Review FIBBR Ultra Pro
วันก่อนเรา review สาย HDMI FIBBR รุ่น Pure กันไปแล้ว
วันนี้เราแกะกล่องเอารุ่นประหยัด Ultra Pro มาลองรีวิวกันบ้างว่ารุ่นเล็กของค่ายนี้มีอะไรดีบ้าง โดยรุ่นที่เราลองเป็นรุ่นความยาว 15 เมตรครับ
อย่างแรกคือสาย Optic รุ่น Ultra pro นี่เป็นรุ่นเล็กสุด ประหยัด แต่ออกมาหลังรุ่น Pure ถ้าให้เปรียบก็เหมือนรุ่น Pure เป็นรุ่นรุ่นใหญ่แต่ออกมาก่อน ส่วน Ultra pro ออกมาทีหลัง แม้จะรุ่นเล็กกว่า แต่เทคโนโลยีก็ใหม่และปรับปรุงอะไรหลายๆอย่างให้ดีขึ้น จึงได้ความคุ้มค่าที่สูงขึ้นมากครับ

1. มีไฟ led บอกสถานะ ในรุ่น ultra pro นี้ตอนเราเสียบสายต้นทางแล้ว ถ้าปลายทางยังไม่ได้เสียบ ไฟแสดงสถานะจะกระพริบเป็นสีเขียวก่อน พอเราเสียบสายที่ปลายทางแล้วไฟสถานะจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีฟ้า แสดงถึงสถานะว่าพร้อมใช้งานแล้วนะ ซึ่งอันนี้รุ่น Pure ไม่มีครับ
2. แนวเสียง รุ่น ultra pro จะออกไปทางเฟี้ยวฟ้าว จัดจ้าน และมีรายละเอียดที่ไปทางกลางแหลมมากกว่ารุ่น Pure ที่ออกไปทาง flat และไม่มี color
จริงๆเสียงรุ่น ultra pro ผมว่าค่อนข้างละม้ายไปทางสาย hdmi พวกที่เป็น silver plate ครับ คือเบสไม่หนา แต่รายละเอียดดี แหลมทอดยาว กรุ๊งกริ้งๆ ถ้าซิสเต็มที่แหลมเยอะๆอยู่แล้วมาใช้อาจจะไม่ชอบ แต่ถ้าซิสเต็มที่ทึบๆ เสียงหนาๆ แหลมน้อยๆเช่นชุด home audio หรือลำโพงพวกฟังเพลงพวกนี้จะดีและเหมาะ
มากเพราะจะช่วยรายละเอียดและเพิ่มแหลมได้
(ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเสียงพวก hdmi silverpalte หรือพวกเคลือบเงินครับ เพราะผมใช้ klipsch แหลมดีอยู่แล้ว ไม่อยากไปเพิ่มแหลมมันอีก)

3. ภาพ อันนี้ถ้าจอไม่ใหญ่มากระดับ 120 นิ้วขึ้นไป ผมว่าภาพไม่ได้ทิ้งกับรุ่น Pure เท่าไร่เลย ถ้าไม่หยุดภาพมาดูก็มองไม่ค่อยออกแบบชัดเจนครับ เรียกว่า Pure ให้อะไร Ultra pro ก็ให้ได้แบบหายใจรดต้นคอ
4. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ รุ่น Ultra pro จะใช้วัสดุเช่นหัว hdmi เป็นแบบด้าน ส่วนรุ่น Pure เป็นแบบเงา วัสดุข้างในที่เคลมเอาไว้ว่ารุ่น Pure ใช้ของที่ดีกว่า
เอาจริงๆผมกลับชอบวัสดุของรุ่น ultra pro มากกว่า มันดูทน และดูดีกว่า อาจจะเป็นเพราะรุ่นนี้ออกมาทีหลังก็ได้ครับ คล้ายๆซื้อรถครับ รุ่นเล็กแต่เพิ่งออก บางทีก็ได้ออฟชั่นและดทคโนโลยี และการดีไซน์ที่ได้อะไรมากกว่ารุ่นใหญ่ แต่รุ่นใหญ่ที่ออกมาก่อนก็จะได้เครื่องยนต์และมาตรฐาน และการใช้งานที่ดีแทน
1. รุ่นนี้ใครซื้อรุ่น 15 เมตร แล้วแกะกล่องออกมาแล้ว การจะเก็บยัดใส่กล่องกลับให้สภาพเหมือนเดิมยากมากและต้องใช้ความพยายามมาก เพราะสายแข๊ง ม้วนยาก และกล่องมันเล็ก ไม่ได้ทำช่องมาให้ม้วนสายเหมือนรุ่น Pure ที่แพ๊คเกจจิ้งจะดีกว่า (ผมรู้สึกว่าสายรุ่น ultra pro มันแข๊งกว่า pure หรือเปล่า)
2. เสียงมี color โดยเฉพาะกลางแหลมที่เด่นกว่าย่านอื่น ข้อดีคือให้รายละเอียดดี ปลายแหลมทอดยาวดี แต่บางทีก็กัดหูสำหรับคนที่ใช้ชุดเสียงจัดๆและจูนเสียงมาพอดีแล้วและก็ขาดความเป็นธรรมชาติไปนิด
สรุป เป็นสาย optic hdmi ที่เหมาะสำหรับคอภาพ คนใช้ pjt ใหญ่ๆ ที่มุ่งเน้นคุณภาพของภาพที่ดี ลากสายได้ยาวๆ
สายมีราคาไม่แพง และทนทานดี เป็นสายที่คุณภาพกับราคาเทียบกันแล้วมีความคุ้มค่าสูงมากครับ






