็ยังเหมือนความถี่ต่ำที่ชัด และมีคุณภาพแม้ฟังในระยะ near field ก็ตาม
นี่อาจจะเป็นซับที่ใช้ประโยชน์จากวูฟเฟอร์ขนาดเล็กได้คุ้มค่ามาก เพราะเบสที่ได้มัน tight , clean กระชับสมกับที่ SVS ตั้งใจให้มันเป็นซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กที่ใช้ในห้องขนาดเล็กหรือกลางที่ให้ความถี่ต่ำคุณภาพสูงได้จริงๆ
ข้อดี
1. ตู้เล็ก และเป็นตู้ปิดจัดวางง่าย
2. ตัวตู้สวยงามเหมือนเฟอร์นิเจอร์ สีไฮกลอสเงาและสวยงาม (เฉพาะตอนเอาออกจากกล่อง)
3. grill หน้ากากดูสวยงามและดีไซน์ใหม่ออกมาเป็นตะแกรงที่ดูนูนและบุ๊มลงไป ไม่เหมือน svs รุ่นอื่นๆ ออกแบบมาเหมือนคลื่นความถี่
4. คุณภาพเบสที่สะอาด คม เร็ว เสริมความถี่ต่ำได้ดี หัวโน๊ตคม กระชับ และไม่กวนย่านความถี่อื่นๆ
5. ง่ายต่อการเซ็ทอัพ เพราะตัวเล็ก ยกง่าย และมี dsp app ให้มาด้วยเหมือนรุ่นพี่
6. ราคาค่าตัวที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพเบสที่ได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งใน segment ซับวูฟเฟอร์ฟังเพลงด้วยกันเช่น Rel, Kef KC62
ข้อเสีย
1. สีไฮกลอส พร้อมจะเป็นรอยได้ทุกเมื่อ ทันทีที่คุณเอามันออกมาจากกล่อง
2. คุณภาพเบสที่ได้อาจจะไม่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ และซิสเต็ม Home Cinema ที่ต้องการเบสประเภทจุกอก
3. ไม่รองรับช่องต่อ XLR input
4. ไม่รองรับช่อง hi-level
สรุป
3000 micro เหมาะกับนักเล่นที่ต้องการเบสสำหรับการฟังเพลงคุณภาพสูง ห้องไมใหญ่นัก หรือนักเล่น home theater ที่มีสไตล์การฟังที่ชื่นชอบเสียงสไตล์ผู้ดี ฟังง่ายฟังสบาย มีรายละเอียด ไม่แสดงตน ไม่โฉ่งฉ่าง ไม่อึกทึกคึกโครม ไม่ชอบเบสประเภทกระแทกอก หรือรุกเร้าจนเกินไป ส่วนตัวคิดว่า 3000 micro ถ้านำไปใช้ฟังเพลงสามารถใช้กับห้องในไซส์ไม่เกิน 30 ตารางเมตรได้สบายๆ
หรือถ้านำไปดูหนัง ก็สามารถตอบสนองได้ดีในห้องขนาดเล็กหรือกลางไม่เกิน 20 ตรม. จะทำงานได้ดี ไม่หนักจนเกินไป
ถ้าห้องใหญ่กว่านี้อยากจะแนะนำให้เล่นสองตัว เพราะอาจจะต้องเร่ง gain ของซับเยอะจนเกินไปครับ
ข้อสังเกต
เป้าหมายของ SVS แม้ว่าจะพยายามบอกกับเราว่า พวกเขาจะทำซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กที่ให้เบสคุณภาพดี กระชับ หนักแน่น ด้วยตัวตู้ที่เหมาะกับทุกสถานที่ แต่ดูจากคุณภาพเสียง และแนวเสียงที่ได้จากซับวูฟเฟอร์ตัวนี้แล้ว ต้องบอกว่า SVS กำลังพยายามทำซับสำหรับ 2 ch หรือซับฟังเพลงคุณภาพสูงขึ้นมาท้าชนในตลาดที่ตัวเองยังมีช่องว่างอยู่
คู่เปรียบมวยของซับตัวนี้ก็คงหนีไม่พ้น Rel และ KEF KC62 ที่เมื่อเทียบตัวตู้และราคาแล้วต้องบอกว่า SVS ทำการบ้านมาดี
และที่สำคัญเหมือนเขาจะทำได้สำเร็จในเรื่องของคุณภาพเสียง เพราะดูจากผลตอบรับของ user ที่ซื้้อไปใช้งานและลองเปรียบเทียบกับซับรุ่นดังกล่าว รวมถึงผลการ review จากนักรีวิวที่จับมันไปเปรียบเทียบกันแล้วก็ต้องบอกว่านี่เป็นซับที่อยู่ในสังเวียนหรือ leauge เดียวกันหรือ พูดง่ายๆก็คือ นี่มันสังเวียนของซับรุ่นจิ๋วที่มุ่งเน้นคุณภาพเบสในการฟังเพลงเป็นหลัก ไม่เน้นเบสเปรี้ยงปร้างโครมครามอึกทึกคึกโครมแบบในซิสเต็ม Home Cinema อะไรแบบนั้น
เช่น user review ที่บอกว่า SVS 300 micro ให้เบสที่ tighter , cleaner และชัดเจน ซึ่งก็ตรงกับที่เราฟัง เพราะเรารู้สึกว่าเบสที่ได้มันสะอาด คม เร็ว และไม่เยอะจนแซงหน้ากลางแหลม และเสริมเป็นฐานให้กับดนตรีที่เราฟังได้เป็นอย่างดี
เดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา SVS ได้ Launch Subwoofer รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า 3000 micro ออกมา ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการ challenge ตัวเองว่าอยากจะสร้างซับวูฟเฟอร์ขนาดจิ๋วที่ให้เบสที่มีคุณภาพสูง (micro subwoofer that does not compromise on performance) เพราะที่ผ่านมา SVS สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยซับวูฟเฟอร์ดูหนังคุณภาพสูง ในราคาที่เอื้อมถึง แต่ต้องแลกมากับขนาดตัวตู้และขนาดดอกที่ค่อนข้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 13" หรือ 16" อย่าง SB16 Ultra, PB16 Ultra
ความท้าทายนี้ต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดของความถี่ต่ำที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ขนาดของดอกและตู้ที่เล็กย่อมสร้างปริมาณเบสได้น้อย ปริมาณเบสที่เยอะและ deep ก็ต้องแลกมากับความช้า เบสที่คมเก็บตัวเร็วก็ต้องแลกมากับเบสลึกที่หายไป และเบสที่สะอาดก็ต้องแลกมากับปริมาณเบสที่น้อยและไม่เหมาะกับการดูหนัง
ดีไซน์ของ 3000 micro เลือกใช้ตู้ปิดไซส์เล็ก และใช้ดอกวูฟเฟอร์ขนาดเพียง 8" คู่วางตรงข้ามกันและทำงานพร้อมกัน ใช้ Active amp 800 watt RMS, 2,500+ watt Peak รองรับความถี่ต่ำ 23-240 Hz
ตัวตู้มีน้ำหนักเพียง 10 กิโลกรัม และตัวเล็กมากเพียง 10.9” (H) 11.7” (W) 10.7” (D) เรียกว่ามันสามารถตั้งที่ไหนก็ได้ เพราะ foot print มันเล็กนิดเดียว ขอให้มีพื้นที่นิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ก็สามารถเอา 3000 micro ไปวางแอบหรือหาที่วางได้ง่ายเป็นอย่างมาก
ผิวตู้ของ 3000 micro ทำออกมาเป็นสี hi gloss ดำ และ ขาว ไม่มีสี blach ash ให้เลือกเหมือนรุ่นอื่นๆ และแน่นอนว่าข้อดีของสี hi gloss ก็คือความสวยงาม และหรูหรา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยรอยนิ้วมือและรอยขนแมวที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่นาทีแรกที่คุณเอามันออกมาจากกล่องนั่นเองครับ
ช่องต่อของ 3000 micro ให้มาเป็น rca (un-balance) ไม่มีช่อง xlr (balance) และ hi-level แต่มี usb สำหรับเชื่อมต่อกับ svs wireless addapter ของเขาเอง
ที่ด้านหลังของตัวตู้มีปุ่มปรับทุกอย่างครบหมด ตั้งแต่ volume, lowpass (crossover), phase
การต่อใช้งาน
ทดสอบต่อใช้งาน 3000 micro กับซิสเต็ม 2 ch ที่เราใช้ซึ่งประกอบไปด้วย Gryphon Diablo 300 ลำโพง Klipsch La Scala AL5 และ Dac Streaming Nad C658
ทดสอบด้วย tidal connect เพลงที่เราทำ playlist เดิมๆที่เราฟังบ่อยๆ คุณภาพเสียงที่ได้นั้นฟังออกตั้งแต่ฟังเพลงแรก ซึ่งเราก็พยายามจะเลือกเพลงที่มันมีความถี่ต่ำและไลน์เบสที่เดิมเราฟังและคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว
- ปริมาณเบส :
แน่นอนว่าด้วยไซส์ห้องขนาด 35 ตารางเมตรของเรานั้น และขนาดของซับวูฟเฟอร์ไซส์นี้ จึงทำให้ต้องเร่งเบสในระดับ 60-70% ขึ้นไป แต่ข้อดีของ 3000 micro ก็คือ มันไม่มีอาการเหมือนซับยุคเก่าที่ทำ gain มาเหมือนจะเร่งได้เยอะ คือเร่งไม่ถึง 25% ก็ได้ปริมาณเบสมากพอแล้ว แต่พอเร่งขึ้นไปถึงจุดๆนึง เช่น 50% เบสก็จะมีอาการเพี้ยนหรือ distort แล้ว แต่ของ 3000 micro จะสามารถเร่งได้ไปจนสุดเกจ หรือสุดของมันเลยโดยไม่มีอาการที่ว่า ซึ่งอาจจะเป็นผลจากการที่ใช้แอมป์กำลังสูงถึง 800 watt 2500 watt peak กับดอกเล็กขนาดนี้ด้วย
และเมื่อนำไปเทียบกับ sb 1000 pro ที่เราเคยนำมาทสอบเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนนั้น ต้องบอกว่าอันนั้นอาการหนักกว่านี้ เพราะต้องเร่งไปถึงจุด 80-90% เลยทีเดียว
ซึ่งปริมาณเบสของ 3000 micro นั้นก็ถือว่าเยอะเกินตัว เกินหน้า sb1000 pro, sb2000 pro และน่าจะไปแตะใกล้ๆรุ่น sb3000 series ได้เลยเมื่อฟังจากความถี่ต่ำที่ได้
- บุคลิคและแนวเสียง :
3000 micro ที่เราทดสอบกับการฟังเพลง 2 ch ให้เบสที่มีบุคลิค 2 อย่างด้วยกันนั่นคือ Tight, Clean ซึ่งแปลเป็นภาษานักเล่นก็คือ มันแน่น และสะอาด ผลจากการฟังความถี่ต่ำที่ได้ทำงานในจุดที่มันควรจะอยู่นั่นคือเสริมฐานของเบสในย่านของมัน กระชับ เก็บตัว ไม่มีการขึ้นมากวนและแสดงตนจนเด่นเกินหน้า แต่เรารับรู้ได้ในช่วงจังหวะของเพลงที่มีไลน์เบสที่เราฟังแล้วแน่น กระชับ และไม่แห้งเหมือนตอนฟังแบบไม่ได้ใช้ซับวูฟเฟอร์
และคำว่า clean ในที่นี้ก็คือ เบสเก็บตัวได้ค่อนข้างดีและคมกริบ ตัวโน๊ตต่างๆไม่ออกมาเป็นคลื่นหรือลูกใหญ่ตามจังหวะดนตรีช่วงนั้นๆแม้จะเป็นเพลงเร็ว ความถี่ต่ำก็ยังคมและตามทัน และแม้แต่การเอาหูไปฟังใกล้ๆ ซึ่งปกติในจังหวะนี้เราจะได้ยินเบสที่ครางอื้อๆออกจากตู้ แต่เบสที่ฟังในระยะใกล้ก็ยังเหมือนความถี่ต่ำที่ชัด และมีคุณภาพแม้ฟังในระยะ near field ก็ตาม
นี่อาจจะเป็นซับที่ใช้ประโยชน์จากวูฟเฟอร์ขนาดเล็กได้คุ้มค่ามาก เพราะเบสที่ได้มัน tight , clean กระชับสมกับที่ SVS ตั้งใจให้มันเป็นซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กที่ใช้ในห้องขนาดเล็กหรือกลางที่ให้ความถี่ต่ำคุณภาพสูงได้จริงๆ
ข้อดี
1. ตู้เล็ก และเป็นตู้ปิดจัดวางง่าย
2. ตัวตู้สวยงามเหมือนเฟอร์นิเจอร์ สีไฮกลอสเงาและสวยงาม (เฉพาะตอนเอาออกจากกล่อง)
