Yamaha Aventage RX-A3060 มีอะไรใหม่บ้าง

อีกไม่นานไม่กี่อึดใจ ในบ้านเราก็น่าจะใกล้ได้สัมผัสกับ Yamaha Aventage RX-A3060 กันแล้วนะครับ สำหรับสาวก Yamaha น่าตื่นเต้นกันพอสมควรกับ AVR รุ่นใหม่ตัวนี้ ที่จะมาพร้อมกับฟังชั่นใหม่อะไรบ้าง เราไปดูกันเลยครับ

เริ่มต้นกันด้วย ตัวนี้เป็น AVR 9.2 channels ที่สามารถต่อลำโพงพร้อมๆกันได้ 9 แชนแนล พร้อมซับอัก 2 ตัว และภาคปรีที่รองรับการต่อลำโพงได้ 11 แชนแนล คุณอาจจะเล่น 5.2.4 หรือ 7.2.2 ก็ได้ 
แต่ถ้าคุณจะเล่น 7.2.4 นั้น คุณจะต้องหา power amp มาต่อเพิ่มให้คู่หน้าครับ

ในด้านของขุมพลังของ AVR รุ่นนี้ถ้าวัดกันแบบปกติ 8 โอห์ม ก็จะมีกำลังที่ 150 วัตต์ ซึ่งก็ถือว่าเยอะแล้ว และเพียงพอกับ avr สักตัวที่น่าจะเล่นลำโพงบ้านๆที่ไม่กินวัตต์มากได้พอแล้วครับ ยกเว้นจะเอาไปลาก polk rti a7 หรือ elac ตั้งพื้น หรือ proac, nht พวกนี้ก็คงจะไม่ไหวละครับ มันไม่ได้สร้างมาสำหรับลำโพงพวกนั้น ถ้าจะขับจริงๆก็คงจะพอถูไถไปได้ แต่ถ้าให้ดี เราแนะนำ poweramp ครับ

ซึ่ง avr yamaha ยุคใหม่ๆนี้ ถ้ายอมรับกันตรงๆก็ต้องบอกว่า จุดอ่อนหลักน่าจะเป็นเรื่องของกำลังขับทื่ดูจะมีกำลังสำรองน้อยกว่าค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็นค่าอเมริกัน หรือแม้แต่ค่ายญี่ปุ่นด้วยกันเอง   ซึ่งก็แลกมากับจุดเด่นที่ค่ายอื่นให้ไม่ได้อย่างเสียงกลางแหลมที่ดี ระยิบระยับ แม้ใครจะบ่นว่าบางไปนิด แต่ถ้าเซ็ทดีๆ เราจะได้ avr ที่บรรยากาศโอบล้อม และรายละเอียดดีมาตั้งแต่กำเนิดเลยทีเดียว

ถ้าใครชอบแนวเสียงแบบดีเทลจ้าๆ และจับกับลำโพงที่เสียงนุ่มๆ เราว่ามันเข้ากันได้ดีมากครับ หรือถ้าจับกับลำโพงเสียงสดๆ ก็ให้เสียงแนวดูหนังที่สนุกและเฟี้ยวฟ้าวดีใช้ได้เลยครับ

ส่วนหน้าตานั้นก็ต้องบอกและยอมรับกันตรงๆว่า ลากขายหน้าตาและบอดี้แบบนี้กันมานานมาก และไม่เคยเปลี่ยนเลย ถ้าไม่วิ่งไปดูตัวเลขรหัสรุ่นบนตัวถัง ผมก็แยกไม่ออกละครับว่านี่รุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า

ในรุ่นใหม่นี้สิ่งที่ได้เพิ่มมาคือ DTSX และฟีเจอร์เดิมอย่าง Dolby Atmos ก็มาครบครัน

ช่องต่อนั้นให้มา 8 hdmi input และรองรับ HDCP 2.2 รองรับ 4K ที่เฟรมเรท 60 frame per sec (pass through) และรองรับระบบสีแบบ HDR และ BT.2020

ภายในของ 3060 บิ้วอิน DAC SABRE 32-bit มาให้ซึ่งทำหน้าที่เป็นพระเอกสำคัญในการ process และประมวลผลเรื่องเสียงของ AVR ตัวนี้ให้ได้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของ Yamaha แท้ๆ โดยในรุ่นนี้มี codec สำหรับเล่นไฟล์เพลงอย่างเช่น DSD AIFF, FLAC, WAV, Apple lossless มาให้ด้วย และยังสามารถสตรีมเพลงผ่าน network ได้ด้วยครับ

ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆอย่าง wifi, bluetooth และสตรีมมิ่งก็แถมให้มา (ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอกครับ) Pandora, Spotify, Rpapsody, Sirius, XM Internet Radio, vTuner

และก็ยังมีฟังชั่นอย่าง multi room เพื่อต่อเพลงไปเล่นห้องอื่น Zone 2, zone 3  ได้

สรุป
สำหรับใครที่มีแผนจะเปลี่ยน avr อยู่พอดี ไม่ว่าคุณจะใช้ avr ของค่ายไหน รุ่นเก่าหรือเป็นสาวก yamaha อยู่แล้ว ตรงนี้ก็เป็นโอกาศอันดีที่จะได้ซื้อหา avr ที่มีระบบเสียงที่จำเป็นแบบครบๆมาไว้ใช้งานกันยาวๆแล้วครับ  ซึ่งหากคุณชอบ yamaha อยู่แล้ว หรือใช้รุ่นเก่าของมันอยู่ แต่รอว่าให้ระบบเสียงมันนิ่งก่อน จะได้ตามซื้อแล้วจบๆ ไม่อยากรอหลายขยักเหมือนรุ่น 3050   ตรงนี้ก็น่าซื้อถ้าคุณอยากได้ dtsx

ผมมองว่า dtsx มันง่ายกว่า dolby atmos เยอะ เพราะคุณไม่ต้องไปลำบากลำบนหาลำโพงมาแขวนบนหัวให้ยุ่ง (แต่บรรยากาศบนหัวก็ดีขึ้นจริงๆ ก็แน่ละ มันมีลำโพงจริงๆอยู่ข้างบน) เจ้า dtsx มันมิ๊กเสียงให้ ซึ่งเสียงก็ดีและแน่นขึ้นจริง

ทีนี้คุณจะซื้อดีมั๊ย ตรงนี้ผมตอบแทนไม่ได้ ถ้า avr เก่าคุณจะพัง ตกรุ่น อยากตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอนนี้เป็นโอกาศดีครับ  แต่จะมาที่ค่ายไหน มาที่ yamaha 3060 ตัวนี้มั๊ย  คุณต้องตัดสินใจเอาเองครับว่าคุณชอบเสียงสไตล์ Yamaha หรือเปล่า