แกะกล่อง ATI Signature และ N-Core Class D

วันนี้มี ATI มีส่งที่ออฟฟิสเราด้วยกันสามกล่องครับ
เราเลยได้มีโอกาสแกะกล่องมาลองเล่นกัน และมาบอกเล่าถึงแนวเสียงเผื่อใครที่กำลังสนใจ power amp hi-end ตัวนี้อยู่
ว่าแล้วเราก็แกะเจ้าแอมป์คลาสดี AT528NC ยกขึ้นแร๊คไปหนึ่งตัว (30 kg) จัดการต่อสายกับ Procella P8
และแกะ AT6007 ต่อกับ Klipsch THX KL650 (ุ62 kg) วางไว้หน้าแร๊ค
และสุดท้ายก็แกะเจ้า 4007 ยกขึ้นชั้นสอง (44 kg)
แล้วเราก็จัดการหาเวลาอันน้อยนิดลองฟังดู

แอมป์ AT
528NC จากสเปกที่เป็นคลาสดี ใช้เทคโนโลยีคลาสดี ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน แต่ ATI เลือกใช้หม้อแปลงเป็นเทอรอยด์ หนัก 32 kg ให้ค่า damping factor สูงถึง 5000 โอ้วแม่เจ้า
หลังจากต่อฟังเสียงค่อนข้างหนา คุมลำโพงได้ดีระดับนึง ไดนามิคดี รายละเอียดดีมากสำหรับแอมป์คลาสดี แต่เนื้อเสียงที่เราคาดไว้ตอนแรกเรานึกว่ามันจะมาแนวแรง ฟ้าผ่า เปรี้ยง เบสหนักหัวสั่น เก็บตัวเร็ว พุ่งจนฟังเพลงไม่ได้เลย และเหมาะกับดูหนังเท่านั้น ราวกับแอม์ Switching หรือแอมป์คลาสดีทั่วๆไป
แต่เนื้อเสียงหลังจากที่ได้ลองฟังจริงจังนั้นเนื้อเสียงมีความหนา อิ่มท้วมระดับนึง และเสียงละม้ายค่อนไปแอมป์แบรนด์ดังที่บ้านเรานิยมเล่น แต่ยังได้รายละเอียดที่ดีอยู่ และไดนามิคถือว่าดีระดับที่ฟังแล้วหายห่วง
ส่วนตัวคิดว่าจุดเด่นของ AT528NC คือความคุ้มค่าที่ได้ถึง 8 แชนแนล 200 วัตต์กำลังไม่ลด และกำลังเสียงที่ดี กำลังสำรองเหลือเฟือ ในขณะที่แนวเสียงนั้นกลางๆ ไม่โหดร้าย ดุดัน ไม่สดพุ่งจนเกินงาม ยังเหลือพื้นที่ของเนื้อเสียงที่หนาๆ นุ่มๆ แผ่นิดๆให้แฟนๆที่ชอบดูคอนเสิรต์และฟังเพลงได้พอฟังได้ดีด้วย ค่อนข้างผิดคาดครับที่เสียงค่อนข้างเอาใจมหาชนเช่นนี้ และผมเชื่อว่าเสียงแนวนี้น่าจะถูกใจคอนักเล่นในบ้านเราพอสมควร คือมีเนื้อหนาๆหน่อยๆ


ส่วน
Signature series ตัวท๊อปอย่าง AT6007 นันค่า damping >400 แต่หลังจากต่อฟัง ต้องยอมรับว่าสเปกไม่ได้บอกอะไรเราเลย เพราะเสียงที่ได้จาก at6007 นั้นคือสียงในอุดมคติของนักเล่น home cinema ที่แท้จริง เร็ว ไดนามิคแรงมาก เบสมาลำโพงเปรี้ยงแล้วหยุดสนิทแบบไม่มีครางต่อออกมาให้เนื้อมันย้วยแผ่ออกมาเลย รายละเอียดมหาศาล
เบสต้นรุนแรงและรวดเร็วกว่าตัว at528nc มาก ฉากที่ลำโพงต่องหยุดก็หยุดสนิทจึงทำให้เสียงมีช่องไฟที่ดีขึ้น ไม่มีเสียงรบกวนจากการเอาลำโพงไม่อยู่หลุดออกมากวนเสียงอื่นๆเลย เราจึงได้รายละเอียดที่ชัดมาก เบสต้นที่หนักมาก รวมไปถึงอิมแพคและไดนามิคก็มาอย่างเหลือล้น
AT6007 เป็นแอมป์มัลติแชนแนล 300 watt * 7 ch @ 8 ohms วัดที่ full bandwidth แต่ถ้าวัดที่ 1000 Hz จะได้ขึ้นไป 350 watt ใช้หม้อแปลงเทอรอยด์ถึงสองลูกด้านหน้า มีหูหิ้วไว้ที่หน้าเครื่อง และปุ่มต่างๆนั้นทำเป็นระบบสัมผัสทั้งหมด ไม่มีสวิทซ์เป็นกลไล แค่เราเอามือไปสัมผัสก็จะสามารถเปิดปิดเครื่องได้ดูสวยงามน่าใช้
กำลังที่ดูจากสเปกว่าไม่เยอะ แต่พอลองฟังแล้วก็ต้องยอมรับว่ากำลังทุกวัตต์ที่คั้นออกมานั้น คั้นออกมาแต่คุณภาพล้วนๆ
ข้อดีที่ผมชอบมากของ at6007 คือไดนามิคที่รุนแรง และรวดเร็วชนิดที่ไม่เคยฟังมาก่อนจากลำโพงที่ผมใช้ และ power amp ตัวไหนเลย และนี่เป็นโปรดักส์ในรอบหลายปีที่ทำให้ผมตื่นเต้น และถึงแม้เสียงที่ได้จะไดนามิคเยอะ และเสียงพุ่ง แต่น้ำเสียงที่ได้มันเหมือนกับถูกจูนมาให้อยู่ตรงกลาง ไม่หนาไป ไม่ forward ไปจึงทำให้เสียงไม่จัด และฟังได้นานไม่ล้าหูเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ ATI ยังคงยึดมั่นในแนวทางการออกแบบทาง conservative ที่ใช้หม้อแปลงเทอรอยด์ แอมป์คลาส AB เพียวๆ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นได้พิสูจน์แล้วว่า นี่คือที่สุด และเขาได้พัฒนาในสิ่งที่เขาถนัดไปจนสุดทางจริงๆ และเสียงที่ได้จากแอมป์ at6007 นั้นไม่ได้ conservative ตามแนวทางการออกแบบของพวกเขาเลย แต่เสียงที่ได้นั้นเป็นแนวทางของนักเล่นสมัยใหม่ที่ถวิลหาความเร็ว แรง ไดนามิคดีๆอย่างแท้จริง
ส่วนข้อเสียของ AT6007 ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนักที่หนักถึง 60 กว่ากิโลกรัม ใส่แร็คลำบากมาก หนักมาก ยกสองคนถ้าไม่แข๊งแรงจริงๆก็เอาเรื่องเหมือนกันครับ และการจะยกขึ้นชั้นสองชั้นสามเป็นเรื่องลำบากทีเดียว ต้องพึ่งทีมงานที่มีพละกำลังดีๆหน่อย
ส่วนข้อเสียอีกข้อก็คือพวกเขาออกแบบให้ใช้สายไฟแบบ 20 amp จำนวนสองเส้น จึงไม่สามารถใช้สายไฟทั่วๆไปที่วางขายในท้องตลาดได้ครับ หากใครคิดจะอัพเกรดสาย คงต้องสั่งและหาสายที่ผลิตมาเฉพาะสเปก 20 amp โดยเฉพาะ
สรุป ในด้านเนื้อเสียงนั้น
AT6007 นั้นไม่มีอะไรให้ต้องติเลยสำหรับรสนิยมของผม ขอให้คำนิยามว่ามันให้เสียงที่ดีมากในอุดมคติ ไม่หนา ไม่พุ่งเกิน และสิ่งที่ผมต้องยอมรับและยกนิ้วให้มันก็คงไม่พ้นเรื่องของไดนามิคที่ดีมาก การคุมลำโพงที่ดีพาฉุดลำโพงไปได้อย่างเร็วและรุนแรง ทำให้เสียงที่ได้นั้นไม่มีเสียงรบกวนอื่นๆ จึงทำให้รายละเอียดดีไปด้วย
สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ คุณต้องลองฟังเสียงกระแทกของเบสต้นจากลำโพงที่ได้เมื่อขับด้วย AT6007 แล้วคุณจะรู้ว่ามันแตกต่างจริงๆ และเก็บเอาไปฝันที่จะได้ครอบครองมัน
ส่วนตัว
AT4007 นั้นให้แนวเสียงแบบเดียวกับตัว AT6007 เพียงแต่ย่อส่วนกำลังขับลงมาเหลือ 200 วัตต์ จึงเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กหรือขนาดกลางและลำโพงทั่วไปที่ไม่กินวัตต์มากนักก็จะได้คุณภาพที่ไม่แตกต่างจาก AT6007 มากนักครับ
และสุดท้าย
AT528NC ที่จุดเด่นและเแนวเสียงนั้นแตกต่างไปจากตัวอื่นตรงที่ เน้น Value budget ที่ให้จำนวนแชนแนลสูงระดับ 8 แชนแนล ในราคาแสนกว่าๆ หารออกมาตกแชนแนลละแค่สองหมื่น และแนวเสียงเหมาะกับนักเล่นที่ยังนิยมในแนวเสียงแบบ conservative ที่ฟังง่าย ได้ทั้งดูหนังและฟังเพลง ไดนามิคดี และมีฐานเสียงที่หนา ใหญ่ในขณะที่รายละเอียดลดทอนไปจาก AT6007 เพียงนิดหน่อย และอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับแอมป์คลาส AB แบรนด์อื่นๆ (ถ้าเสียงหนา รายละเอียดจะต้องลดเป็นสัจธรรม)
แนวเสียงแบบนี้ ฟังง่าย และเอาใจคนชอบแนวทางที่ไม่เครียดหรือรุกเร้าจนเกินไป (แอบกระซิบว่า แนวเสียงไปคล้ายทางของแอมป์แบรนด์ดังจากแคนาดา) จึงเป็นแอมป์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา ฟังดี และให้ความคุ้มค่าสูงที่สุดตัวนึงเท่าที่จะหาได้จากท้องตลาดตอนนี้แล้วครับ























