Dune HD Pro 4k II
5 ปีที่ผ่านมา
Dune HD Pro 4k II
dune ออกรุ่นใหม่มาแล้ว ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อน และมาในราคาประหยัด เน้นคุ้มค่า และขนาดกระทัดรัด รุ่นใหม่พัฒนามาบน chip Realtek RTD1619 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ทาง Zidoo X รุ่นใหญ่ใช้และเตรียมจะออกสู่ตลาดภายในปีนี้ครับ
หมายเหตุ: การรีวิวในแต่ละครั้งเราซื้อเครื่องเอง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอวย (ขอใช้สิทธิ์คนจ่ายเงิน) อะไรดี ก็บอกว่าดี อะไรไม่ดีก็บอกไปตามนั้น ผมจะไม่ทำเหมือน reviewer มืออาชีพที่ดีก็ชม ไม่ดีก็ไม่พูดถึง
หลายครั้งที่รีวิวไปแล้วหลายท่านไม่พอใจ โดยเฉพาะแฟนๆของยี่ห้อนั้นหรือผู้นำเข้าเอง ก็ต้องเรียนว่า ผมไม่ได้เอียง แต่ผมทดสอบด้วยอุปกรณ์ที่ผมมี และความชอบของผม ทดสอบแล้วได้ตามนั้นจะให้บอกอีกอย่างก็ไม่ใช่ ก็ถ้าเครื่องมันช้า จะให้บอกว่าเร็วได้ยังไง เบสมันบางกว่าอีกตัวที่ระดับเดียวกัน จะให้บอกเบสเยอะไม่ได้ไง
ถ้าอยากรีวิวแล้วได้เต็ม 100 perfect หมด ต้องเปลี่ยนหัวข้อเป็น promote โฆษณาสินค้าไม่เรียก รีวิว แล้วต้องเอาไปทำเอง ลงเอง อวยเอง
และที่สำคัญที่สุดคือ ซิสเต็มแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ความชอบคนเราก็ไม่เหมือนกัน บางคนฟังเอารายละเอียด บางคนขอเบสอูมๆ ข้างในโป่งๆ บางคนขอเบสลูกเล็กๆแต่แน่นๆ บางคนขอพอดีๆ นานาจิตตังครับ ขอให้ทำความเข้าใจในจุดนี้
หน้าตา มาในตัวถังเดิม เล็ก เบา กระทัดรัด ไม่เปลืองเนื้อที่ ตัวถังเป็นโลหะ ขนาด 187mm x 29mm x 140mm ใช้ OS: Linux-based Dune HD OS + Android 9.0
spec รองรับการเล่นไฟล์หนัง dolby atmos, DTS X แต่ไม่รองรับการเล่น dolby atmos จาก Netflix
ในส่วนของภาพจัดเต็มด้วยการรองรับ HDR10+, Youtube 4k hdr, Netflix 4k
ให้ Ram 4GB , หน่วยความจำ 32 GB flash เท่ากับ Zidoo uhd2000 ที่ให้ Ram 4 GB storage 32 GB เท่ากัน ในขณะที่ Zappiti pro 4k HDR ให้ Ram 2 GB และ Storage 16 GB
ช่องเชื่อมต่อให้ HDMI input 2.0 มาด้วย และ ้hdmi Output 2.0b x1 ไม่แยกภาพแยกเสียง
๊ช่องต่อ Hard disk external ให้มา 3 ช่อง เป็น USB 3.0 x 2 , USB 2.0 x1
แถมสาย sata มาให้สำหรับเชื่อมต่อกับ internal hd
Remote control ไม่มีไฟ Blacklit
เสียง จากการเล่นไฟล์ ให้คุณภาพเสียงที่ดี เบสหนักแน่น และบุคลิคที่โดดเด่นคือให้เสียงกลางต่ำที่หนา และอิ่มเอิบ ให้สเกลเสียงหนาใหญ่ดี แต่จุดด้อยเมื่อเทียบกับเครื่องเล่นที่แพงกว่า จะพบว่ารายละเอียดจะด้อยและกลืนไปนิดนึง กลางแหลมไม่โดดเด่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบุคลิคเสียงหนาที่ต้องแลกมาเช่นนี้ แต่ก็ถือว่าเสียงค่อนข้างดีสำหรับเครื่องเล่นในระดับราคาย่อมเยาว์ เพราะทิ้งห่างจากเครื่องเล่นแพงๆไม่มากนัก ในขณะที่ราคาห่างกัน 2-4 เท่าตัว
