AudioControl Maestro X7 x Eemotiva RMC-1 x Strom ISP24 MK2
หลังจากที่ได้อยู่กิน ทดลองต่อเข้าต่อออกกับหลายๆระบบ รวมถึงระบบ 9.1.6 ในห้องดูหนังที่ใช้เป็นหลัก จนรู้สึกว่าตกผลึกพอสมควร และเข้าใจในบุคลิคเสียง และฟีเจอร์การใช้งาน รวมถึงได้ทดสอบ Room Correction ของแต่ละตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณจะไม่มีทางรับรู้ในการไปทดสอบฟังในต่างห้องต่างลำโพง และการใช้งานต่างๆคุณจะไม่มีทางรู้ข้อดีข้อเสียในการใช้งานได้จนกว่าจะยกไปลองเล่นเองจริงๆและให้เวลากับมัน โดยเฉพาะ Room Correction ที่ต้องทดสอบใช้และทดสอบฟังเองในห้องตัวเอง
ก็ขออนุญาติ Wrap up และสรุป ข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบเพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจสำหรับใครที่สนใจ Pre-Processor Hi-Performance ดังนี้ครับ

-----------------------------------------------------------------------
Sspeaker: Procella P28, P8x2, Klipsch THX Kl650, KL525, KS525
Pre-Processor: Storm ISP24 mk2, Emotiva RMC-1, Audiocontrol X7
Power: ATI AT6003, Emotiva XPA6 gen3 , XPA7 gen3
Subwoofer: Aurea x2 , SVS Pb16 ultra
Power conditioner: Clef Puresine 1200
-----------------------------------------------------------------------
เป็น pre-processor 16 ch (9.1.6) decoding for Dolby Atmos and DTS:X (แบบ fix channel, ยังไม่รองรับ DTS:X Pro)
รองรับ IMAX Enhanced, Auro-3D
HDMI รองรับ 2.0b and HDCP 2.2
ใช้ Dac ES9026PRO SABRE DACs / Emotiva RMC-1: AKM4490
รองรับ Dirac Live® room correction (Full Dirac Live + Bass Control)
รองรับ Dolby Vision / HDR support (HDR10/BT.2020)
7 HDMI inputs / 3 HDMI outputs (eARC 1 ช่อง)

AudioControl X7 มีช่องต่อ XLR แบบ Fix channel มาให้ สามารถต่อซับได้ 1 ตัวหากต่อในระบบ 9.1.6 และต่อซับได้ 5 ตัวหากต่อในระบบ 9.1.4
การเชื่อมต่อจะเหมือนกับ pre ในระดับราคาเดียวกัน เช่น RMC-1, XMC-2, Arcam, Anthem AVM70,90 นั่นคือกำหนดช่องต่อมาให้เลย
จะมีเพียงช่องต่อที่ 13,14,15,16 ที่สามารถกำหนด off หรือเปิดได้ แต่ก็ fix อยู่ดี โดยจะกำหนดให้ช่อง 13,14 เป็น Fornt wide หรือ off หรือ front sub และช่อง 15,16 เป็น top rear หรือ off หรือ rear sub แต่ไม่สามารถโยก 13,14 ไปเป็น top rear หรือโยก 15,16 มาเป็น front wide ได้
ในขณะที่ปรีอย่าง RMC-1, XMC-2 จะสามารถโยกตำแหน่งช่องต่อ 12,13,14,15 สลับไปมา นั่นคือจะให้เป็น front wide, top rear หรือแม้แต่โยกไปเป็น Subwoofer ตัวที่ 2,3 ได้
และในขณะที่ Storm นั้นจะสามารถ Assign ได้อิสระในทุกๆแชนแนล
การเชื่อมต่อของ AudioControl X7 นั้นจะใช้ layout การวาง xlr แบบ 2 แถว หากต้องการจะถอดสาย xlr ในแถวล่างหรือแถวที่ 2 จะไม่สามารถทำได้ นอกจากต้องถอดสายตำแหน่งเดียวกันในแถวบนหรือแถวที่ 1 ออกก่อน ซึ่งจะเหมือนกับ Storm

Room Correction ทั้ง 3 ตัวนั้น ให้มาเป็น Dirac live แต่แตกต่างกันเล็กน้อย
Audiocontrol X7 : Dirac live + Bass Control (1 Sub)
Strom ISP MK2 : Dirac lve + Bass Control (Multi sub)
Emotiva RMC-1, XMC-2 : Dirac Live (full)
ในการปรับแต่งนั้นของ Audiocontrol X7 จะไม่ให้การปรับแต่ง EQ มาในตัวเครื่อง หากต้องการจะปรับ EQ จะต้องเข้าไปจัดการใน Dirac live เท่านั้น ลักษณะเช่นนี้จะเหมือนกับของ Anthem AVM ที่ไม่สามารถปรับ EQ manual ได้
ในขณะที่ Emotiva RMC-1, XMC-2 จะให้ EQ มาและสามารถปรับแต่งได้เองโดยไม่ต้องเข้าไปใช้ใน dirac live
ในส่วนของ DSP และการปรับแต่งนั้น Storm จะทำได้ละเอียด แม่นยำและดีที่สุด ในขณะที่ของ Audiocontrol X7 จะเน้นใช้งานง่าย automate และไม่ยุ่งยาก ส่วนของ Emotiva จะอยู่ตรงกลาง แต่มีข้อดีตรงที่สามารถปรับแต่ง EQ ในตัวเครื่องได้โดยตรง

บุคลิคและคุณภาพเสียงหลังการรัน Dirac live
ทั้ง 3 เครื่องรัน Dirac live อย่างถูกต้อง โดยคุมสภาพแวดล้อม วัดในห้องและตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด และใช้ไมค์ mini DSP Umik-1 ตัวเดียวกัน ทั้งหมด และ calibrate ไมค์แล้ว
- Audiocontrol X7 จุดเด่นที่เด่นชัดของตัวนี้คือรายละเอียด ความพริ้วของกลางแหลม และการโอบล้อม โดยเฉพาะบรรยากาศรอบตัว และบรรยากาศในแนวตั้งของลำโพง Top ที่ทำได้ดีเป็นพิเศษ และกลางแหลมที่ค่อนข้างโดดเด่นและฟังง่ายและพริ้วมาก ฟังเพลินมาก บุคคลิคไม่ดุดันรุกเร้ามากเกินไปแต่ก็ไม่นุ่มย้วยจนเกินงาม และเสียงไม่เปิดจนรู้สึกว่ารุกเร้า แต่ฟังแล้วรู้สึกมีความน่าฟัง และผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการดูภาพยนตร์และชมคอนเสิรต์ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ย่านเบสก็มีจุดเด่นที่ความฟังสบาย กระชับพอประมาณแต่ไม่รุกเร้าควบแน่น หรือดุดันเหมือนอีกสองตัว แต่จะเป็นแนวเบสที่ฟังสบายขึ้นมา ผ่อนคลาย เบสมีเนื้อ มวลที่แผ่กว่า ไม่ punchy มากนัก แต่ยังดูหนังสนุก ถ้าคนชอบเบสหนักๆ พั๊นซ์ อาจจะมองว่านี่เป็นจุดด้อย แต่ถ้าคนที่ย้ายมาจากค่ายญี่ปุ่นหรือ avr และชอบบรรยากาศเบสแบบสบายๆน่าจะชอบครับ เหมาะกับนักเล่นที่ต้องการเครื่องที่ใช้งานง่าย เสถียร Automate ไม่ต้องวุ่นวายปรับแต่งมาก และให้แนวเสียงที่กลางๆ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นการใช้งานและดูหนังฟังเพลง
- Emotiva RMC-1 ความโดดเด่นของ RMC-1 คือความดุดัน ดุเดือด และสิ่งที่แตกต่างจาก pre-processor ค่ายอื่นๆในระดับราคาเดียวกันก็คือ เบส ที่ให้เนื้อเบสที่แน่นมาก punchcy สุดๆ ดุดัน และให้บุคลิคความถี่ต่ำคุณภาพดี ที่ถึงเนื้อถึงตัวที่ไม่แผ่ ไม่ใช่เบสแบบลูกใหญ่ๆแต่เนื้อกลวงและฟังสบายเหมือนปรีที่มีบุคลิคตรงกันข้าม
และในขณะที่รายละเอียดที่มาในแนว ชัด รุกเร้า เปิดเผย และเน้นไดนามิคเยอะๆแบบรู้สึกได้ ให้ความรู้สึกเหมาะกับการรับบชมภาพยนตร์มากเป็นพิเศษ
แนวเสียงค่อนข้างดำเนินรอยตาม storm มาอย่างกับแกะรอยกันมา โดยเฉพาะแนวเสียงที่เปิด และเบสที่หนักหน่วง แต่ที่ RMC-1 สู้ไม่ได้ก็คือความเสถียร และรายละเอียดที่สะอาดและความเนี๊ยบของกลางแหลมที่จะสู้ Strom ไม่ได้ โดยเฉพาะการแพนเสียงที่แพ้ Strom ไปพอสมควร และอาจจะเป็นรอง Audiocontrol นิดๆด้วยเช่นกัน
แต่หลังจากปรับ Dirac live แบบไม่มี Bass Control แล้ว เนื้อเบสก็ยังฟังดุและคุณภาพเบสดีกว่า AudioControl ที่ให้เบสมาในแนวแผ่หนาๆ มีมวลใหญ่ๆ ซึ่งตรงนี้จะเป็นบุคลิคและจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อซึ่งมีความแตกต่างกัน แต่หลักๆแล้วแนวของ RMC-1 นั้นเปิดเผย หนักหน่วง และเบสคือของขวัญสำหรับคนที่เป็นเจ้าของปรีตัวนี้จริงๆ
- Storm ISP24 MK2 หลังจากปรับ Dirac live + Bass Control แล้ว ต้องยอมรับว่ารายละเอียดเปิด สว่างและเผยให้เห็นรายละเอียดทุกอย่างออกมาครบ และเบสที่แน่น คม และมีรายละเอียด ไม่หยาบกร้านและสะอาดในเวลาเดียวกัน ในขณะที่การแพนเสียงและโยนเสียงก็ทำได้ดีที่สุดในบรรดา prepro ทั้ง 3 ตัว
ในขณะที่ถ้าฟัง Storm แล้วพอสลับกลับไปฟัง AudioControl ทันทีคุณอาจจะรู้สึกเลยว่าเสียงมันดรอปและรู้สึกว่ามันอั้นอะไรไว้ ไม่ปล่อยไดนามิคออกมา และทึบๆละมุนไปเลยก็ว่าได้ แต่ในขณะที่ Emotiva นั้นเรายังไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะแนวทางมาในแนวเดียวกัน คือเปิด ดุดัน และเบสที่แน่น แต่ก็ต้องเสียรายละเอียดในปลายแหลมที่สะอาดมากๆของ Strom ไป
ุ่แนวเสียงของ Strom อาจจะไม่ประนีประนอมกับคนที่เดินมาสายนุ่มสายละมุนเท่าไร่นัก เพราะมันเปิดเผย ชัดเจน คม พุ่ง และให้เบสที่มีไดนามิคและหนักหน่วงแบบไม่มีอะไรมากั้นหรือออมมือใดๆ และบุคลิคที่ผ่านการเซ็ทอัพแล้วแทบทุกห้องไม่ว่าจะใช้ลำโพงอะไรก็มักจะให้แนวเสียงเช่นนี้เหมือนกันหมด ซึ่งจริงๆตัว DSP ของ strom นั้นก็ค่อนข้างฉลาดและปรับได้ละเอียดมาก มันสามารถปรับแนวเสียงให้ละมุน นุ่มสบายก็ได้ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าเราปรับให้เสียงมันเป็นไปตามธรรมชาติของมันนั่นคือดุดัน มันสามารถทำได้ง่ายและไม่ฝืนบุคลิคของมันได้ดีกว่าครับ ดังนั้นตัวนี้คือสวรรค์ของคนที่ชอบเสพเสียงที่ชัด รายละเอียด เบสคมๆ บรรยากาศโอบล้อมเทพๆ เราไม่รู้จริงๆว่าจะติอะไรมันได้อีก ถ้าจะมีก็คงเป็นราคาค่าตัวของมันนี่แหละครับที่มันแพงตามคุณภาพของมัน

สรุป
การย้ายสลับไปมาระหว่าง Emotiva RMC-1 และ Strom นั้นแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะแนวทางมันมาแนวเดียวกัน นอกจากความฟิน ความเปิดเผย ความสะอาด และเบสที่หนักแน่นและคุณภาพสูงของ Strom นั้นทำให้เราตื่นเต้นกว่าเดิม อะดรีนาลีนหลั่งมากกว่าเดิม และดูหนังสนุกขึ้นกว่าเดิม
แต่การเปลี่ยนจาก Strom หรือ Emotiva มาเป็น Audiocontrol X7 นั้นอาจจะต้องปรับตัวและปรับหูกันหน่อย เพราะแนวทางมันไม่เหมือนกันเลย เรื่องกลางแหลมและการโอบล้อมของ X7 นั้นอาจจะไม่เท่าไรเพราะมันทำได้ดีมาก แต่ในส่วนของเบสและความถี่ต่ำนั้นต้องปรับตัวกันมากหน่อย เพราะบุคลิคเบสของ X7 นั้นแตกต่างและไม่เหมือนกับ Strom, Emotiva เลยแม้แต่นิดเดียว (บุคลิคความถี่ต่ำมีความผ่อนคลาย ฟังสบาย และแผ่มากกว่า) ซึ่งถ้าคนชอบแนวนี้จะชอบมาก แต่ถ้าติดบุคลิคของสองตัวข้างต้นมา เราจะรู้สึกว่าเบสมันอั้น และมันไม่สุดหรือเปล่า
User interface
Audiocontrol X7 นั้นให้ UI ค่อนข้างเรียบง่าย และใช้งานสมูธมาก เสถียร เร็ว สะดวก ใช้ง่าย มีรีโมทใช้งานได้ทั้งเมนูบนตัวเครื่อง และเมนู onscreen แต่ข้อเสียก็คือหากใครใช้จอ 2.35:1 เมนู onscreen จะตกจอและมองไม่เห็น ต้องไปใช้เมนูบนหน้าจอแทน
ในขณะที่ RMC-1 นั้นมีรีโทื และใช้งานเมนูได้ทั้งบนเครื่องและ onscreen โดยม่มีปัญหากับสัดส่วนจอ
ในขณะที่ Strom นั้นไม่มี remote มาให้ต้องใช้การกดเมนูบนหน้าจอที่ทำได้แค่ฟังชั่นสำคัญๆเช่นเพิ่มลด volume, เปลี่ยน source แต่ถ้าจะเซ็ทอัพอะไรสำคัญจะต้องเข้าไปที่ web base menu แทน
ความเร็ว
ความเร็วในการบู๊ตเครื่องเรียงตามเร็วสุดไปช้าสุด Strom , Audiocontrol X7, Eemotiva RMC-1
ซึ่ง Strom เร็วกว่ามาก เร็วจริงจังน่าจะประมาณ 5-8 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่สองตัวหลังนั้นไล่เลี่ยขี่กันมา อาจจะช้ากว่ากันนิดเดียวแค่ไม่ถึง 5 วิ แต่เฉลี่ยแล้วใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีทั้งคู่สำหรับการ full bootse ครับ
ความเสถียร
ความเสถียรในการใช้งาน การ navigate menu ต่างๆ ขอเรียงจากดีสุดดังนี้ Strom, Audiocontrol X7, Emotiva RMC-1 จะเห็นว่า Strom นั้นทำได้ดี สมูธ เร็ว เสถียรจนแทบไม่มีอะไรติ แถมยังมี web base ให้ใช้ ในขณะที่ Audiocontrol ก็ทำได้เร็วและเสถียรเช่นกัน แต่ไม่มี EQ ให้ปรับ ในขณะที่ Emotiva RMC-1 นั้นการใช้งานในการปรับแต่งและ setup จะหน่วงนิดๆ และเป็นรอง AudioControl ในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานที่ดูเข้าใจยากกว่า แต่เมื่อเซ็ทอัพแล้ว ในการใช้งานเช่นการเล่นหนัง หรือคุณภาพในระหว่างการเล่นก็แทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน ยกเว้นว่าเราจะใช้ไปเข้าเมนูและ setup dsp ต่างๆ , เช่น eq, distance, level ของ Emotiva จะใช้งานค่อนข้างยากและไม่ user friendly เท่าไร่ครับ

Audiocontrol X7 ข้อดี
1. แนวเสียงเหมาะกับนักเล่นสายทั่วไป ฟังง่าย ไม่โหดร้าย รายละเอียดดี บรรยากาศโอบล้อมยอดเยี่ยม ดูหนังฟังเพลงคุณภาพเสียงดีมาก
2. ทุกอย่าง automate เมนูการใช้งานเรียบง่าย สมูธ ไม่หน่วง บั๊กน้อยมาก แต่ก็มีบ้างใน fw เก่าๆ แต่หลังจากอัพเดทแล้วทุกอย่างก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย
3. การปรับแต่งเสียงที่ให้ Dirac live + Bass Control มาครบ จบในที่เดียว
Audiocontrol X7 ข้อเสีย
1. ไม่สามารถปรับ DSP (EQ) manual ได้ ต้องเข้าไปปรับผ่าน Dirac live เท่านั้น (เหมือน Anthem แต่ดีกว่า Anthem ตรงที่ไม่ต้องเซ็ท distance เอง)
2. การอัพเดท fw ใช้เวลานานมาก ราวๆ 30 นาที และหลังจากอัพเดททุกอย่างจะหายทั้งหมด แม้แต่ dirac live profile ที่เซ็ทไว้ ดังนั้นการทำต้อง back up ทุกอย่างไว้ก่อน ปัจจุบัน fw 1.4x
3. แนวเสียงที่ไม่เหมาะกับสายดุดันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเบสที่ให้บุคลิคติดไปทางฟังสบาย ผ่อนคลาย หากใครนึกไม่ออกให้นึกถึงเบสแนว Marzntz 8805 แต่ AudioControl ดีกว่า แต่ก็ยังติดไปทางโทนนั้นอยู่ สายดุอาจจะมีความรู้สึกว่ามันอั้น ไม่เปิด ไม่ปลดปล่อยพลัง หรือยังปลดปล่อยออกมาไม่หมด ซึ่งขอบอกว่ามันเป็นแบบนี้ และเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่ชอบ และคนที่ไม่ชอบก็เป็นจุดด้อยในเวลาเดียวกัน
4. เมนู onscreen อยู่ต่ำ ทำให้ไม่สามารถโชว์ menu บนจอ projector สัดส่วน 2.35:1 ได้
Audiocontrol X7 เหมาะกับใคร
หากคุณเดินทางมาจาก Pre-Processor ญี่ปุ่น ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคุณเพราะอัพเกรดทุกอย่างให้ดีขึ้นหมดทั้งรายละเอียด เบส และบรรยากาศ
และถ้าคุณชอบ Acurus คุณจะรักตัวนี้ด้วย และถ้าคุณรักตัวนี้คุณก็จะรัก Acurus เพราะเสียงมันเหมือนกันจนถ้าปิดตาผม ผมแยกไม่ออกจริงๆ คุณภาพเสียงแดกกันไม่ลง แทบจะขี่คอกันมาเลย ถ้ารักตัวใดตัวนึง คุณจะรักอีกตัวด้วยจริงๆ



