เปลี่ยน Pre-Processer ไหม?????? เปลี่ยนแล้วได้อะไร ดีขึ้นมากหรือเปล่า???

หลังจากที่เมื่อ 6 เดือนก่อนเราทำการติดตั้งลำโพงเข้าประจำการในห้องฟังของเราทั้งสิ้น 15 ตัว (9.1.6) แล้วเราก็ใช้ anthem avm60 รันในระบบ 7.1.4 มาสักพักนึง
วันนี้เราได้ฤกษ์ทำการติดตั้งปรีที่สามารถรองรับ 16 ch ได้เข้ามาประจำการแทนตัวเดิมเสียที นั่นคือ Acurus ACT4
ลำโพงอีก 4 แชนแนลที่ไม่เคยได้ส่งเสียง และไม่รู้ว่าพังหรือเปล่า ก็ได้มีโอกาสทำงานกับเขาบ้าง (โชคดีที่ปลวกยังไม่กินเสียก่อน)
ปรีก็เหมือนเจ้าของบริษัทที่จะสั่งให้พนักงานทำงานไปในทิศทางที่เขาต้องการ และเดินไปใน direction ไหนที่เขาอยากให้เป็นก็ได้ ถ้าเจ้าของบ้าระห่ำ เขาก็จะสั่งให้พนักงานมีความ aggressive และทำงานแชิงรุก ดุดัน
ถ้าเจ้าของนุ่มนวล สุภาพ งานที่ได้ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เสียงที่ได้จากปรี ก็เป็นไปตามที่สมองของปรีจะสั่งและคำนวณทั้งหมด เรียกว่างานทุกอย่างถูกสั่งออกมาจากเจ้าเครื่องนี้เครื่องเดียว
ส่วนพนักงานก็เหมือนกับ power amp ในงานเดียวกันที่เจ้าของสั่ง เช่นสั่งขึ้น production ทำของมาขายสักชิ้น ถ้าพนักงานไม่เก่งเลย ขาด skill ขาดแรงบันดาลใจ ขาดทักษะ ไม่มีแรงทำงาน สั่งมา 10 ได้งาน 5 เพราะพนักงานทำไม่ไหว ทำไม่ทัน quality ไม่ดี err สูง
งานนั้นก็เหลวได้เหมือนกัน งานไม่ดี ก็ขายไม่ได้ ดังนั้นแม้จะมีเจ้านายที่เก่งสักแค่ไหน แต่ถ้ารอบๆกาย มีแต่พนักงานที่ทำงานไม่ไหว ทุกอย่างก็ล้มเหลวได้

ต้นปีเรามีพนักงานที่เอกอุ สุดยอด ทรงพละกำลังแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ATI, Emotiva, Anthem (ได้ข่าวว่าคนนี้กำลังจะลาออก) แต่เรายังขาดคนมาบริหารและวางแผนให้มันดีและเป็นไปตามที่เราต้องการ
วันนี้เราจึงได้เรียนเชิญ หนึ่งในสุดยอด pre-Processo 16 ch ที่ในตลาดนี้มี candidate เพียงไม่กี่รายที่มีคุณสมบัติสุดยอดเช่นนี้มาบริหารงาน
ตลาด Pre-Processor ที่มีคุณสมบัติประมวลผล 16 ch ได้ในระดับ top ก็จะมี Trinnov, Storm และ Acurus
ส่วนน้องใหม่หน้าใสกิ๊กที่เพิ่งจบมาหมาดๆและเตรียมกระโดดเข้าสู่ตลาดผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงก็จะมี Emotiva RMC-1 , ATI ATP-16 และ Monolith
ตัวที่เราได้มาก็เป็น Acurus ACT4 ใหม่แกะกล่องมาเลย มาถึงแกะออกมาดู หน้าตาเรียบ clean ดูสะอาด และการใช้งานจะเป็นหน้าจอ touch screen

สิ่งที่ได้หลังจากที่เราเปลี่ยนปรี Acurus ACT4ก็คือแนวเสียงทั้งระบบก็เปลี่ยนไปหมดเลย ผู้บริหารคนใหม่มาเปลี่ยนโยบายทุกอย่างที่คนเดิมเคยทำไว้หมด
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็จะเป็นบรรยากาศโอบล้อมที่โอบตัวมากขึ้นแบบชัดเจน เพราะลำโพง front-wide และ top-middle เราเริ่มตื่นมาทำงานแล้ว หลังจาก leave without pay ไปร่วมครึ่งปี
อันที่สองที่ดีขึ้นมากๆก็คือความชัดเจนของน้ำเสียง เสียงของ act4 นั้น ชัด สะอาด มีรายละเอียดที่ได้ยินชัดขึ้นมากๆ รายละเอียดยุบยิบที่มีก็มาแบบชัดเจนให้ได้ยินแบบไม่ต้องเพ่ง ความสดพุ่งอยู่ในระดับที่ดี
เบสมีความหนัก มวลแน่น และลงลึกชนิดที่ต่างกับเดิมราวๆ 50% หนักจนคนที่ยืนฟังอยู่ด้านล่างต้องขอตัวออกไปพักแป้ป
ซึ่งจะว่าไป act4 นั้นมีความโหด และดุดันอยู่ในระดับตรงกลางของปรี 16 ch อีกสองตัวที่กบ่าวถึงไปด้านบน คือไม่โหดและดุร้ายฟังแล้วเหนื่อยเหมือนตัวแรก และก็ไม่ดีเทยุบยิบ นับดาว สายรายละเอียดแบบตัวที่สอง
แต่ทุกอย่าง quality ของเสียง รายละเอียด ความดุดัน ไดนามคินั้นไม่ได้ต่างไปจากสองตัวนั้นเท่าไร่ เพียงแต่ปรับให้สมดุล และฟังดี มีความบาล้านทั้งการดูหนัง และฟังเพลงได้อย่างมีคุณภาพ จะดูหนังก็ดุได้จนเกินพอ หรือจะฟังเพลงดูคอนเสิรตก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร
(ถ้าเป็นชีวิตคนทำงานก็คงมี work life balance ที่ดี ไม่บ้าระห่ำทำงานจนไม่มีเวลา และก็ไม่ชิว สบายๆจนเกินไป แต่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีงานที่มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จและมีครอบครัวที่ดี มีความสุขนั่นเอง)
วันนี้คุณภาพของระบบเสียงก็ต้องยอมรับว่ามันฟังดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ ในขณะที่อุปกรณ์ทุกอย่างยังคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย
เพราะระบบ pre-processor ก็เหมือน ceo ขององค์กร หากเราคิดว่า pre ทำไมต้องแพง ใช้ avr แล้วต่อ pre-out ก็ได้ป่ะ
เราก็อยากจะให้คิดว่า ทำไมค่าตัว ceo ในองค์กรระดับท๊อปๆถึงสูงมาก และควรค่าแก่การลงทุน เพราะ ceo เปรียบเป็นมันสมองที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับองค์กรหรือระบบของเรา Pre-Processor ที่ดีๆก็เหมือน ceo มืออาชีพที่เก่ง มี logical thinking และมุ่งมั่นที่จะบริหารให้ทรัพยากรทั้งหมด (power, speaker, atmosphere) ทุกอย่างเกิด efficiency สูงที่สุด
หากเราคิดว่าจะเอาพนักงานที่ทำงาน BAU ประจำวันล้นมืออย่าง avr แล้วให้เขาบริหารไปพร้อมๆกันด้วย ทั้งทำงานประจำ เช้าแบกของ จัดบู๊ท สายๆไปโรงงานประกอบของ บ่ายๆเข้าออฟฟิสเซ็นและวางแผนอนาคตให้บริษัท (AVR ทำหน้าที่เป็นทั้ง power + Pre ในตัวเดียว) แล้วจะทำได้ดีเท่าๆกับ ceo มืออาชีพ + ลูกน้องมืออาชีพระดับเซียน (Pre-Processor + Power) มันก็ออกจะยากอยู่สักหน่อย
ข้อดีอีกข้อคือ act4 คือมันปรับแต่งได้ละเอียด เราอยากให้เสียงมันออกมาในสไตล์ไหน ดิบ ดุ โหด หรือหนา อิ่ม มันสามารถทำได้ง่ายมากๆ ภายหลังจากการ cal แบบละเอียดแล้ว สามารถปรับแต่งมันได้เองด้วยจอ touch screen ที่ง่าย และสะดวก
เพราะหัวใจของ Pre-Processor ในปัจจุบันอาจไม่ใช่แค่ function ที่สามารถต่อลำโพงได้ครบตามความต้องการ หรือแค่ประมวลผลเสียงตามมาตรฐานเท่านั้น
แต่ต้องสามารถรองรับการปรับแต่งและ calibrate ได้อิสระตามที่ต้องการ......