สำหรับการเปรียบเทียบเรื่องเสียงจะไม่ขอระบุรุ่นและยี่ห้ออื่น เพราะค่อนข้างไม่แฟร์หากจะนำเรื่องคุณภาพเสียงไปเทียบกับรุ่นอื่นที่แพงกว่าที่เราใช้อยู่ ซึ่งไม่ควรเอาคุณภาพเสียงของสินค้าคนละระดับมาเทียบแล้วสรุปว่าตัวนึงเสียงดีกว่า อีกตัวไม่ดี
ภาพ รองรับภาพ 4K HDR10+ ตามมาตรฐาน ภาพสีสันกลับมาโทนธรรมชาติ ไม่จัดจ้านเหมือนตัวรุ่นเดิม แต่จะมีอยู่จุดนึงที่ไม่ฟันธงว่าเกิดจากอะไร แต่น่าจะเป็นจากอุปกรณ์ของผมเอง นั่นคือเวลาดูหนังภาพจะไม่เต็มจอ จะขาดไปหน่อยนึงด้านซ้ายขวา (จอ 140 อัตราส่วน 2.35) ซึ่งเป็นกับ zappiti pro 4k hdr เหมือนกัน และก็หาทางแก้ไม่ได้ แต่จากการลองเปิดกับเครื่องและซิสเต็มอื่นของผม (16:9) และของท่านอื่นกลับไม่พบอาการดังกล่าว ตรงนี้เลยขอติดไว้ก่อน
การใช้งาน การ navigate เมนูทำได้ลื่นไหลในระดับนึง แต่ก็จะมีการใช้งานบางช่วงที่สะดุดนิดๆในกรณีที่เราวางเครื่องไว้บนแร๊คด้านหลัง หรือมุมอับและไกลจากตัวเรา แต่ก็ถือว่าถ้าวางไว้ด้านหน้าในจุดปกติและรับสัญญาณรีโมทได้ ก็เร็วและไม่หน่วง ทำได้ดี ไม่ช้าจนทำให้ขัดใจ
การวางปุ่มของรีโมททำมาได้โอเค ใช้งานไม่ขืนมือมาก ใช้ง่าย แต่จะมีปุ่มกดบางปุ่มที่ใช้งานยากบ้าง แต่ถือเป็นรีโมทที่ใช้ง่าย ไม่ต้องเรียนรู้นานครับ
การเล่นไฟล์ ขึ้นชื่อว่า เครื่องเล่น HD Player ดังนั้นไม่ต้องถามว่ามันอ่านไฟล์ได้ดีไหม อ่านได้หมดทุกไฟล์ไหม มันอ่านได้หมดอยู่แล้วแน่นอน ไม่ว่าจะ iso,bdmv, และ format ต่างๆ เพราะมันคือเครื่องเล่นไฟล์ ความเร็วในการอ่านไฟล์ทำได้ดีเกือบจะเท่า zidoo uhd2000 ที่เร็วและลื่นกว่านิดหน่อย แต่มีจุดเดียวที่ช้าคือตอนเล่นหนังจบแล้วจะกด return กลับมาหน้า menu ตรงนี้จะช้ากว่าปกติ แต่โดยรวมก็ถือว่าเร็วพอสมควรเมื่อเทียบกับราคา
Android box การใช้งานในส่วนของกล่องแอนดรอย ลงแอปต่างๆก็เหมือนกล่องอื่นๆทั่วไป หน้าตา ui ก็มาตรฐานสามารถหาแอปมาลงเพิ่มได้ เล่น netflix, yotube, tidal, spotify ได้ เราลองลง netflix , youtube, tidal ก็ใช้งานได้ปกติ
แต่การ stream จะไม่ลื่นเหมือน apple tv, nvidia sheild ที่เป็นผู้นำด้านนี้ เพราะเขาเน้นการใช้งานคนละด้าน หากคุณดูหนัง netflix เป็นหลักก็ซื้อพวกกล่องอย่าง apple, nvidia sheild จะดีและตรงจุดมากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นดูหนังจากไฟล์เป็นหลัก กล่องอย่าง dune จะให้การอ่านไฟล์และคุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ
สรุป อาจไม่ใช่กล่องที่ให้คุณภาพเสียง และการใช้งานดีที่สุด แต่เมื่อเทียบกับกล่อง hd player ในระดับราคาเดียวกันแล้ว ไม่มีตัวไหนที่สู้มันได้ โดยเฉพาะความคุ้มค่าของสเปกที่ได้ ราคาค่าตัว และการใช้งาน รวมถึงคุณภาพเสียงครับ
dune ออกรุ่นใหม่มาแล้ว ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อน และมาในราคาประหยัด เน้นคุ้มค่า และขนาดกระทัดรัด รุ่นใหม่พัฒนามาบน chip Realtek RTD1619 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ทาง Zidoo X รุ่นใหญ่ใช้และเตรียมจะออกสู่ตลาดภายในปีนี้ครับ
หมายเหตุ: การรีวิวในแต่ละครั้งเราซื้อเครื่องเอง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอวย (ขอใช้สิทธิ์คนจ่ายเงิน) อะไรดี ก็บอกว่าดี อะไรไม่ดีก็บอกไปตามนั้น ผมจะไม่ทำเหมือน reviewer มืออาชีพที่ดีก็ชม ไม่ดีก็ไม่พูดถึง
หลายครั้งที่รีวิวไปแล้วหลายท่านไม่พอใจ โดยเฉพาะแฟนๆของยี่ห้อนั้นหรือผู้นำเข้าเอง ก็ต้องเรียนว่า ผมไม่ได้เอียง แต่ผมทดสอบด้วยอุปกรณ์ที่ผมมี และความชอบของผม ทดสอบแล้วได้ตามนั้นจะให้บอกอีกอย่างก็ไม่ใช่ ก็ถ้าเครื่องมันช้า จะให้บอกว่าเร็วได้ยังไง เบสมันบางกว่าอีกตัวที่ระดับเดียวกัน จะให้บอกเบสเยอะไม่ได้ไง
ถ้าอยากรีวิวแล้วได้เต็ม 100 perfect หมด ต้องเปลี่ยนหัวข้อเป็น promote โฆษณาสินค้าไม่เรียก รีวิว แล้วต้องเอาไปทำเอง ลงเอง อวยเอง
และที่สำคัญที่สุดคือ ซิสเต็มแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ความชอบคนเราก็ไม่เหมือนกัน บางคนฟังเอารายละเอียด บางคนขอเบสอูมๆ ข้างในโป่งๆ บางคนขอเบสลูกเล็กๆแต่แน่นๆ บางคนขอพอดีๆ นานาจิตตังครับ ขอให้ทำความเข้าใจในจุดนี้
หน้าตา มาในตัวถังเดิม เล็ก เบา กระทัดรัด ไม่เปลืองเนื้อที่ ตัวถังเป็นโลหะ ขนาด 187mm x 29mm x 140mm ใช้ OS: Linux-based Dune HD OS + Android 9.0
spec รองรับการเล่นไฟล์หนัง dolby atmos, DTS X แต่ไม่รองรับการเล่น dolby atmos จาก Netflix
ในส่วนของภาพจัดเต็มด้วยการรองรับ HDR10+, Youtube 4k hdr, Netflix 4k
ให้ Ram 4GB , หน่วยความจำ 32 GB flash เท่ากับ Zidoo uhd2000 ที่ให้ Ram 4 GB storage 32 GB เท่ากัน ในขณะที่ Zappiti pro 4k HDR ให้ Ram 2 GB และ Storage 16 GB
ช่องเชื่อมต่อให้ HDMI input 2.0 มาด้วย และ ้hdmi Output 2.0b x1 ไม่แยกภาพแยกเสียง
๊ช่องต่อ Hard disk external ให้มา 3 ช่อง เป็น USB 3.0 x 2 , USB 2.0 x1
แถมสาย sata มาให้สำหรับเชื่อมต่อกับ internal hd
Remote control ไม่มีไฟ Blacklit
เสียง จากการเล่นไฟล์ ให้คุณภาพเสียงที่ดี เบสหนักแน่น และบุคลิคที่โดดเด่นคือให้เสียงกลางต่ำที่หนา และอิ่มเอิบ ให้สเกลเสียงหนาใหญ่ดี แต่จุดด้อยเมื่อเทียบกับเครื่องเล่นที่แพงกว่า จะพบว่ารายละเอียดจะด้อยและกลืนไปนิดนึง กลางแหลมไม่โดดเด่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบุคลิคเสียงหนาที่ต้องแลกมาเช่นนี้ แต่ก็ถือว่าเสียงค่อนข้างดีสำหรับเครื่องเล่นในระดับราคาย่อมเยาว์ เพราะทิ้งห่างจากเครื่องเล่นแพงๆไม่มากนัก ในขณะที่ราคาห่างกัน 2-4 เท่าตัว
สำหรับการเปรียบเทียบเรื่องเสียงจะไม่ขอระบุรุ่นและยี่ห้ออื่น เพราะค่อนข้างไม่แฟร์หากจะนำเรื่องคุณภาพเสียงไปเทียบกับรุ่นอื่นที่แพงกว่าที่เราใช้อยู่ ซึ่งไม่ควรเอาคุณภาพเสียงของสินค้าคนละระดับมาเทียบแล้วสรุปว่าตัวนึงเสียงดีกว่า อีกตัวไม่ดี
ภาพ รองรับภาพ 4K HDR10+ ตามมาตรฐาน ภาพสีสันกลับมาโทนธรรมชาติ ไม่จัดจ้านเหมือนตัวรุ่นเดิม แต่จะมีอยู่จุดนึงที่ไม่ฟันธงว่าเกิดจากอะไร แต่น่าจะเป็นจากอุปกรณ์ของผมเอง นั่นคือเวลาดูหนังภาพจะไม่เต็มจอ จะขาดไปหน่อยนึงด้านซ้ายขวา (จอ 140 อัตราส่วน 2.35) ซึ่งเป็นกับ zappiti pro 4k hdr เหมือนกัน และก็หาทางแก้ไม่ได้ แต่จากการลองเปิดกับเครื่องและซิสเต็มอื่นของผม (16:9) และของท่านอื่นกลับไม่พบอาการดังกล่าว ตรงนี้เลยขอติดไว้ก่อน
การใช้งาน การ navigate เมนูทำได้ลื่นไหลในระดับนึง แต่ก็จะมีการใช้งานบางช่วงที่สะดุดนิดๆในกรณีที่เราวางเครื่องไว้บนแร๊คด้านหลัง หรือมุมอับและไกลจากตัวเรา แต่ก็ถือว่าถ้าวางไว้ด้านหน้าในจุดปกติและรับสัญญาณรีโมทได้ ก็เร็วและไม่หน่วง ทำได้ดี ไม่ช้าจนทำให้ขัดใจ
การวางปุ่มของรีโมททำมาได้โอเค ใช้งานไม่ขืนมือมาก ใช้ง่าย แต่จะมีปุ่มกดบางปุ่มที่ใช้งานยากบ้าง แต่ถือเป็นรีโมทที่ใช้ง่าย ไม่ต้องเรียนรู้นานครับ
การเล่นไฟล์ ขึ้นชื่อว่า เครื่องเล่น HD Player ดังนั้นไม่ต้องถามว่ามันอ่านไฟล์ได้ดีไหม อ่านได้หมดทุกไฟล์ไหม มันอ่านได้หมดอยู่แล้วแน่นอน ไม่ว่าจะ iso,bdmv, และ format ต่างๆ เพราะมันคือเครื่องเล่นไฟล์ ความเร็วในการอ่านไฟล์ทำได้ดีเกือบจะเท่า zidoo uhd2000 ที่เร็วและลื่นกว่านิดหน่อย แต่มีจุดเดียวที่ช้าคือตอนเล่นหนังจบแล้วจะกด return กลับมาหน้า menu ตรงนี้จะช้ากว่าปกติ แต่โดยรวมก็ถือว่าเร็วพอสมควรเมื่อเทียบกับราคา
Android box การใช้งานในส่วนของกล่องแอนดรอย ลงแอปต่างๆก็เหมือนกล่องอื่นๆทั่วไป หน้าตา ui ก็มาตรฐานสามารถหาแอปมาลงเพิ่มได้ เล่น netflix, yotube, tidal, spotify ได้ เราลองลง netflix , youtube, tidal ก็ใช้งานได้ปกติ
แต่การ stream จะไม่ลื่นเหมือน apple tv, nvidia sheild ที่เป็นผู้นำด้านนี้ เพราะเขาเน้นการใช้งานคนละด้าน หากคุณดูหนัง netflix เป็นหลักก็ซื้อพวกกล่องอย่าง apple, nvidia sheild จะดีและตรงจุดมากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นดูหนังจากไฟล์เป็นหลัก กล่องอย่าง dune จะให้การอ่านไฟล์และคุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ
สรุป อาจไม่ใช่กล่องที่ให้คุณภาพเสียง และการใช้งานดีที่สุด แต่เมื่อเทียบกับกล่อง hd player ในระดับราคาเดียวกันแล้ว ไม่มีตัวไหนที่สู้มันได้ โดยเฉพาะความคุ้มค่าของสเปกที่ได้ ราคาค่าตัว และการใช้งาน รวมถึงคุณภาพเสียงครับ
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม