Review Storm ISP24 MK2

เมื่อเอ่ยชื่อฝรั่งเศส เราคงจะนึกถึงความรุ่มรวยทางด้านศิลปะวัฒนธรรม แฟชั่นดีไซน์ชื่อดัง และสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและโรแมนติกแล้ว เชื่อหรือไม่ว่า ฝรั่งเศษนั้นมีบริษัทที่ผลิต Pre-processor hi-end อันดับต้นๆของโลกอยู่ถึงสองบริษัท และหนึ่งในนั้นที่เราจะเอ่ยถึงก็คือ Storm Audio บริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิต Pre-Processor ที่ให้เสียง immersive sound ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของโลกStorm Audio ถือกำเนิดมาจากทีมงานของ Auro 3D ซึ่ง Auro 3D ก็เป็นหนึ่งใน 3 บริษัทที่ทำระบบเสียง immersive sound ที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ Dolby Atmos, DTS : X, Auro 3Dต่อมาปี 2017 Auro 3D ก็ได้ขาย Storm Audio ให้กับ Immersive Audio Technologies Group (IAT) จึงถือเป็นการแยกตัวออกจากกันอย่างสิ้นเชิงนวัตกรรมของ Storm Audio ที่เรารู้จกกันดีและสร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกประจักษ์ถึงฝีมือก็คือ Pre-Processor ซึ่งคงพูดได้เต็มปากว่านี่คือหนึ่งใน Pre-processor ที่ดีทีสุดในโลก หลักการออกแบบและหัวใจของ Storm Audio ก็คือ Modular design เพราะปรัชญาที่ว่าไม่มีอะไรในโลกที่อยู่ยั้งยืนยงค์ตลอดกาลหรือไม่มีสิ่งใดที่ไม่ obsolete นั้นยังคงเป็นจริงอยู่เสมอ ดังนั้น Storm จึงเลือกพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซปที่สามารถอัปเกรดเพิ่มเป็นส่วนๆได้ในอนาคต (Modular design) ชิ้นส่วนไหนที่ตกรุ่นก็สามารถอัพเกรดให้ทันสมัยได้อยู่เสมอ ดังนั้นการเลือกซื้อ Pre-processor สักเครื่องนึง จึงเป็นการลงทุนระยะยาวและจะคงอยู่ตลอดไป แม้ภายในจะเปลี่ยนไป แต่ตัวถังยังเป็นตัวเดิมที่เราซื้อ ณ วันแรกหัวใจสำคัญของ Storm Audio อีกประการก็คือ Dac ที่พัฒนาร่วมกับกับ CH Precision บริษัทเครื่องเสียง 2 channel hi-end ที่มาช่วยพัฒนาให้ จึงทำให้เนื้อเสียงของ Storm audio นั้นสะอาด สมจริง และให้รายละเอียดสูงมากนอกจากนั้น Storm ยังเป็นผู้ผลิต pre-processor คุณภาพสูงให้กับอีกหลายแบรนด์เช่น Bryston อีกด้วยครับ
At the Glance ตัวเครื่อง Storm Audio ISP24 และ ISP32 MK2 ที่อยู่ตรงหน้าเรานั้นประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง คู่มือ และ Rack installation ทั้งหมดมีแค่นี้ ตัวเครื่องที่ได้รับมานอกจากคำว่า Clean แล้วคงไม่มีคำไหนจะอธิบายตัวเครื่องได้ดีไปมากกว่าคำนี้จริงๆ เพราะตัว ISP MK2 นี้ออกแบบมาเรียบง่าย ดูสะอาดตา ดูสงบเสงี่ยม และดูถ่อมตนและกลืนไปกับเครื่องเล่นอื่นๆไม่โดดเด่นออกมาจนเกินงาม จนบางครั้ง Storm audio นั้นเมื่อถูกติดตั้งไปกับห้องฟังแล้ว ก็ให้ความรู้สึกว่าเข้ากับบริบทของคำว่า immersive home cinema ที่แท้จริง เพราะมุ่งเน้นไปที่วัตถุประสงค์ของการทำห้องฟัง นั่นคือคุณภาพเสียง และ content เพราะตัวเครื่องนั้นออกแบบมาเรียบง่ายมาก ปุ่มน้อย ปุ่มทำออกมาเล็กๆ ดูเรียบๆจริงๆครับในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีความลึกมากพอสมควร ค่อนข้างลึกกว่า pre-pro ทั่วๆไปที่เราเคยใช้งานมาครับ แต่เมื่อวางบน rack แล้วตัวเครื่องก็จะเต็มด้านลึกของ rack พอดี ไม่เหลือที่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลยครับ
Setup เมื่อติดตั้ง Pre-processor storm isp24 mk2 แล้ว เราจะเห็นว่าช่องต่อด้านหลังที่เป็นช่อง xlr ที่ให้มา 24 แชนแนลนั้นจะไม่มีสัญลักษณ์บอกไว้เลยว่าช่องไหนเป็นสัญญาณอะไรเหมือนกับ pre-processor ค่ายญี่ปุ่นหรือรุ่นก่อนๆที่เราคุ้นชินกัน นั่นเป็นเพราะ Storm ออกแบบให้ช่องต่อ xlr แต่ละช่องสามารถต่อใช้งานได้อิสระ และสามารถ assign ให้ช่องไหนเป็นอะไรก็ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยแต่ละช่องจะมีตัวเลขกำกับไว้ เราแค่มีหน้าที่เข้ามาในหน้าจอ setup และ assign มันให้ถูกต้องตามสายสัญญาณและสายลำโพงที่ต่อเอาไว้แค่นั้นก็พอครับ การต่อใช้งานไม่เพียงจะต่อแค่ชุดดูหนังเพียงชุดเดียว หากเรามี Storm isp24 mk2 แต่ต่อใช้งานชุดดูหนังแค่ 7.1.4 ช่องที่เหลือเราสามารถนำไปต่อใช้งานเป็นชุดฟังเพลงแยกอีกชุด และสลับใช้งานไปมาได้โดยแค่คลิ๊กที่หน้าจอเมนูเท่านั้นครับการ Setup Storm ISP24 mk2 นั้นสามารถทำได้โดยใช้หน้าจอ installer โดยเราสามารถเรียกใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่เสียบสายแลนเข้าไป และกดปุ่ม edit ที่ตัวเครื่องค้างไว้ จะแสดง ip address ที่เราสามารถเข้าไปผ่าน web browser และเข้าสู่หน้าจอ installer
Installer
หน้าจอ Installer จะเป็น User interface ผ่าน Web base มีฟังชั่นต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ซึ่งภายใต้รีโมทคอนโทรลไม่สามารถทำได้ละเอียดแบบนี้ (Storm ไม่ได้ทำ remote control) หน้าจอจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ remote control สำหรับ user ใช้ ซึ่งประกอบไปด้วยฟังชั่นง่ายๆ คือ เพิ่มลด volume, hdmi input และเพิ่มลดเบส treble, bright, center ซึ่งการทำงานก็จะเป็นการยกเสียงง่ายๆที่ user สามารถทำเองได้ และอีกส่วนจะเป็น installer ที่จะเอาไว้ใช้ติดตั้งและ setup ซึ่งจะประกอบไปด้วย Distance, level, Crossover , Preset, HDMI input assign และ EQ ซึ่งในส่วนของ EQ นั้นจะทำเป็น ui ที่เห็นกราฟ ที่เข้าใจง่ายว่ายกตรงไหน ลดส่วนไหน ใช้งานง่าย และสามารถปรับลดเพิ่มเองได้หากเราต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนของ Level Storm จะใส่ Generator เอาไว้ test tone ต่างๆไว้ทั้ง pink noise, sine wave (sine wave สามารถกำหนดได้ว่าจะเอากี่ Hz) หรือจะต่อ external generator อื่นก็ได้ และที่พิเศษคือสามารถกรุ๊ปลำโพงและให้มันดังพร้อมๆกัน หรือแยกกันได้อิสระ ซึ่งง่ายต่อการทำงานมากขึ้นครับ

หน้าจอ browser ก่อนจะเข้าไปปรับเซ็ท

หน้าจอ Remote control ที่ให้ user ใช้งานDirac Liveในหน้าจอ Installer จะมีเมนูอีกตัวนึงที่ใส่เอาไว้นั่นคือ Dirac live ตัวนี้จะเป็น room correction ที่เป็น third parties ที่ Storm เลือกเอาเข้ามาใช้กับ Pre-processor โดย Dirac live มีการทำงานที่ละเอียดและให้ค่าการ setup ที่แม่นยำในระดับที่น่าเชื่อถือได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันช่วยลดภาระารทำงานของ installer ได้มาก หลังจากการรัน Dirac live แล้วเราสามารถเข้ามาปรับเพิ่มเติมได้อีกเฉพาะในส่วนของ EQ และ level ส่วน cross over นั้นโปรแกรมจะไม่ยอมให้ปรับอีก ตัวนี้เราต้องมี license ของ Dirac ก่อน แล้วทำการกดเข้าเมนู Dirac live โปรแกรมจะทำการเชื่อมต่อเพื่อยืนยัน license ของเราก่อน จากนั้นโปรแกรมจะให้ calibrate เสียของแต่ละลำโพงให้เท่าๆกัน แล้วจึงให้เลือกว่าเราจะ setup ให้เสียงออกมาแบบ 1 ที่นั่ง หรือ Sofa หรือแบบโรงหนังที่มีหลายๆ seat พอเราเลือกเสร็จเราก็ใช้ไมค์ (ไม่ได้แถม) แต่ Dirac lvie แนะนำให้ใช้ไมค์ umik-1 ของ Mini dsp หรือใครจะใช้ไมค์อย่างอื่นก็แล้วแต่สะดวก เรานำไมค์ไปวางและวัดเสียงต่างๆตามจุดที่กำหนด ซึ่งขั้นตอนก็นานพอสมควรกว่าจะเสร็จ หลังจากเสร็จสิ้นโปรแกรมก็จะแสดงกราฟให้ดูว่าก่อนวัด และหลังวัดมีการแก้ไขอะไรไปบ้าง เราจะเห็นกราฟที่เรียบ และตอบสนองทุกความถี่ได้สวยงามหลังจากนี้เราแค่ลองฟังว่าชอบมั๊ย และสามารถปรับลดเพิ่มได้ตามที่ต้องการครับแนะนำว่า หากใครที่ซื้อ Storm มานั้น ไม่ต้องซื้อ license dirac live ก็ได้ครับ สามารถให้ร้านที่ซื้อหรือ installer ที่ไว้ใจมาติดตั้งและ run dirac live ให้ก็ได้ เพราะพวกนี้ไม่ได้ทำบ่อย ติดตั้งครั้งเดียงใช้ไปยาวๆ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลง layout ลำโพงเช่นเพิ่มลำโพง atmos จาก 7.1.4 เป็น 7.1.6 เราจะต้องรัน dirac live ใหม่ทั้งหมดครับ
Sound Qualityตอนติดตั้งครั้งแรกเราได้ลองฟังเสียงที่ออกจาก storm โดยไม่ปรับเซ็ทอะไรเลย เนื้อเสียงค่อนข้าง flat และโทนเสียงสะอาด แต่ขาดพลังและ clarity ที่ชัดเจน จะกล่าวได้ว่า Storm isp mk2 ไม่ใช่ pre-rpocessor ที่แกะกล่องต่อสายและเสียงดีเลยเหมือน pre-processor ตัวอื่นๆ แต่ตัวมันนั้นสามารถปรับแต่งได้มาก และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้แทบจะทุกรูปแบบ ดังนั้นก่อนจะฟังจริงจังแนะนำให้ติดตั้งและรัน Dirac live หรือปรับแต่งให้ถูกต้องเสียก่อนจะได้คุณภาพเสียงที่ดีภายหลังจากปรับเซ็ทแล้ว (ใช้ Dirac lvie) เนื้อเสียงแรกที่เทสเสียงและสัมผัสได้คือ Detail และความชัดเจน ความชัดอยู่ในระดับที่เปิดเผยตัวตนและให้รายละเอียดของหนังได้แบบสุดๆ เนื้อเสียงมีความชัด ละเอียด โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเช่นเสียงลมพัด เสียงไฟ หรือเสียงกระซิบเบาๆไปจนถึงบรรยากาศโอบล้อมที่วิ่งได้ทั่วห้องและต่อเนื่อง บรรยากาศแพนและโอบล้อมดี ชัดเจน สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดและตำแหน่งเสียงได้ดี มีความเป็น immersive สูงมาก ในส่วนของ Bass นั้นให้ความกระชับและหนักแน่น แต่ไม่ได้ให้มากจนฟังแล้วเหนื่อย กลับกันหลังจากปรับแต่งค่ามาตรฐานให้ปริมาณเบสที่พอเพียงแต่ไม่เยอะ และไม่กลบรายละเอียดเลย เบสที่ได้ให้ความชัด กระชับ คม เก็บตัวดี ควบคุมปริมาณเบสในห้องได้ดีมาก ไม่มากวนรายละเอียดเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นเบสที่มีคุณภาพและให้บรรยากาศการดูหนังที่ดี ได้ทดสอบกับ DTS 2020 Demo disc track SMC Wildfire ฉากที่ระเบิดและลูกไฟพุ่งขึ้นด้านบน เสียงที่ได้ทำงานดีมากๆ โดยเฉพาะย่านเบสที่ฉากนี้มีพลังงานสูงและมีโอกาศควบคุมยาก แต่ฉากนี้เราได้เบสที่พุ่งผ่านตัว ผ่านโซฟาเหมือนไฟที่พุ่งผ่านทุกสิ่งและทะลุทำลายดยไม่หยุดนิ่ง และเสียงเบสก็พุ่งขึ้นด้านบนไปทำงานเกาะกับลำโพง top ceiling ได้อย่างสมจริงและตรงตามที่บันทึกมาครับ ในส่วนของความถี่ต่ำหากเราไม่ชอบและอยากได้เบสเพิ่ม ก็สามารถเข้าไปปรับเพิ่มได้ จะเอาโหดแค่ไหนก็สามารถกำหนดลงไปได้ตามต้องการครับ
และการทดลองฟังกับ Concert นั้น ความเข้าใจเราที่เคยคิดว่า Pre-processor ที่ดูหนังดี อาจจะฟังเพลงหรือดูคอนเสริต์ไม่ดี วันนี้เราหายข้องใจและเข้าใจใหม่แล้วว่า Storm isp24 mk2 นอกจากดูหนังดีแล้วยังดูคอนเสริตดีมากๆด้วย บรรยากาศจากการทดสอบกับ Hans Zimmer และ DTS 2020 Demo disc ให้เนื้อเสียงที่เข้ม สะอาด และชัด มีรายละเอียดเสียงที่ดีมากๆ รายละเอียดหยุมหยิมพรุ่งพรู และสามารถจินตนาการตามได้ว่า เสียงอะไรเกิดจากอะไรและตรงไหนบนเวทีคอนเสริต รายละเอียดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีต่างๆ เสียงผู้เล่น เสียงคนดู เสียง noise ต่างๆที่เกิดบนเวที ถูกจัดการให้เข้าที่เข้าทาง ไม่มีรกและฟังแล้วรู้สึกเจี๊ยวจ๊าวหรือหนักจนรู้สึกทึบตัน กลับกันให้ความรู้สึกชัดและเสมือนเข้าไปยืนอยู่แถวหน้าของเวทีครับ
Image Quality
เราต่อ hdmi output จาก Zidoo uhd2000 และ Zappiti Pro 4k HDR เข้าไปรวมสัญญาณที่ Storm ISP24 MK2 คุณภาพของภาพที่ได้นั้นดี ชัดเจน และมีความสว่างที่ชัดเจนมาก
การ switch สัญญาณเมื่อเล่นหนังทำได้รวดเร็วขึ้นกว่า pre-processor ตัวอื่นๆ ไม่มีการหน่วงทำให้ภาพช้าแต่อย่างใด เรียกว่าการใช้งาน การดู content ต่างๆทำได้ง่าย รวดเร็วและสะดวก
หน้าจอ remote ที่ใช้เลือก source hdmi ต่างๆ เรา assign ไว้ 3 source Zidoo, Zappiti, Notebookการใช้งานสิ่งสำคัญที่สุดของเครื่องใดๆก็ตาม ก็คือการใช้งาน ในส่วนของ Storm isp24 mk2 นี้เราใช้งานแล้วพบว่า การบู๊ทหรือการใช้งานค่อนข้าง smooth เรียบง่ายๆ และรวดเร็วดีเมื่อเทียบกับ pre-processor 16 channel อีกหลายๆตัว โดยเฉพาะการเปิดเครื่องที่สามารถทำได้เร็วขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม ใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีเท่านั้นและการจับสัญญาณ hdmi ก็แม่นยำและรวดเร็ว ไม่มีปัญหาภาพมาเสียงไม่มี หรอเสียงมีภาพไม่มาให้กวนใจครับในส่วนของการใช้งานนั้นแทบจะไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก เพราะ Storm ก็แทบไม่ให้อะไร user มาใช้งานหรือวอกแวกกับการดูหนังด้วยซ้ำ เพราะหลังจากเปิดเครื่องแล้ว แทบจะไม่มีอะไรต้องปรับเลย และแอปที่เอาไว้ใช้งานก็มีแต่เมนูที่จำเป็นเอาไว้ให้ user ใช้เท่านั้น เช่นเพิ่มลด volume, เปลี่ยน channel และคีย์ลัดในการเพิ่ม bass, treble, เสียง dialog แบบคร่าวๆ เหมาะกับ user และเน้นใช้ง่ายข้อดี - Sound quality ให้คุณภาพเสียง รายละเอียด ความชัดที่ดีมากๆ - Dirac live Room correction - Modular design ที่สาารถเพิ่มหรือ upgrade ได้ - การใช้งานง่าย สะดวกกับ user เร็ว smooth ข้อเสีย - ไม่มี remote ต้องใช้งานผ่าน ipad, browser เท่านั้น - ราคาสูงสรุปการใช้งานและคุณภาพเสียงของ Storm isp24 mk2 นั้นเป็นที่ชัดเจนว่าทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและให้คุณภาพเสียงในระดับต้นๆ หากวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากๆ และ budget ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เราก็มั่นใจว่านี้จะเป็น pre-processor ที่ให้คุณภาพเสียงสูงสุดเท่าที่เราได้เคยสัมผัสมาครับ
- Transonic vision screen 140"
หน้าจอ monitor ไว้ดูตอนที่เปิดหนังว่ามี input จาก channel ไหนเข้ามาบ้าง
หน้าจอ assign HDMI input

หน้าจอสำหรับ setup cross over ของลำโพงแต่ละแชนแนล

หน้าจอ Assign preset ที่เราสร้างไว้สำหรับแต่ละ setup

หน้าจอ generate test tone สามารถสร้างเป็น pink noise, sine wave โดยให้ดังที่ลำโพงทีละตัวหรือเป็นกลุ่มก็ได้

หน้าจอ Main สำหรับ installer สามารถ backup setting ไปเครื่องอื่น และแสดงรายละเอียดของตัวเครื่องเช่น รุ่น, firmware เป็นต้น

หน้าจอ setup distance, level ของลำโพงแต่ละแชนแนล

หน้าจอ setup EQ ของ Storm ให้มาในรูปแบบกราฟ และแยกอิสระแต่ละแชนแนลสามารถสร้าง eq ได้มาก และจะมีกราฟสรุปให้ด้วยว่าภาพรวม eq แต่ละ band ที่สร้างขึ้นมาให้ผลอย่างไรกับความถี่แต่ละช่วง สามารถ zoom in , zoom out ได้อิสระ เรียกว่าสะดวกมากๆกับคนที่ชอบปรับ eq ครับ










