review สายไฟ Tchernof Reference
วันนี้เรามา review สายไฟ Tchernof (อ่านว่าเชอนอฟ) สายสัญชาติรัสเซีย ที่ผลิตมาด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ standard, special, classic, reference วันนี้ที่เรานำมาลองกันจะเป็นตัวสูงสุดของสายไฟ นั่นคือ Tchernov reference AC ความยาว 1.65 m ซึ่งมีทั้งสายแบบหัว 15amp ปกติแบบบ้านเราใช้กัน และสายไฟ 20amp เพื่อนำมาลองต่อกับ power amp
อุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกัน
Emotiva RMC-1
ATI AT6007
Emotiva xpa6 gen3
Emotiva xpa7 gen3
Zidoo uhd2000
Lapgrupen ipd1200
Auria 18 passive x 2
Procella p15FP
JL f112 v.2
Clef puresine 1000
เราใช้สายไฟ Tchernof reference 15 amp ต่อกับ Emotiva Rmc-1, Zidoo UHD2000, Clef puresine 1000 (clef ต่อกับ โปรเจคเตอร์, zidoo ส่วนอุปกรณ์อื่นๆต่อกับปลั๊กผนังตรงทั้งหมด)
และใช้สายไฟ Tchernof 20 amp ต่อกับ power amp ati at6007 (ใช้สองเส้น) ส่วน power emotiva ใช้สายไฟทั่วๆไปที่หาได้ (acoustic zen, audyn valor 2)
แนวเสียงที่ได้เมื่อต่อครบกับอุปกรณ์ครบทุกตัวสิ่งที่ได้ฟังเสียงแตกต่างแบบฟังออก ไม่ต้องจับผิด จับความแตกต่างได้ง่าย แนวโทนเสียงยังคงเป็นโทนเสียงเดิมของซิสเต็ม เพียงแต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือความสงัด และช่องไฟของเสียงต่างๆ การเก็บตัว และเว้นช่องว่าง ซึ่งทำให้โทนเสียงโดยรวมชัดเจน สะอาด ไม่ฟุ้งและเจี๊ยวจ๊าวเหมือนตอนที่ใช้สายเดิมที่แถมมา การเว้นช่องไฟของเสียงต่างๆเป็นระเบียบมาก ทำให้เสียงที่ได้ฟังแล้วสงบ และมีความชัด แต่ไม่กัดหูหรือเจี๊ยวจ๊าว ในขณะที่ไดนามิคหรือช่วงแผดของเสียงกลางแหลม หรือเบสก็ทำได้หนักและกระแทกกระทั้นมากขึ้นเมื่อเทียบกับสายเดิม
สาเหตุน่าจะเป็นเพราะโทนของซิสเต็มมีความสะอาดและชัดเจน ทำให้โทนเสียงย่านอื่นๆถูกขุดและแสดงตัวออกมาได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะการฟังจากหนังแอคชั่นหรือหนังที่มีไดนามิคสูงจะฟังออกง่ายมาก เพราะโทนเสียงโดยรวมดูไฮเอ็นท์ คม กระชับ เก็บตัวดี ไม่แผ่ออกมาเป็นคลื่นให้รำคาญและรบกวนการรับชมภาพยนตร์เหมือนสายไฟแนวฟังเพลงที่มักจะเน้นย่านกลางต่ำที่หนาและนุ่ม แต่เก็บตัวช้า ไดนามิคก็จะซอฟท์ลงตามสไตล์ของสายไฟ
แต่สายเส้นนี้ทำให้เสียงกระแทกหนักขึ้น ชัดขึ้น เบสเก็บตัวเร็ว ช่องว่างของเสียงและจังหวะมีความชัดเจน สะอาด ดีเทล ฟังดี ดูหนังสนุก เป็นสายไฟที่เหมาะกับการนำไปดูหนัง หรือถ้านำไปฟังเพลงก็จะเป็นแนวการฟังเพลงของลำโพงสมัยใหม่ๆ อย่าง YG, Kef, Elac, Sonus faber, Dali แต่จะไม่ใช่แนวของ Dynaudio ,หรือพวกแนววินเทจแต่อย่างใด
ถ้าเราลองถอดสายไฟ Tchernov ออกทีละชิ้น และให้เหลือสายไฟแบรนด์นี้เพียงเส้นเดียว เราพบว่าอุปกรณ์ที่เหมาะสมและฟังออกชัดเจนที่สุดของสายไฟตัวนี้เมื่อเสียบเข้าไปในระบบก็คือ Pre-processor หรือหากใครใช้ AV Receiver ก็จะเป็น AVR ตัวนี้ผมให้น้ำหนักและความเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่น
รองลงมาผมให้คะแนนกับเครื่องเล่นที่เป็นต้นทางซึ่งที่ผมใช้จะเป็น Zidoo uhd2000, Oppo uhd203, uhd205
รองลงมานั่นก็จะเป็น power amp ที่ผมให้ความแตกต่างกับสายเดิมอยู่ที่ไม่เกิน 5-10% ไม่ใช่เพราะว่าสาย Tchernov ไม่ดี แต่หากเป็นเพราะว่าสายไฟเดิมของ ATI ที่แถมมานั่นคุณภาพดีมากอยู่แล้ว และส่วนตัวผมคิดว่า power amp ส่วนใหญ่นั้นให้สายไฟที่พอเพียงและให้คุณภาพที่ดีมากพอรองรับกับกำลังที่ต้องป้อนให้อุปกรณ์ลำโพงต่างๆได้ดีพอสมควรเป็นทุนเดิม
ในขณะที่กรองไฟนั้น ผมไม่ได้ทดสอบแบบจริงจัง เพราะอุปกรณ์หลักๆผมต่อกับปลั๊กผนัง ไม่ได้ต่อกับกรองไฟ ยกเว้นแค่ projector, เครื่องเล่น ดังนั้นความแตกต่างของสายไฟที่เข้ากรองไฟผมจึงไม่ขอให้ความเห็นอะไรมาก แต่ส่วนตัวที่เคยลองกับชุดอื่นๆ ผมให้ความสำคัญในส่วนนี้พอๆกับ power amp
แต่อุปกรณ์ที่ผมคิดว่าคุ้มค่ากับการลงทุนสายไฟดีๆ เห็นจะเป็น pre-processor และเครื่องเล่นครับ ส่วนกรองไฟกับ power amp นั้นอาจจะลองเลือกสายไฟที่ไม่ต้องแพงมากนัก แต่เลือกให้บุคลิคของสายไฟเข้ากับความชอบ รสนิยม และ matching กับอุปกรณ์กับแนวทางการเล่นของเราก็พอครับ
ถ้าถามผมว่า เรามีอุปกรณ์เดิมๆอยู่ จะเลือกหาสายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพงอะไรมาอัพเกรดดี เลือกแบบไหนถึงจะคุ้มเงิน และถูกใจ
ผมอยากจะแชร์วิธีการเลือกแบบนี้
1. เลือกตามแนวความชอบของเรา สายแพงๆบางทีก็อาจไม่ถูกใจเราเสมอไป หากชอบแนวดูหนัง เราอาจต้องเลือกสายที่ให้ความชัด ไดนามิค ที่ดี มากกว่าสายแพงๆแต่เขาออกแบบมาสำหรับฟังเพลง
2. ในบรรดาสายต่างๆ ผมให้ความสำคัญและความแตกต่างเมื่อใส่เข้าไปในระบบเรียงตามลำดับดังนี้ สายไฟ สายลำโพง และสุดท้ายคือสายสัญญาณมาเป็นอันดับสุดท้าย
3. หากจะเติมสายไฟดีๆ แพงๆ นั้นย่อมดีกว่าสายแถมเดิมๆแน่นอน แต่อยากให้ลองคำนึงดูก่อนว่าระบบหลักของเรา คือ preprocessor , power amp, ลำโพง เลือกได้ดีและเต็มที่แล้วหรือยัง หากยังให้เอาเงินมาลงที่อุปกรณ์หลักจะคุ้มค่าและเห็นผลกว่า การเติมสายแพงๆบนอุปกรณ์หลักที่ไม่ดีอาจจะไม่ได้ให้ความแตกต่างที่คุ้มค่าอะไร เพราะอย่างไรเสียแนวเสียงหลักของระบบ ย่อมเกิดมาจาก ห้อง, ลำโพง pre-processor, power amp ประมาณ 80-90% ที่เหลืออุปกรณ์เสริมต่างๆมีผลประมาณไม่เกิน 10-20% หากคุณคิดว่าจะ spend เงินลงบนส่วน 10-20% ก็ให้คิดดีๆว่า เงินล้านนึงบน 10-20% กับเงินล้านนึงบน 80-90% อะไรที่จะเห็นผลมากกว่า เหมือนร่างกายคนเรา หากพื้นฐานเดิมดี แข๊งแรง สมบูรณ์การเลือกใช้ เครื่องประดับใดๆมาเสริมเติมแต่ง หรือแม้แต่ไม่ใส่เครื่องตกแต่งใดๆก็ย่อมดูดี ทำงานได้สมบูรณ์ ดูสดใสแข๊งแรง แต่หากพื้นฐานร่างกายบกพร่อง บาดเจ็บ การหาอาภรหรือเครื่องประดับใดๆมาเติม ก็แค่เป็นการปกปิด และปิดบังปมด้อยเหล่านั้นลงแค่ชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาใดๆที่แท้จริง
4. ระบบที่ดี ใช้สายแถมก็เสียงดีได้ หากได้สายดีๆมาเสริม ย่อมเสียงดีและให้ความปลอดภัยกับการใช้งาน ดูสวยงาม มีมาตรฐานและเพิ่มคุณค่าให้กับซิสเต็มของผู้ใช้ขึ้นไปอีก
5. ระบบเดิมที่มีไม่ดี หากมุ่งเน้นใช้สายแพงมาแก้นั้น ก็สามารถทำได้ แต่ก็ย่อมให้ความคุ้มค่า และผลลัพธ์ที่ดีสู้กับอุปกรณ์หลักที่ดีกว่าไม่ได้
ซิสเต็ม 1 ล้านใช้สายแถมย่อมฟังดีกว่า ซิสเต็ม 1 แสนแต่ใช้สาย 9 แสนครับ
สุดท้ายขอให้เลือกสาย อุปกรณ์ให้ถูกต้องและถูกใจกับแนวทางของแต่ละท่าน ผมทำได้แค่เป็น guide line ให้ได้เพียงเท่านี้ ขึ้นอยู่กับใจท่านจะเปิดรับฟังหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ เพราะบางทีหากใจปิดอยู่ คำพูดหรือข้อความใดๆที่ออกจากปากหรือปลายนิ้วของคนที่ท่านไม่ได้อยากฟัง ก็ย่อมเป็นเพียงลมที่ผ่านหูและตัวหนังสือที่ผ่านตาไปเท่านั้น แต่หากเป็นคำพูดหรือบทความของคนที่ท่านชอบใจและยอมรับ บทความนั้นหรือคำพูดนั้นย่อมมีน้ำหนักเสมอ
ขอให้มีความสุขในการเล่นเครื่องเสียงครับ
หน้าที่เข้าชม | 2,192,113 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,300,950 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 31 ส.ค. 2568 |