3. grill หน้ากากดูสวยงามและดีไซน์ใหม่ออกมาเป็นตะแกรงที่ดูนูนและบุ๊มลงไป ไม่เหมือน svs รุ่นอื่นๆ ออกแบบมาเหมือนคลื่นความถี่
4. คุณภาพเบสที่สะอาด คม เร็ว เสริมความถี่ต่ำได้ดี หัวโน๊ตคม กระชับ และไม่กวนย่านความถี่อื่นๆ
5. ง่ายต่อการเซ็ทอัพ เพราะตัวเล็ก ยกง่าย และมี dsp app ให้มาด้วยเหมือนรุ่นพี่
6. ราคาค่าตัวที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพเบสที่ได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งใน segment ซับวูฟเฟอร์ฟังเพลงด้วยกันเช่น Rel, Kef KC62
ข้อเสีย
1. สีไฮกลอส พร้อมจะเป็นรอยได้ทุกเมื่อ ทันทีที่คุณเอามันออกมาจากกล่อง
2. คุณภาพเบสที่ได้อาจจะไม่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ และซิสเต็ม Home Cinema ที่ต้องการเบสประเภทจุกอก
3. ไม่รองรับช่องต่อ XLR input
4. ไม่รองรับช่อง hi-level
สรุป
3000 micro เหมาะกับนักเล่นที่ต้องการเบสสำหรับการฟังเพลงคุณภาพสูง ห้องไมใหญ่นัก หรือนักเล่น home theater ที่มีสไตล์การฟังที่ชื่นชอบเสียงสไตล์ผู้ดี ฟังง่ายฟังสบาย มีรายละเอียด ไม่แสดงตน ไม่โฉ่งฉ่าง ไม่อึกทึกคึกโครม ไม่ชอบเบสประเภทกระแทกอก หรือรุกเร้าจนเกินไป ส่วนตัวคิดว่า 3000 micro ถ้านำไปใช้ฟังเพลงสามารถใช้กับห้องในไซส์ไม่เกิน 30 ตารางเมตรได้สบายๆ
หรือถ้านำไปดูหนัง ก็สามารถตอบสนองได้ดีในห้องขนาดเล็กหรือกลางไม่เกิน 20 ตรม. จะทำงานได้ดี ไม่หนักจนเกินไป
ถ้าห้องใหญ่กว่านี้อยากจะแนะนำให้เล่นสองตัว เพราะอาจจะต้องเร่ง gain ของซับเยอะจนเกินไปครับ
ข้อสังเกต
เป้าหมายของ SVS แม้ว่าจะพยายามบอกกับเราว่า พวกเขาจะทำซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กที่ให้เบสคุณภาพดี กระชับ หนักแน่น ด้วยตัวตู้ที่เหมาะกับทุกสถานที่ แต่ดูจากคุณภาพเสียง และแนวเสียงที่ได้จากซับวูฟเฟอร์ตัวนี้แล้ว ต้องบอกว่า SVS กำลังพยายามทำซับสำหรับ 2 ch หรือซับฟังเพลงคุณภาพสูงขึ้นมาท้าชนในตลาดที่ตัวเองยังมีช่องว่างอยู่
คู่เปรียบมวยของซับตัวนี้ก็คงหนีไม่พ้น Rel และ KEF KC62 ที่เมื่อเทียบตัวตู้และราคาแล้วต้องบอกว่า SVS ทำการบ้านมาดี
และที่สำคัญเหมือนเขาจะทำได้สำเร็จในเรื่องของคุณภาพเสียง เพราะดูจากผลตอบรับของ user ที่ซื้้อไปใช้งานและลองเปรียบเทียบกับซับรุ่นดังกล่าว รวมถึงผลการ review จากนักรีวิวที่จับมันไปเปรียบเทียบกันแล้วก็ต้องบอกว่านี่เป็นซับที่อยู่ในสังเวียนหรือ leauge เดียวกันหรือ พูดง่ายๆก็คือ นี่มันสังเวียนของซับรุ่นจิ๋วที่มุ่งเน้นคุณภาพเบสในการฟังเพลงเป็นหลัก ไม่เน้นเบสเปรี้ยงปร้างโครมครามอึกทึกคึกโครมแบบในซิสเต็ม Home Cinema อะไรแบบนั้น
เช่น user review ที่บอกว่า SVS 300 micro ให้เบสที่ tighter , cleaner และชัดเจน ซึ่งก็ตรงกับที่เราฟัง เพราะเรารู้สึกว่าเบสที่ได้มันสะอาด คม เร็ว และไม่เยอะจนแซงหน้ากลางแหลม และเสริมเป็นฐานให้กับดนตรีที่เราฟังได้เป็นอย่างดี
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม