อีกหนึ่งความสะดวกสบายของ SVS 16Ultra flagship ตัวใหม่นั้นนอกจากจะให้หน้าจอบนตัวซับมา และให้รีโมทคอนโทรลมาแล้ว
ที่เด็ดที่สุดก็คือ ยังมีแอปให้โหลดบนมือถือหรือแทปเลตเอาไว้เป็นรีโมท และเอาไว้เซ็ทอัพซับทั้งสองรุ่นได้ด้วย (SB16Ultra, PB16Ultra)
โดยการเซ็ทอัพของ SVS 16Ultra รุ่นใหม่นี้จะเซ็ทได้ละเอียดยิบขึ้นมาก โดยเมนูในการเซ็ททั้งหมดจะมีดังนี้
1. Low pass filter (Cross over) ที่สามารถเซ็ทขยับได้ในระดับทีละ 1 ไม่ใช่ทีละ 10 เหมือนซับทั่วๆไป รวมไปถึงเซ็ท slope เพื่อให้สามารถเบลนเข้ากับคู่หน้าได้ดียิ่งขึ้นสำหรับใครที่นำไปฟังเพลง
ในคู่มือบอกไว้ว่า Low pass filter นี้ถ้าตัด cross มาจาก AVR หรือ Pre แล้วก็แนะนำให้ปิดที่ซับไปซะ จะได้ไม่ต้องผ่านวงจรซ้ำอีกหน ซึ่งถ้าดูหนังเราก็แนะนำให้ตั้งเป็น off และไม่ต้องตั้ง slope อะไร
2. Phase สามารถขยับได้ทีละหนึ่ง เซ็ทได้ละเอียดยิบ ไม่ใช่ 0/180 เหมือนซับรุ่นอื่นๆ ซึ่ง phase จะช่วยลดการเกิดการหักล้างกันของเสียงเบสได้
3. Polarity สามารถตั้งเป็น positive หรือ negative เพื่อช่วยแก้ปัญหาเบสหักล้าง, null หรือเบสหาย ซึ่งถ้าไม่มีปัญหานี้ ก็แนะนำให้ default ไว้ที่ positive แบบเดิม
4. Paramatic EQ ตรงนี้เราสามารถขยับกราฟความถี่ต่ำ ขึ้นหรือลงได้ จะดันช่วงความถี่ไหนขึ้นหรือลงก็เลือกได้โดยตรงจากแอปบนมือถือได้เลย ใช้งานง่ายมากครับ แถมสะดวกสบายๆเพราะเป็นเมนูแบบสัมผัส แต่การใช้งาน EQ ตรงนี้ เราจะรู้ว่าเราจะดันหรือลดตรงไหนนั้น เราจำเป็นต้องเห็นกราฟของความถี่ต่ำของซับวูฟเฟอร์เราในห้องนั้นๆซะก่อน เราถึงจะรู้ว่าความถี่ต่ำเรามีย่านไหนที่มันหุบ มีย่านไหนที่มันโด่ง จะได้ดึงหรือลดให้กราฟมันเรียบในทุกๆย่านๆได้ถูกต้อง
ซึ่งตรงนี้ถ้าใครมีโปรแกรมช่วยจับกราฟก็ใช้ซะ หรือใครที่ใช้ AVR หรือ Pre Anthem ก็ให้ใช้ไมค์ ARC ของเค้านั้นแหละครับ วัดและเอากราฟเฉพาะซับวูฟเฟอร์มาดูว่ากราฟเราเป็นอย่างไร ตรงนี้ Anthem จะได้เปรียบ AVR ตัวอื่นในท้องตลาด เพราะโปรแกรมของเค้าจะพล๊อตกราฟออกมาให้เราเห็นเลยว่าความถี่ต่ำช่วงไหนที่มันมีปัญหา พอเรารู้แล้ว เราจึงมาปรับ EQ ที่ตัวซับเราผ่าน app ของ SVS 13Ultra ได้ครับ
5. Room Gain Compensation ค่านี้ปกติจะ off อยู่ แต่ถ้าใครที่มีห้องเล็ก หรือมีปัญหาเบสล้น เบสบวม อาจจะมาใช้ตรงนี้ช่วยได้ครับ แต่เราแนะนำว่าถ้าห้องปกติไม่มีปัญหา ก็ให้ตั้ง off ไว้ตามเดิม
6. Volume ใน app จะสามารถปรับเพิ่มลดเสียง volume ได้อิสระ โดยลากแบบ drag หรือจิ้มกด +- ที่ปุ่มก็ได้ง่ายๆ แต่ได้ใคร drag ลากเอา ให้ระวังอย่าเผลอไปดันไปด้าน + เพราะมันเลื่อนง่าย พอเราดันปื้ดไป level อาจขึ้นไปสูงสุด และเราอาจกำลังดูฉากพีคๆ เช่น madmax อยู่ อาจทำให้ตกใจ หรือสร้างความเสียหายได้
7. Preset เราสามารถตั้งค่า setup เฉพาะจของเราและให้มันจำค่าเซ็ทอัพทั้งหมดเอาไว้ได้
8. System setting ตรงนี้เราสามารถเซ็ทรายละเอียดหยุมหยิมต่างๆได้เช่น เวลาดูหนัง เราจะให้หน้าปัดของซับ SVS มันโชว์คำว่าอะไร มีให้เลือก 3 แบบคือ
- โชว์ คำว่า SB 16 Ultra / PB 16 ultra
จริงๆส่วนตัวผมชอบไม่ให้โชว์อะไรเลย เพราะไฟมันไม่แยงตาดี และพอเราจะกดปรับอะไร แสงไฟที่หน้าปัดถึงจะค่อยติดกลับมาอีกครั้ง
แต่บางคนชอบให้โชว์ขึ้นมาก็มี เพราะจะได้รู้ว่าซับยังทำงานหรือใช้งานได้ปกติ เพราะบางทีมืดไปแล้วซับไม่ทำงาน หรือปลั๊กหลุดแล้วเราจะไม่รู้ เช่น sb13 ultra ที่ด้านหน้าจะสะอาดและเกลี้ยง ไม่มีไฟอะไรแสดงสถานะเลยใดๆทั้งสิ้น ต้องก้มไปดูด้านหลังตู้ถึงจะเห็นหน้าจอ
การใช้งาน app ก็ง่ายครับ แค่เข้าไปโหลดแอปชื่อ SVS มาไว้ที่เครื่องมือถือของเราก่อน ซึ่งโหลดได้ทั้ง IOS และ android (Play Store) พอติดตั้งเสร็จ เครื่องมันก็จะพยายามเชื่อมต่อกับซับของเรา ทีนี้ถ้าใครมีซับรุ่นนี้ (16 Ultra) อยู่ในห้องหลายๆตัว หรือเล่นซับหลายตัว app มันจะลิสต์รายชื่อซับรุ่นนี้ในห้องเราทั้งหมดมาให้ดู และถามเราว่า เราจะ pair และคอนโทลซับตู้ไหน (ใช้บลูทูธ)
และทั้งหมดนี่คือความสะดวกสบายในการใช้งาน SVS SB/PB16 ตัวใหม่รุ่นสูงสุดรุ่นนี้ ส่วนตัวผมว่าสะดวกสบายดี เพราะบางทีเวลาเราเข้าไปนั่งฟัง มือเราก็ถือหรือติดอยู่กับมือถืออยู่ตลอดเวลาและเรียกใช้ได้ง่ายกว่าการใช้รีโมท และเดินไปปรับที่เครื่องเองเยอะครับ (app หน้าจอเป็น drag & drop เอาใช้งานลากๆถูๆเอา ง่ายมากครับ)
การเซ็ทอัพทั้งสามแบบก็คือ เซ็ทที่ตัวเครื่อง, เซ็ทผ่านรีโมท, เซ็ทผ่าน app ทั้งหมดล้วนทำได้เหมือนกันหมดครับ แล้วแต่สะดวกจะทำที่ไหน แต่ผมมองว่าผ่าน app นั้นง่ายสุดแล้ว และถ้าเราเซ็ทผ่าน app หรือผ่านรีโมท ค่าต่างๆที่เราป้อนไปจากมือถือหรือรีโมท มันก็จะไปโชว์แสดงบนหน้าจอตัวตู้ซับของเราไปพร้อมๆกันแบบ real time ด้วยครับ
สุดท้าย ใครที่ลังเล และคิดว่าจะคุ้มมั๊ย เราบอกว่าคุ้มค่าดีโดยเฉพาะตัว SB16 Ultra ที่เพิ่มเงินจากรุ่น SB13 Ultra แค่ 2-3 หมื่นบาทก็ได้อะไรเพิ่มขึ้นมาหลายอย่างแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น
- แรงและพละกำลังของเบสที่เหนือกว่า
- ดอก 16 นิ้ว ใหญ่กว่า กระแทกกว่า อิมแพคเหนือกว่า และลงลึกได้มากกว่า
- กำลังขับในตัวสูงถึง 1,500 วัตต์ และพีครองรับฉากที่ไดนามิฃคมาแรงๆได้ถึง 5,000 วัตต์
เอาจริงๆแค่เรื่องเสียงเรื่องเดียวก็น่าใช้แล้วครับ นี่ยังให้ฟีเจอร์อะไรมาช่วยสนับสนุนการใช้งานและเซ็ทอัพให้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก
สรุป ส่วนตัวมองว่า เรื่องคุณภาพเสียงของ SB/PB16 Ultra คงไม่ใช่ปัญหาที่ต้องคำนึงถึงอีกต่อไปแล้ว เพราะเสียงดีกว่ารุ่นเก่าอย่าง SB/PB13 Ultra ขึ้นไปอีกขั้น
และนี่คือซับวูฟเฟอร์รุ่นเรือธงของ SVS (SB16 Ultra และ PB16 Ultra)
ปล. ช่องต่อด้านหลังมีให้ทั้ง RCA / XLR input และ output โดยช่อง output นั้นสามารถใช้งานโดยมี SVS 16Ultra หลายๆตัว และเราใช้สาย RCA / XLR ในการส่งสัญญาณต่อให้ซับวูฟเฟอร์ตัวอื่นๆเล่นแบบเป็น chain ได้ทีละหลายๆตัวครับ