คุณให้ความสำคัญกับการเซ็ทอัพระบบเสียงมากน้อยแค่ไหน??
ครับก่อนอื่นผมต้องสารภาพตรงๆกันก่อนว่า ผมเป็นคนนึงที่มีความเชื่อว่าการเซ็ทอัพที่ถูกต้องตามหลักการนั้นมีผลกับเสียง "น้อย"กว่าการ "อัพเครื่องเสียงใหม่" ให้ดีขึ้น แพงขึ้น
จนกระทั่งวันนึงผมได้มีโอกาศกลับไปเยี่ยมบ้านลูกค้าเก่าท่านนึงด้วยความบังเอิญ (อ.พิภพ อาจารย์คณะพาณิชย์ศาสตย์และการบัญชีมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่ง) ได้มีโอกาศเข้าไปชมและสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของเสียงในซิสเต็มนี้อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้มีการเซ็ทอัพแบบเต็มระบบอีกครั้งหนึ่งโดยมืออาชีพ (คุณชวิน) และตรงนี้เองที่ทำให้ผมรู้สึกหูผึ่ง และคัน จนต้องมาเขียนบทความนี้เล่าสู่กันฟังครับ
System ที่ลูกค้าท่านนี้ใช้ (ขอระบุเฉพาะระบบเสียงนะครับ)
- Klipsch RP-260F
- Klipsch RP-450C
- Klipsch RP-250S
- Klipsch R112-SW x 2
- Marantz SR7009
จะว่าไปผมโชคดีตรงได้มีโอกาสเข้าไปจัดส่ง และเก็บภาพบรรยากาศ รวมไปถึงช่วยดูแลเรื่องการติดตั้งให้กับลูกค้าท่านนี้ตั้งแต่วันแรกเมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว บรรยากาศในวันนั้นสนุกมากๆครับ (ทีมเซ็ทอัพวันนั้นได้มืออาชีพอย่าง คุณชวิน มาช่วยดูแล ทำงาน ติดตั้งกันทั้งวัน) ผมยังจำเสียงได้ดีเลยว่าเป็นยังไง และก่อนขอตัวกลับก็ไม่ลืมบอกลูกค้าว่าเบิร์นให้ได้สัก 100-200 ชม แล้วค่อยมาดูกันเรื่องเซ็ทอัพอีกครั้ง
ยอมรับนะครับว่าวันนั้นผมก็ไม่ได้สนใจมากนักว่าเสียงมันจะดีไปกว่านี้ได้อีกรึเปล่า ใจนึงก็คิดว่าเนี่ย เสียงมันก็ดีระดับนึงแล้วนะ ถ้ามันจะดีไปมากกว่าอีก มันก็ไม่น่าจะดีไปกว่านี้ได้เกินอีกสักเท่าไร่หรอก
จะมีใครเชื่อมั๊ยว่าก่อนนั้นผมก็ไม่เชื่อว่าการเซ็ทอัพที่ถูกต้อง ตำแหน่งลำโพงที่เป๋ะ ตำแหน่งซับที่ดีที่สุดในห้องที่ความถี่ต่ำตกจุดที่เรานั่งฟังได้พอดีไม่พลาดความถี่ต่ำใดๆไป มันทำให้ซิสเต็มเราดีขึ้นได้มากกว่า 30-40% ขึ้นไป
เสียงซิสเต็มของลูกค้าในวันนั้นผมจำได้ว่าแหลม กลาง รายละเอียดดี เบสกลางๆไม่หนักมากเพราะลำโพงทุกตัวใหม่แกะกล่อง คือเป็นซิสเต็มปกติๆ บรรยากาศรอบทิศทางดีน่าประทับใจ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่พิเศษ เบสไม่ได้แน่นมากแม้จะใช้ซับวูฟเฟอร์ถึงสองตัว คือสรุปง่ายๆว่า บรรยากาศดี แต่ก้ยังเทียบเคียงบรรยากาศในการดูหนังในโรงภาพยนตร์ไม่ได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยากาศจัดส่งและติดตั้งในวันนั้น: http://goo.gl/UmCDVK
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเมื่อวันก่อนหลังจากที่ผมได้เข้าไปชมและสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลง "ของเสียง" และห้องในซิสเต็มนี้อีกครั้ง ผมบอกแบบไม่อายว่า วันนั้นผมใช้เวลานั่งดูหนังในห้องนั้นอย่างมีความสุขแบบโคตรๆ (ขออนุญาติใช้คำนี้เลย เพราะไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายได้มากกว่านี้อีก)
ผมเข้าไป การเซ็ทอัพก็เกือบเสร็จกว่า 80-90% แล้ว ความรู้สึกแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปทักทายกับเจ้าของบ้านและคุณชวินคือ "ไม่ได้คาดหวังอะไรมากครับ"
แต่พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในห้องผมก็สังเกตเห็นระบบเสียงเดิม ซิสเต็มเดิมที่ลูกค้าซื้อไปเมื่อเดือนก่อนที่ผมยังจำเสียงได้แม่นนั่นแหละครับ เพียงแต่อคูสติกของห้อง และตำแหน่งลำโพง ตำแหน่งซับวูฟเฟอร์ ทุกอย่างได้รับการปรับใหม่หมดภายใต้การดูแลและแนะนำของคุณชวิน อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน
พอผมเริ่มหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาและเริ่มตั้งใจสดับรับฟังเสียงจากระบบเท่านั้นแหละ แม่เจ้าประคุณเอ๊ย อะไรมันจะขนาดนั้น คือบรรยากาศมันมาครบทุกย่าน ไม่ว่าจะเสียงแหลม เสียงกลางที่แพนเสียงโอบล้อม และชัดจนรู้ว่าคนมันเดินมาจากทางไหน อยู่ตรงไหนแล้ว และน้ำหนักเสียงเดินมันลงส้นเท้าหนักหรือเบา ไปจนถึงสิ่งที่ผมโคตรจะประทับใจนั่นคือ อิมแพค และเบสของซิสเต็มนี้
จะบอกเล่าออกมาเป็นร้อยเป็นพันตัวอักษรก็คงไม่เท่าได้ฟังจริงๆครับ คือเบสมันแน่น มันปึ๊ก มันแน่นกว่าดูในโรงหนังบางโรงซะอีก (ใช้ซับ Klispch R112-SW แค่สองตัว)
แถมมันมีอิมแพคมากระแทกที่หน้าแข๊งจนขนหน้าแข๊งปลิวตลอดเวลาที่ดูหนังแอคชั่น เวลามีเบสลงเบาะของโซฟามันสั่นจนรู้สึกและได้อารมณ์ร่วมยังกับจอยDual Shock ของเครื่อง PS4 ที่สั่นได้เวลาโดนโจมตียังงั้นเลย
สรุปคือลูกค้าท่านนี้ได้เดินทางมาถึงจุดที่เซ็ทอัพได้ลงตัวที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งซับที่คุณชวินได้เลือกเฟ้นได้ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ วางไว้ด้านหน้าจอตรงกลาง และอีกตำแหน่งคือด้านขวาข้างโซฟา ซึ่งตำแหน่งแรกที่ซับทั้งสองตัวนี้ถูกติดตั้งในวันแรกคือ ด้านหน้า ซ้ายและขวาของจอ ซึ่งเป็นตำแหน่งยอดฮิตที่สวยที่สุด งามที่สุด และสมมาตรที่สุด ใช่ครับ แต่นั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ได้เบสตรงตำแหน่งนั่งฟังที่ดีที่สุด
พอย้ายตำแหน่งซับทั้งสองตัวใหม่นั้นเหมือนหนังหักมุมเลยจากเดิมเบสธรรมดา อิมแพคไม่กระแทกตัว แถมเร่งไว้ 10-11 นาฬิกา
ตำแหน่งใหม่นี้เร่ง volume ตัวซับวูฟเฟอร์ไว้แค่ 9 นาฬิกา แถมเซ็ทอัพ level ที่ AVR ไว้ติดลบด้วย แต่เบสมาทีนี้โหมมายังกับห้องจะถล่ม ฝ้าจะทลาย บอกตรงๆว่านั่งฟังนั่งดูหนังกับซิสเต็มนี้แล้วประทับใจมากๆครับ ยอมรับว่าไปฟังชุดเครื่องเสียงแพงๆกว่านี้ 2-3 เท่าที่ไม่ได้ผ่านการเซ็ทอัพมาเลย เสียงยังไม่ดีเท่านี้ (ขนาดซิสเต็มผมเองใช้ Klipsch Premier รุ่นเดียวกับลูกค้าแต่รุ่นใหญ่กว่าด้วย ทั้งซับ ทั้งคู่หน้า ทั้งเซ็นเตอร์ เสียงยังไม่ได้เสี้ยวของห้องนี้เลยแม้แต่น้อย)
มาถึงจุดนี้ก็ต้องยอมรับครับว่าการเซ็ทอัพ และทุกอย่างมันมีผลต่อเสียงจริงๆและมากๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นอคูสติกของห้อง ขนาดห้อง พรม ผ้าม่าน ระบบเครื่องเสียงดีๆที่ได้มาตรฐาน ตำแหน่งลำโพง แม้แต่แสงก็ยังช่วยปรับ ambient ให้ดูหนังได้สบายตาและสนุกขึ้นเลยครับ โชคดีที่ลูกค้าท่านนี้เตรียมตัวและมีทุกอย่างลงตัวตั้งแต่ห้องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป กะด้วยสายตาน่าจะประมาณ 24-26 ตรม การวางระบบที่ดี เครื่องเสียงและอุกปรณ์ต่างๆที่ได้มาตรฐาน (ของแต่ละอย่างราคาไม่แพงและไม่ได้ไฮเอ็นด์ครับ) ไปจนถึงการเซ็ทอัพ จึงทำให้ทุกอย่างออกมาค่อนข้างลงตัวและผลลัพธ์น่าชื่นใจทั้งเจ้าของห้องและคนเซ็ท รวมไปถึงผมเองก็พลอยมีความสุขไปด้วยจริงๆ
และแน่นอนครับ ไม่มีใครเถียงว่า การจ่ายเงินซื้อเครื่องเสียงที่ดี มีมาตรฐาน เพอร์ฟอร์แม้นที่ดีขึ้นก็ย่อมทำให้เสียงดีขึ้น
ไม่มีใครเถียงว่ายิ่งจ่ายเยอะก็ยิ่งได้เยอะตามเงินที่จ่ายลงไป
หากซิสเต็มคุณใช้อยู่ในปัจจุบันไม่ใช่แนวที่คุณชอบเลยแม้แต่น้อย แบบนี้การเปลี่ยนอุปกรณ์คือทางเลือกที่ดีนะครับ
แต่ถ้าหากชุดเครื่องเสียงคุณดี และได้มาตรฐานในระดับนึงแล้วละ? ทีนี้คุณก็ต้องมาตัดสินใจว่าการจะจ่ายเงินอัพมันขึ้นไปให้ได้เสียงที่ชอบ ได้เสียงที่ใช่ และเติมเต็มในส่วนที่คุณโหยหาและขาด มันจะช่วยได้แค่ไหน
เช่น บางท่านขาดเบส ขาดบรรยากาศโอบล้อม ขาดอิมแพคแน่นๆ คมๆกระชับๆ แบบในโรงหนังไม่บวมไม่เบลอ บางทีการเติมซับเติมอุปกรณ์เข้าไปเยอะๆหรือเร่งเค้นมันจนเกินกำลังก็อาจจะไม่ใช่ทางที่ถูกต้องนักก็ได้ครับ
ไม่เถียงนะครับว่าทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือการอัพอุปกรณ์ เปลี่ยนเครื่องเสียง การจ่ายเงินมันง่ายครับ ใครๆก็จ่ายได้ (ถ้ามีตัง) แต่อะไรละที่ทำให้คุณมั่นใจว่าเม็ดเงินที่จ่ายเพิ่มลงไปมันทำให้เสียงดีขึ้นได้อย่างที่หวังไว้ และมันจะดีขึ้นมากเท่ากับที่คาดหวังไว้
วันนี้ผมขอหยุดและฝากประเด็นนี้ไว้ให้คิดต่อครับ ใครมีอะไรแนะนำและติชม ผมยินดีรับฟังทุกท่านและเคารพทุกความเห็นครับ
เพราะเชื่อว่าการเล่นเครื่องเสียงนั้น ไม่มีแนวทางไหนที่ถูกต้อง และผิด 100% การที่ได้ mix & match การได้เล่นแล้วมีความสุข ได้ใช้เวลาอยู่กับมัน อยู่ติดบ้าน ได้ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว การดูหนังสยองขวัญแล้วเราขนลุกกลัวบรรยากาศในห้องตัวเราเอง
นั่งดูหนังสงครามแล้วเราเหมือนเข้าไปอยู่ในสนามรบจริงๆ หวาดระแวงว่าระเบิดมันจะลงตรงไหนของห้อง นั่งดูหนังโรแมนติกแล้วน้ำตาไหล สนุก หัวเราะไปพร้อมๆกันกับคนที่เรารัก
นั่นคือความสุข ความคุ้มค่าและเป็นแนวทางที่ถูกต้องสำหรับผมครับ
แล้วแนวทางการเล่นเครื่องเสียงของคุณละครับ เป็นยังไง?
สเปกและราคาชุด Klipsch Reference Premier ทั้งหมด: http://www.whatthatsound.com/category/6/klipsch/klipsch-reference-premier
สเปกและราคา Klipsch Subwoofer ทุกตัว: http://www.whatthatsound.com/category/4/klipsch/klipsch-subwoofer
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |