Full Review SVS SB16 Ultra
หากจะสรุปสั้นๆ ให้รีวิวนี้จบภายในบรรทัดเดียว ผมสามารถประหยัดเวลาท่านผู้อ่านให้ไม่ต้องอ่านยืดยาวได้ว่า "SVS SB16 Ultra ตัวนี้คุณสมบัติทางด้านเสียงมันเหมือน copy แล้วก็ paste บุคลิกเสียงของ SVS SB13 Ultra มาหมดทุกประการ ทั้งความเร็ว (Speed) ความหนักแน่น (Impact) ความกระชับ (Tight) ความสะอาด (Clean) เพียงแต่ว่าไอ้การ copy และ paste นั้น มันดันกด paste ออกมาเบิ้ลๆหลายๆครั้ง จนทำให้ดูเหมือนว่ามันเพิ่มกำลังทุกอย่างที่ SB13 Ultra ทำได้มาให้ตัว SB16 Ultra ทำได้ดีกว่า เบสแน่นกว่า ลงลึกกว่า พละกำลังมากกว่า ให้กำลังได้มากกว่า คลุมห้องได้มากกว่า และที่สำคัญมันดันเร็วและกระชับกว่าทั้งๆที่ดอกใหญ่กว่าด้วยครับ"
(มีเกจิหลายท่านกล่าวไว้ช่วงที่ซับตัวนี้ยังไม่ออกว่า ดอกใหญ่ไม่ดีหรอก มันจะช้า เก็บตัวไม่ดี ซึ่งขอบอกว่าไม่จริงครับ มันเร็วมากกก กระชับมาก)
ต้องยอมรับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างนึงในปี 2016 (ปีที่แล้ว) ที่ได้มีโอกาศแกะกล่อง และได้ลองฟังเจ้า SB16 Ultra เรียกว่าเปิดประสบการณ์การลองฟังซับวูฟเฟอร์ที่ราคาเกิน 50,000 บาทขึ้นไปอีกพอสมควร เคยคิดมั๊ยครับว่าเราจะได้อะไรจากการลงทุนในซับวูฟเฟอร์ราคาแพงๆสักตัว
มันให้เสียงเบสต่างยังไงกับซับราคาไม่เกิน 30,000 บาท ความดังเหรอ ความหนักเหรอ หรือความไว ความกระชับ หรืออะไรละที่เราค้นหากันจนต้องยอมจ่ายเงินสำหรับลำโพงที่ผลิตความถี่ต่ำอย่างเดียวที่ราคาขึ้นไปเฉียดแสนขนาดนี้ (SVS SB16 Ultra ราคาขายอยู่ที่ 90,000 บาท และ SVS PB16 Ultra ราคาขายอยู่ที่ 109,000 บาท)
ขอพาไปดูความเป็นมาคร่าวๆกันก่อนว่าซับ SVS SB16 Ultra ตัวนี้มันมีอะไรดีถึงได้รับการรีวิวและได้กระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีมากในต่างประเทศ โดย SVS เปิดตัวซับวูฟเฟอร์รุ่นใหม่ในตระกูล Ultra สองตัว ได้แก่ SVS SB16 Ultra และ SVS PB16 Ultra
ซึ่งในตระกูล Ultra เดิมนั้นจะมีซับวูฟเฟอร์อยู่ทั้งหมดสองรุ่นได้แก่
- SVS SB13 Ultra
- SVS PB13 Ultra
และหลังจากเปิดตัว New Flagship subwoofer รุ่นใหม่นี้เอง จึงทำให้ SVS มีซับวูฟเฟอร์ในตระกูล Ultra ถึง 4 รุ่นแล้ว นั่นคือ SB/PB 13 Ultra และ SB/PB 16 Ultra นั่นเอง
โดยรุ่นใหม่ 16 Ultra นี้เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2016 และมีกำหนดการส่งมอบซับวูฟเฟอร์ให้กับ Distributor และลูกค้าทั่วโลกในช่วงเดือนธันวาคม โดยตัวที่เราได้รับส่งมอบมานี้ เราได้รับมาในช่วงเดือนธันวาคม และถือเป็นซับวูฟเฟอร์ล๊อตแรกๆที่ SVS ได้ส่งมอบให้กับลูกค้าจริงๆด้วยครับ
เราได้มีโอกาศสัมผัสกับ SVS ในรุ่น 16 Ultra 3-4 ตัวด้วยกัน โดยเราแกะตัวนึงเอาไว้ใช้เดโม และทดสอบในการรีวิวครั้งนี้
Spec SVS SB16 Ultra
----------------------------------------------------
Driver: 16"
Amplifier: 1500 watts RMS (5000+ watts peak)
Freq. Response: 16-460Hz ±3 dB
Dimension: 20" (H) 19.5" (W) 20.1" (D)
Weight: 122 lbs (57 กิโล)
----------------------------------------------------
ถ้าดูรูปลักษณ์ภายนอกก็ถือว่าเป็นซับที่ตัวใหญ่ครับ แต่ถ้าดูขนาดดอกที่ใหญ่ถึง 16 นิ้ว voice coil ใหญ่ขนาด 8 นิ้ว ก้ต้องบอกว่าตัวตู้ไมไ่ด้ใหญ่อะไรมาก
งานประกอบทำได้ค่อนข้างดี เป็นผิวเปียโนสีดำ สวยจริงๆ และก็เป็นรอยมือง่ายด้วย ในเมืองนอกจะมีสองสีให้เลือกนั้นคือ ดำเปียโน และดำลายไม้ แต่ราคาเท่ากัน ในบ้านเราเลยเอาเข้ามาเฉพาะสีดำเปียโน เพราะว่ามันดูหรูหรากว่าแบบลายไม้สีดำมากเลยครับ
คุณสมบัติของ SVS SB16 Ultra มีดังนี้ครับ
หลังจากแกะกล่องออกมา ซึ่งต้องบอกว่ากล่องของ SVS SB และ PB16 Ultra นั้นออกแบบมาให้แกะออกโดยดึงออกมาตรงๆ ไม่ต้องคว่ำกล่อง การเอาออกถ้าใครเคยเอาออกแล้วจะสบายมากๆและไม่ต้องใช้แรงอะไรมากเลย เอาออกง่าย การแพ๊คแน่นหนาดีมากครับ
--------------------------------------------------------------
ดูวิธีการแกะกล่องของ SVS SB16 Ultra ที่นี้: วิธีการ unpack กล่อง SVS SB16 Ultra
--------------------------------------------------------------
พอแกะออกมาเราก็จะได้ซับ SVS SB16 Ultra ที่มีฟีเจอร์ดังนี้
- มีช่องต่อ Input แบบ RCA ทั้ง LFE และ Right Left สามารถเลือกต่อได้ทั้งแบบเส้นเดียว (LFE) และแบบสองเส้น (Right Left)
- มีช่องต่อ Output แบบ RCA สำหรับพ่วงซับแบบเป็น chain หลายๆตัวต่อกัน เผื่อใครอยากจะพ่วงซับหลายๆตัวโดยไม่อยากต่อสายออกมาจาก AVR / Pre Processor ครับ มันสามารถเอาสายต่อออกจากช่อง output ของซับ SB16 Ultra ตัวแรก ไปต่อเข้ากับช่อง Input ของ SB16 Ultra ตัวถัดๆไปได้เหมือนพวกเครื่องเสียงกลางแจ้งนั้นแหละ
- มีช่องต่อ Input แบบ XLR คุณสมบัติเช่นเดียวกับ RCA ทุกอย่าง แต่เป็นขั้วต่อแบบ Balance และใช้สายแบบนี้ gain สัญญาณจะแรงกว่าแบบ RCA ครับ เร่ง volume แล้วจะได้ปริมาณเบสเยอะกว่าแบบ RCA
- มีช่องต่อ Output แบบ XLR คุณสมบัติเหมือนช่องต่อ output RCA ทุกประการครับ
และก็ด้านหลังไม่มีปุ่มปรับอะไรอีกแล้ว เพราะในส่วนของการปรับจะยกไปไว้ที่หน้าปัดด้านหน้าเป็นการปรับแบบ Digital เองทั้งหมด
การปรับและเซ็ทอัพ SVS SB16 Ultra สามารถทำได้ 3 วิธี
1. ปรับที่หน้าปัดด้านหน้าของตัวซับ จะมีปุ่มให้ 4 ปุ่ม บน ล่าง ซ้าย ขวา ใช้แทนการเลือกแต่ละเมนู และการกด ok และ back เท่าที่ลองใช้ จะใช้ค่อนข้างยากหน่อยเพราะเราต้องจำว่าปุ่มไหนเป็น ok ปุ่มไหนเป็น back ก็จะมั่วๆนิดๆในตอนแรก แต่ก็ยังปรับง่ายกว่า SVS SB13 Ultra ที่ใช้การปรับแบบปุ่มเดียว แต่ไปอยู่ด้านหลังซับ ถ้าใครวางซับติดผนัง นี่จะลำบากมากเพราะต้องนอนพาดไปกับซับแล้วก้มหัวไปปรับแบบกลับหัว
2. ปรับที่รีโมท ตัว SVS SB16 Ultra ให้รีโมทมาด้วยหนึ่งอัน ใช้ถ่ายไฟฉายเป็นขุมพลัง สามารถกดปุ่ม เพิ่มลด volume และปรับทุกอย่างจากรีโมทนี้ได้ง่ายกว่าแบบแรกครับ อะไรที่เราปรับบนรีโมท มันก็จะโชว์บนหน้าปัดที่ตัวซับทันที ใช้ง่าย แต่ปุ่มกดยากนิดๆ ปุ่มจะให้ฟีลการกดเหมือนปุ่มกดราคาไม่แพงของพวกซาวด์บาร์อะไรทำนองนั้น ไม่ได้นุ่มมือเหมือนรีโมทราคาแพงๆเท่าไร่
3. ปรับที่แอพ SVS บน Smartphone ตัวนี้เป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการปรับครับ เพราะทุกอย่างเป็น UI (User Interface) หมด เราสามารถไปโหลดแอพได้ทั้ง Android และ IOS มาลงบนมือถือ และเวลาใช้งานครั้งแรกเราก็แค่เปิดบลูทูธและให้มัน pair กัน พอครั้งถัดไปเมื่อเราใช้งานมันก็จะ pair กันเองอัตโนมัติ ง่ายๆ เร็วและ work มากๆครับ ใช้งานง่ายที่สุด เพราะเราจะจิ้มบนมือถือได้เลย และทุกอย่างที่เรากดผ่านมือถือก็จะไปโชว์บนหน้าจอด้วย แต่พึงระวัง อย่าเลื่อนปรับ level ขณะดูหนังที่เบสหนักๆ เพราะปุ่มปรับ level มันเป็นแบบรูดซ้ายขวา บางทีเรารูดแล้วคุมน้ำหนักมือไมไ่ด้มันรูดปี๊ดไปเป็นดังสุดขณะเบสกำลังพีคๆอยู่ก็อาจสร้างความรำคาณให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆซับได้ครับ
--------------------------------------------------------------
วิธีการใช้งานแอพ SVS บน SmartPhone: วิธีการใช้งานแอพ SVS บนมือถือ
--------------------------------------------------------------
ซึ่งแอพของ SVS ค่อนข้างฉลาด และปรับได้หลากหลาย ทั้ง low passfilter, slope, EQ, Room Gain Compensation, Phase, Polarity และยังสามารถ save ค่าที่เซ็ทเอาไว้ได้หลายๆ profile ด้วยนะ และที่สำคัญค่าในการเซ็ทไม่ว่าจะเป็น phase, low pass และค่าอื่นๆสามารถปรับได้ละเอียดชนิด +, - ทีละหนึ่งเลยนะ ไม่ใช่กดทีข้าวไป 0, 90, 180 หรือไปทีละสิบเหมือนซับตัวอื่น
วิธีการปรับและเซ็ทของเจ้า SVS SB16 Ultra ก็ถือว่ามันเป็นซับอีกตัวที่่ฉลาดและปรับได้ค่อนข้างหลากหลายมากๆ สะดวกดีครับ ใครจะคิดว่าแหมมันปรับแค่ทีเดียว แล้วก็ไม่ได้ไปปรับกันบ่อยๆหรอก ก็จริงครับ แต่มีไว้ก็ดีและรู้สึกว่าภูมิใจนิดๆว่ามันเป็นซับที่โมเดิรน์ดีไม่ใช่เล่นครับ
ส่วน EQ นั้นก็สามารถเซ็ทละเอียด สามารถยกกราฟ หรือกดความถี่ต่ำลงได้หากต้องการ แต่ตัวนี้จะไม่มีไมค์มาให้นะครับ ดังนั้นมือใหม่จะไม่สามารถเล่นกับเมนูนี้ได้หากเราไม่รู้ว่าตอนนี้กราฟเรามันเป็นยังไง วิธีก็คือเราต้องใช้ไมค์ของ AVR หรือ Pre ในการช่วยพลอตกราฟดูความถี่ต่ำ หรือหากใครมี tool ในการวัดหรือไมค์ของตัวเองก็สามารถใช้ได้เช่นกัน พอรู้ว่ากราฟความถี่ต่ำขาดเหลืออะไรแล้วค่อยมาเติม มาปรับ EQ ในตัว SVS SB16 Ultra เอาได้ครับ
และสุดท้ายแอปสามารถเซ็ทและใช้งานกับ SVS SB16 Ultra ได้หลายตัว โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้เชื่อมและคอนโทรลไปควบคุมซับวูฟเฟอร์ตัวไหน ซึ่งแต่ละตัวจะมีชื่อไม่เหมือนกัน และจะลิสต์ขึ้นมาในแอปบนมือถือเราให้เลือกได้ว่าตอนนี้เชื่อมอยู่กับซับตัวไหนอยู่ เจ๋งมั๊ยละ
อุปกรณ์ที่เราใช้ทดสอบร่วมด้วย
- Pre Processor: Anthem AVM60
- Power: Emotiva XPA3, 5
- Speaker: Klipsch THX Ultra2 (KL650 *3, KS525)
- Subwoofer: SVS SB16 Ultra
- Subwoofer: SVS SB13 Ultra (เปิดสลับๆกันเป็นบางช่วง)
ทดลองต่อฟัง
หลังจากที่ผมแกะกล่องมาได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ บอกตรงๆเลยว่า ไม่กล้ารีวิวจริงๆ เพราะดูสภาพของซับวูฟเฟอร์ที่ดอกใหญ่ถึง 16 นิ้ว และ voice coil ใหญ่ระดับ 8 นิ้วแบบนี้ แล้วแถมด้วยขอบยางที่หนาและแข๊งปั๊ก ทำให้กลัวว่าหากรีบด่วนรีวิวในขณะที่ยังไม่พ้นเบิร์น มันอาจจะทำให้ผมพลาดอะไรเด็ดๆไป และทำให้พลาดบุคลิกสำคัญที่เราควรจะบอกกล่าวให้ผู้อ่านทราบไปได้ครับ
ก็เลยปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมาจนถึงป่านนี้ ให้เราได้เผาและเบิร์นลำโพงกันร่วม 3 อาทิตย์ และอายุการใช้งานก็ปาไปร่วม 40-60 ชั่วโมงเข้าไป จนเรารับรู้ว่าบุคลิกเสียงมันเปลี่ยนไปจริงๆ จนเราไม่อยากรอ และเข็นรีวิวตัวนี้ออกมาในขณะที่ประเมินคร่าวๆว่าเจ้า SVS SB16 Ultra ตัวนี้น่าจะผ่านระยะเวลา brake in มาได้สักครึ่งนึงแล้ว
ตอนที่ลองฟังครั้งแรก ดอกทำงานกระเพื่อมเข้าๆ ออกๆ พลุบเข้าพลุบออกแรงมาก เสียงตอนที่เปิดแรกๆ บอกบุคลิกว่ามันเป็นซับวูฟเฟอร์ที่ไว เร็ว เบสต้นดี และสะอาดมากตัวนึง เบสที่ได้ไม่มีการแผ่เลยแม้แต่น้อย หากจะเทียบกับ SVS SB13 Ultra เราก็คิดว่ามันน่าจะไวพอๆกัน เผลอๆ SB16 Ultra จะไวกว่าด้วย สังเกตจากฉากที่เบสวิ่งจากซ้ายไปขวาเร็วๆ เช่นฉากรถแข่ง เบสที่ได้จะวิ่ง ฟุ้บบ กระแทกมาแล้วจบทันที จะไป ฟุ้บบบบบบบบบบ ยาวเหมือนซับตู้เปิดปกติ นี่คือบุคลิกตอนที่เปิดชั่วโมงแรก หลังจากนั้นเราก็นวดกันไปด้วยหนังหลายๆเรื่อง
ทั้งเพลงทั้งหนังก็ไล่ประเคนใส่เข้าไป
พอเวลาผ่านไปซักระยะเราก็เริ่มเซ็ทโดยใช้ไมค์ ARC2 ของ Anthem มาช่วย ซึ่งจะบอกว่าเดิมทีตอนที่ใช้ SVS SB13 Ultra ตัวเดียวนั้น กราฟของความถี่ต่ำมีอาการเป็นหลุมในช่วง 50-60 Hz ซึ่งแก้ไมไ่ด้ยกเว้นว่าจะย้ายตำแหน่ง ซึ่งเราไม่ย้าย เพราะไม่สะดวกจะย้าย
ตอนหลังพอเติม SVS SB16 Ultra ไปอีกตัว พอลองวัดใหม่ด้วยโปรแกรมของ Anthem ARC2 ก็ปรากฏว่าเบสที่เป็นหลุมหายไปแล้ว ตอนนี้กราฟเรียบและสมดุลตั้งแต่ 20-120 Hz ดีจนน่าพอใจ โดยที่เราไม่ได้ไปทำอะไรมันเลย ใช้โปรแกรมของ Anthem ช่วยอย่างเดียว ฏ็ต้องยอมรับว่าสำหรับในส่วนของการปรับ Auto นั้นโปรแกรมเค้าใช้งานได้จริง ดีจริงและเสียงที่ได้ก่อนปรับและหลังปรับนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าจะไม่ละเอียดและดีเท่าเซ็ทอัพแมนนวลโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีโปรแกรมแล้ว ตัวนี้ใช้งานได้ดีน่าพอใจครับ
แนวเสียงและข้อดีจากการใช้งาน
หลังจากใช้งานไปสักระยะ จนรู้สึกว่าลำโพงเริ่มพ้นเบิรน์ และเสียงเปลี่ยนจนเริ่มจะรับรู้ได้ว่าแนวเสียงที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร เราก็เริ่มทดสอบกันจริงจัง (ใช้เวลานานพอสมควร) โดยหนังที่เราใช้นั้นประกอบไปด้วย อาทิเช่น Man of Steel, Transformer 4, MadMax, Terminator, WarCraft, Need for Speed, Edge of Tomorrow และก็เพลงส่วนใหญ่ที่ใช้นั้น เป็นแพลงป๊อปไทย เพลงร๊อคมีจังหวะ (ไม่ใช่บัลลาดร๊อค) และก็เพลงแนว house, Trance, Electronic ทั้งหลายแหล่ ทั้งหมดเลือกเพลงที่ฟังจริง ไม่ได้ใช้เพลงแนว vocal, audiophile, jazz หรือเพลงบรรเลงช้าๆ ในการทดสอบครับ ดังนั้นผลการทดลองฟังเพลงก็จะเอนเอียงไปทางเพลงที่ฟังในแนวๆนี้ หากไม่ถูกต้องตามรสนิยมของใครก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้.
1. เบสเร็ว ชัด และสะอาด SVS Sb16 Ultra ให้เบสต้นที่ดี ชัด กระชับ และสะอาดมาก เบสมาเร็วมาก กระชาก จบเร็ว ไม่ลากยาว ไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นแรงกระแทก ดึงหนักๆ เบสต้นชัดมาก ที่เราเรียกกันว่ามัน punch ออกมาเป็นลูก และแต่ละลูกก็แน่น (tight) ไม่ใช่เบสลูกใหญ่ๆบวมๆบานๆ เรียกว่า เบสในหนังออกมาเร็วๆ 3 ลูกติดๆกัน ตัวนี้ก็ให้เบสเป็นลูกออกมาเป็น 3 ลูกชัดๆ หนักๆ เร็วๆได้ตามที่บันทึก ไม่มีการที่เบสจะออกมาเป็นปื้นๆต่อกัน 2-3 ลูกกลืนๆกันจนฟังแล้วรู้สึกว่าเบสหนา แต่ไม่แน่นเหมือนซับที่ช้ากว่าแน่นอนครับ
ถามว่าแน่นและกระชับแค่ไหน หลังพ้นเบิร์นความกระชับและความเร็วนั้นเร็วกว่า SB13 Ultra เสียอีก ส่วนลูกหนักก็ให้ความหนักแน่นที่ดีกว่า SB13 Ultra ไปอีกระดับนึงครับ อิมแพคเกินพอแล้วสำหรับคนที่ใช้ดูหนัง เพราะมันกระแทกหนัก ดึงเราจมโซฟาแล้วปล่อยดีดกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งหลังพ้นเบิร์นนี่ซับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกตัวนึงเลย ตอนแกะกล่องลองฟังว่าเร็วและเบสหนักแล้ว พอพ้นเบิร์นอยากจะบอกว่าแล้วจะร้องว้าวว เพราะมันเร็วและกระชับ หนักขึ้นอีก
อีกประการนึงคือเซ็ทง่าย เพราะเป็นตู้ปิด วางตรงไหนก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่จะดีมากถ้าได้ SB16 Ultra สองตัวช่วยกันตอด ช่วยกันอัด แต่แค่ตัวเดียวนี่ก็ดีมากๆแล้ว เบสสะอาด ฟังง่าย ดูไฮโซ ฟังเพลิน สนุกมากๆครับ
บุคลิกเสียงซับมันเหมือนเสียงเบสของซับ PA ตามผับหรูๆชั้นดีที่ให้เบสต้นที่ตอดเร็วๆ พันซ์เป็นลูกๆ สะอาดๆ เล่นเพลงก็มัน พอเอามาดูหนังก็ดันลงลึกกระชากดูดวิญญาณได้อีก
SVS SB16 Ultra ให้เบสต้น ความกระชับที่ดีกว่า PB16 Ultra โดย PB16 Ultra จะให้เบสลึก (deep bass) ที่ดีกว่า ปลายเบสที่หนาและมีปริมาณและคลื่นความถี่ต่ำที่แผ่ได้เต็มห้องกว่า ซึ่งบุคลิกนี้ก็ติดมาตั้งแต่ PB13 Ultra และ SB13 Ultra อยู่แล้ว
ตัวใหม่ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ จะว่าไปมันคือบุคลิกของตู้เปิด และตู้ปิดนั้นแหละ มีดี มีเสียไปคนละอย่าง ถ้าเอาเบสเยอะๆ ปริมาณมากๆ แผ่ๆ เบสลึกดีๆ ตัว PB16 Ultra จะทำได้ดีกว่า เพราะมีท่อลมในการอัดอากาศช่วย
แต่ถ้าจะหาซับที่ให้เบสออกมาเป็นลูกๆ กระชับๆ สะอาดๆ เบสต้นดีๆ หนักๆ ชัดๆ ตัว SB16 Ultra ย่อมทำได้ดีกว่ามากๆ
2. กำลังสูง ด้วยข้อดีของกำลังขับที่สูงขึ้นนอกจากจะขับดอกลำโพงใหญ่ได้อยู่หมัดแล้ว จึงทำให้ผลิตความถี่ต่ำคุณภาพดี สะอาด กระชับ และหนักแน่นได้มากพอโดยไม่ต้องเร่งเยอะ และสามารถใช้มันในห้องที่ใหญ่ขึ้นได้อีก
ซึ่งตัวนี้ให้ปริมาณเบสที่มากเกินพอสำหรับห้องขน่าดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว ของเดิม Sb13 Ultra เราอาจต้องเร่งถึง -10 หรือไปถึง -5 เพื่อให้ห้องใหญ่ระดับ 20 ตรม.ขึ้นไปได้เบสที่เต็มอิ่ม หนักหน่วง แต่ SB16 Ultra นั้นเร่งน้อยลง แค่ระดับ -20 หรือมากกว่านี้อีกหน่อยก็รู้สึกได้ถึงพละกำลังและแรงกระแทกที่หนักหน่วงมากจนพอใจแล้ว
3. การบังคับควบคุมทำได้ง่ายดี จะเห็นว่า SVS ให้การควบคุมตัวซับมาหลากหลาย ทั้งหน้าจอดิจิตอลบนตัวซับ จากตัวรีโมท และจากตัวแอปบนมือถือ ถามว่าเราชอบแบบไหนมากที่สุด ก็ต้องบอกว่าเราชอบบังคับ เพิ่มลด volume จากแอปบนมือถือที่สุด มันง่าย สะดวก และสามารถปรับเพิ่มแต่งเสียง ปรับ eq ได้ง่ายๆจากการใช้นิ้วลากบนหน้าจอได้เลย
และมีลูกเล่น สามารถตั้งได้ว่าขณะใช้งานนั้น จะให้หน้าปัดบนตัวซับ มัน dim มืดลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้กวนสายตาขณะชมภาพยนตร์ หรือจะให้มันแสดงคำว่า Ultra หรือจะให้มันโชว์ระดับ volume ของตัวซับค้างไว้ก็ได้ ซึ่งอันนี้ลูกค้าบางคนก็ชอบให้มันโชว์ค่า Volume ค้างไว้ เค้าบอกมันสวยดี ส่วนตัวผมชอบให้มันดับไปมากกว่า เพราะชินกับ SB13 Ultra ที่ด้านหน้ามันมืดสนิทไม่มีไฟอะไรมารบกวนสายตาดี
4. ในแง่ของการฟังเพลงนั้น ทำได้ดีมาก และแย่มากในตัวเดียวกัน จะเห็นว่าเบสของ SB16 Ultra มันแน่นและสะอาด เป็นลูก กระชับ คลีน และไว ดังนั้นดนตรีที่เหมาะกับเบสแบบนี้มันก็หนีไม่พ้น ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จำพวก house, hiphop, trance อะไรพวกนี้ ซึ่งเราต้องการเบสที่เร็ว ตามบีทของดนตรีทัน เราไม่ต้องการเบสแผ่ๆ คลื่นนุ่มๆลอยๆลูกใหญ่ๆ เพราะมันจะทำให้ดนตรีมันบวม ไม่กระฉับกระเฉง กระแทกออกมาเป็นลูกใหญ่ๆ บวมๆเหมือนดนตรีที่เปิดตามรถกระบะที่แต่งเครื่องเสียงและเปิดกระจกเผื่อแผ่ชาวบ้านแบบนั้น
เบสที่เราต้องการคือ กระแทกแล้วจบ สะอาด ชัด เบสต้นดี เบสลึกไม่ต้องมีก็ได้เพราะดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จะเอา deep bass ไปทำอะไร เหมาะกับการเปิด youtube เปิดเพลง house เก๋ๆแล้วให้ SB16 Ultra ช่วยกระแทก เสริมความถี่ต่ำ เบสหนุบๆหนับๆ เร็วๆตามจังหวะเพลง ในมือเราก็นั่งอ่านนิตยสารไป หาอะไรจิบพักผ่อนไปจะเป็นอะไรที่ชิลมากครับ หรือจะใช้เปิดปาร์ตี้เล็กๆย่อมๆในห้องก็ฟังสนุกได้ไม่แพ้เบสในผับเหมือนกัน (แต่สเกลห้องไม่เท่ากัน)
กลับกันส่วนที่ไม่ดีคือหากคุณเป็นคอเพลงจีน คอเพลง vocal คอเพลงช้าๆ เพลงบรรเลง เพลงคลาสสิค เบสมันจะเด่นชัดขึ้นมาเป็น layer อีก layer นึงเลย ดูไม่ธรรมชาติ และดูไม่ไพเราะเท่าไร่ ถ้าเทียบกับซับที่ให้เบสนุ่มๆนิด กระแทกหน่อยๆ แผ่นิดๆพอหอมปากหอมคอ เพลงแนวนี้จะฟังดีมากกว่าครับ สรุปคือการฟังเพลงนั้นชั้นเชิงของ SB16 Ultra นั้นยังมีรายละเอียดและชั้นเชิงในแง่ของความนุ่มนวล ความมีรายละเอียด ได้ไม่ดีมากนัก แต่จะเน้นกระแทก เน้นเบสต้นที่สะอาดและชัดเป็นหลักมากกว่าครับ
5. งานประกอบระดับมาสเตอร์พีซ งานประกอบสวยงามมาก หรูหราไฮโซครับ ผิวเปียโน เอาออกจากกล่องมาตั้ง สวยยังกะเฟอร์นิเจอร์ดีๆสักชิ้น แต่ล๊อตแรกที่เราลองแกะออกมา 2-3 ตัวก็ยังมีบางจุด บางตัวที่ไม่เรียบร้อยบ้าง บางตัวก็เรียบร้อยสวยงาม บางตัวก็มีบางจุดที่ต้องตำหนิกันบ้างนิดหน่อย ถ้าให้เทียบกับงานประกอบของ SB13 Ultra แล้วต้องบอกว่า สำหรับตัวนั้นงานประกอบปราณีต บรรจง สวยงามกว่า
สำหรับ SB13 Ultra เราชอบตรงการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่นตรงขอบยางกับดอกลำโพงมีการใช้ด้ายเย็บติดกันเลย แต่ตัว SB16 Ultra ไม่ได้ใช้ด้ายเย็บเหมือน SB13 Ultra ครับ
ส่วนตัวตู้ก็มีความหนา มั่นคงแข๊งแรงมาก น้ำหนักก็มากเช่นกัน ยกคนเดียวไม่ไหวแน่นอนครับ การเอาออกจากกล่องนั้นเอาออกคนเดียวได้ แต่การยกเข้าประจำที่นั้นอาจต้องใช้คนช่วยสัก 2-3 คนจะปลอดภัยกว่าครับ
ตัวตู้ยามที่มันทำงานนั้นมีแรงสั่นสะเทือนพอสมควร ถ้าให้แนะนำ เราก็แนะนำว่าไม่ควรเอาอะไรไปวางบนหลังตู้ของมัน เพราะมันสั่นครับ ถ้าเทียบกับ SB13 Ultra แล้วตัวนี้สั่นกว่าเยอะ ก็เป็นเรื่องปกติครับเพราะดอกใหญ่กว่า แอมป์กำลังสูงกว่า
อีกเรื่องที่ชอบก็คือตะแกรงของ SB16 Ultra นั้นออกแบบมาสวยงามมาก ไม่ทื่อเหมือนรุน SB13 Ultra เพราะตะแกรงมีการเล่นเคิรฟ เส้นสายมีการโค้งหลบหน้าปัดดิจิตอล ทำให้ตัวตะแกรงรุ่นใหม่นั้นดูสวยงาม คล้ายกับโล่และตราสัญลักษณ์ที่ดูมี design ซึ่งจะเปิดหน้ากากหรือใส่หน้ากากก็ให้อารมณ์สวยงามและดูโหดไปในทิศทางเดียวกัน แต่ตินิดนึงตรงที่ตะแกรงมันไม่สามารถกันฝุ่นหรืออะไรได้เพราะตัวตะแกรงมันครอบห่างจากตัวดอกพอสมควร พวกฝุ่นหรืออะไรมันจะเข้าไปติดตามซอกหรือขอบๆดอกลำโพง เวลาใช้งานนานๆแล้วทำความสะอาดยาก
6. แนวเสียงไม่เหมาะกับคนชอบเบสลากๆ แผ่ๆ เช่นพวก Paradigm หรือชอบเบสนุ่มๆผู้ดีๆอย่าง Martin Dynamo, Rel, Polk เพราะเบสของ SB16 Ultra มันเก็บตัวเร็ว กระชับ มาเร็วจบไว แต่มาถี่ ยิ่งปืนมากี่เม็ด เราจะรับรู้และนับเม็ดได้ครบทุกเม็ด ต่อยมารัวๆกี่ที เราจะรับรู้ได้หมด เบสเร็วและหนัก และอีกประการนึงคือโซฟาสั่นสะเทือนแต่โซฟาไม่ได้สั่นแบบลากยาวๆแบบตู้เปิดที่เน้นปริมาณและแผ่ จนทำให้โซฟาสั่นตลอด แต่ตัวนี้โซฟาจะสั่นตามจังหวะเบสที่มาและหยุดจริงๆเป็นระลอกๆๆ เหมือนมีคนโยกโซฟาตามจังหวะเบส ก็เป็นอีกฟีลนึงในการดูหนังที่ได้อารมณ์ดีครับ
7. การเบิรนอินนาน แต่คุ้มค่า ตัวนี้บุคลิกหลังและก่อนพ้นเบิรน์มันช่างต่างกันค่อนข้างมากครับ ด้วยดอกลำโพงที่ใหญ่และ voice coil ที่ค่อนข้างใหญ่จริงๆ ทำให้ระยะเวลาในการเบิร์นอินค่อนข้างใช้เวลา เราอยากให้อดทนกับมันสัก 50-60 ชม.ขึ้นไป เพราะจากตอนแรกที่คุณรู้สึกว่าเบสมันกระชับ เร็ว และหนักแล้ว พอมันเริ่มจะพ้นเบิร์น บอกได้เลยวาเบสมันหนักขึ้นอีก ไวขึ้นได้อีกเยอะครับ เบสพอมันหนักและเร็วทีนี้ก็มันสุดๆเลยครับ โดยเฉพาะฉากยิงปืน ฉากระเบิดมันสมจริง ตูม บอกทิศทาง บอกตำแหน่งของเสียง ชัด หนัก เร็วกว่าตอนที่ยังไม่พ้นเบิรน์ขึ้นไปได้อีกระดับนึงครับ (ก่อนพ้นเบิร์นก็ว่ากระชับแล้ว ตอนหลังพ้นเบิร์นนี่กระชับแบบสุดๆ เป็นที่สุดของซับที่ให้เสียงไวและกระชับจริงๆ)
จากทั้งหมดที่ได้ลองเล่นมา ต้องยอมรับข้อนึงว่า SVS SB16 Ultra มันเป็นซับที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆตัวนึง เพราะแนวเสียงที่เอาข้อดีของ SB13 Ultra รุ่นน้องมาได้ครบหมด ทั้งความไว ความกระชับ ลูกหนัก ความสะอาด และยังเสริมเติมกละกำลังและแรงกระแทกเข้าไปอีก ด้วยดอกขนาดใหญ่ขึ้น ไม่เหมือนซับบางตัวที่พอออกรุ่นใหม่ ดอกใหญ่ขึ้นแล้วกลับเสียบุคลิกที่ดีของรุ่นเล็กไป เช่น เบสช้าลง ไม่ค่อยกระชับ แต่หนักขึ้น กลายเป็นซับอีกบุคลิกนึงไป ทั้งๆที่อยู่ในซีรี่ย์เดียวกัน แต่ตัว SB16 Ultra ยังคงเก็บรักษาสิ่งดีๆจาก SB13 Ultra ไว้ได้อย่างน่าชื่นชม (SB13 Ultra ได้รางวัล the Best Subwoofer จาก StereoNet) และโดยส่วนตัวเราก็ชอบบุคลิกและแนวเสียงของ SB13 Ultra มากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
นอกเหนือจากได้ดอกใหญ่ขึ้น ได้เสียงดีขึ้น ยังพัฒนาการปรับเซ็ทให้สามารถทำได้ละเอียดและดีขึ้น ง่ายขึ้น ไฮโซกว่าเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัดดิจิตอล รีโมท และแอปบนมือถือ เงินที่จ่ายเพิ่มจากตัว SB13 Ultra อีกประมาณ 3 หมื่นบาท เอาจริงๆแค่ดอกใหญ่ขึ้น แอมป์กำลังสูงระดับ 5,000 วัตต์พีคนั้นก็คุ้มแล้วครับ
คุณเหมาะกับ SVS SB16 Ultra มั๊ย
จุดเด่นของ SVS SB16 Ultra ที่ชัดเจนที่สุดคือ เบสหนัก แต่ไว โคดไว กระชับ และถ้าคุณชอบเบสที่กระชับ ฉับไหว และต้องการซับที่มีพละกำลังด้วย ยามที่ต้องโหม ซับให้แรงกระแทกได้มหาศาลพอเพียง กระแทก อิมแพค ดึงรุนแรง ตัวนี้ให้ได้ครับ
จุดเด่นของ SB16 Ultra ไม่ใช่ deep bass ที่ลาก แผ่ยาว หรือเบสที่สร้างแรงสั่นสะเทือนที่โซฟายาวๆหนักๆ หรือปริมาณเบสมากๆ แต่เป็นเบสคุณภาพที่พุ่งมา
กระแทก ทีเดียว ดึงโซฟา เขย่าทีเดียวแล้วหยุดตามจังหวะของหนังที่บันทึกมา จำเอาไว้ว่า SB16 Ultra ลงลึกได้ 16 Hz ก็จริง แต่จุดเด่นของ SB16 Ultra นั้นคือย่านเบสต้นที่ทำได้ค่อนข้างดีและชัดเจนมากๆกว่าซับตัวอื่นๆในช่วงราคาเดียวกัน และแน่นอนว่าเบสต้นชัดเจนกว่า PB16 Ultra มากมายนัก แต่ PB16 Ultra จะมาเอาชนะช่วง mid และ deep bass ที่ปริมาณมากและโหดจนขนลุก ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ชอบเบสที่มีเนื้อและแผ่ๆ
การคาดหวังว่า SB16 Ultra จะให้เบสที่นุ่มนวล ผู้ดี เบาๆบางๆ Blend ไปกับคู่หน้า แผ่สร้างบรรยากาศหรูๆเฉกเช่น Velodyn หรือ Rel นั้น ขอบอกว่าว่าคุณคิดผิด เก็บเงินไว้ไปทำอย่างอื่นจะดีกว่า
แต่ตรงกันข้าม SB16 Ultra ให้เบสที่หนักหน่วง รุนแรงเหมาะกับคนชอบซับตู้ปิดที่มีพละกำลัง ชอบดูหนัง เหมาะกับการดูหนัง ชอบเบส หรือชอบฟังเพลงเร็วๆ มีจังหวะมากกว่าครับ
หากคุณมีซิสเต็ม มีลำโพงที่ดีมากพออยู่แล้ว และต้องการหาซับดีๆสักตัว หน้าตาสวยๆ โชว์แขกได้ เบสสะอาด กระชับ ฉับไว หนัก กระแทก SVS SB16 Ultra อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ แต่ถ้าจะพิจารณาใช้ SVS SB16 Ultra เป็นซับคู่ ขอบอกว่ามันจะให้ปริมาณเบส คุณภาพเบสที่ดีกว่าใช้ตัวเดียวมาก
-------------------------------------------------------------
จุดเด่น : เบสไวมาก กระชับ หนักมาก เบสต้นดี ฟังมัน กระชาก
จุดด้อย : เบสกระชับจนดูเหมือนห้วน เบสลึกๆ เป็นคลื่นแผ่มาปะทะอาจจะสู้ตู้เปิดอย่าง PB16 Ultra ไม่ได้
-------------------------------------------------------------------------
ความหนักแน่น แรงปะทะ: 4.75
ความกระชับ ความไว: 5.0
ความนุ่มนวล: 4.5
ความสะอาด: 5.0
หน้าตา งานประกอบ: 4.75
ความคุ้มค่าเทียบกับราคา: 4.9
คะแนนรวม: 4.8/5
ราคาและสเปก SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |