อายุการใช้งานและวิธีการเก็บรักษาลำโพงให้อยู่กับเราไปนานๆ

วันนี้เรามีบทความเรื่องอายุการใช้งานและการเก็บรักษาของลำโพงมาฝากครับ

ใครที่มือใหม่และสงสัยว่า เอ๊ะ เริ่มจะเข้ามาในวงการนี้ ทำไมลำโพงมันแพงจัง ก่อนนั้นเล่นมินิคอมโปหลักพันเอง
นี่ลำโพงคู่หน้า หรือบางทีลำโพงเซ็นเตอร์ตัวเดียวราคาตั้งหลายหมื่น

แบบนี้ซื้อไปแล้วมันจะอยู่กับเรานานมั๊ย?
อายุการใข้งานมันกี่ปี?
แล้วต้องซ่อมบำรุงมันเหมือนรถหรือเปล่า?
แล้วการใช้งานต้องระวังส่วนไหนบ้าง?
เก็บไว้ที่ไหนดีถ้าไม่ได้ใช้?





- อายุการใช้งานของลำโพงเฉลี่ยไม่สามารถระบุได้ครับ แต่ทั่วไปแล้วถ้าลำโพงไม่ได้โดนกระแทก หรือทำหล่น หรือล้ม อายุการใช้งานจะยาวนานนับสิบปี มีลำโพงเก่าหลายคู่ที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่ออายุ 20-30 ปี ไม่เคยซ่อมก็ยังใช้งานได้ดี เรียกว่าลำโพงคู่นึงอยู่กับเราไปครึ่งชีวิตก็มีถ้าไม่เบื่อกันไปซะก่อน

- สิ่งที่จะเสียง่ายที่สุดในลำโพงคือขอบลำโพงครับ ถ้าขอบโฟมจะหมดอายุเร็วกว่านั่นคือเฉลี่ย 5 ปี ถ้าขอบยางก็ประมาณ 8-10 ปีขึ้นไป แต่ถ้าใช้งานบ่อยๆเปิดฟังประจำ อายุก็จะอยู่ยาวนานขึ้นครับ
ดัง นั้นลำโพงที่ใช้งานประจำจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าลำโพงที่ไม่ได้เปิดเลยครับ แต่ถ้าขอบลำโพงเปื่อย ก็ไม่ได้หมายความว่าโยนทิ้งนะครับ แค่เปลี่ยนขอบโฟมหรือยางตามสเปกของมันแค่นี้ก็ทำให้มันกลับมามีชีวิตใหม่ได้ อีกครั้งแล้ว ค่าแรงค่าของก็ไม่แพงครับขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของยางและลำโพงนั้นๆ

- สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือ ความชื้น บาง คนไม่ทันระวังตั้งลำโพงไว้ในที่ที่มีความชื้นมาก พอมาเปิดก็มีความเสี่ยงที่ voice coil ขาดได้ ดังนั้นควรตั้งลำโพงในห้องใช้งานปกติ และหลีกเลี่ยงห้องที่มีความชื้น ใกล้สระน้ำ อ่าง บ่อปลา เป็นต้น

- แดด เป็นอีกสิ่งนึงที่ควรหลีกเลี่ยง การวางลำโพงโดนแสงแดดโดยตรง ก็ส่งผลให้ขอบยาง ดอกลำโพง ริบบ้อน เสื่อมอายุการใช้งานได้เร็วขึ้นครับ ดังนั้นวางในห้องปกติดีที่สุด อย่าเอามันมาตั้งใกล้หน้าต่างหรือกลางแจ้ง (ยกเว้นลำโพง PA)

- สิ่งที่ควรระวังมากๆที่สุดคือ การเคลื่อนย้ายลำโพงครับ ห้ามยกลำโพงโดยใส่หน้ากากลำโพงไว้เด็ดขาดครับ เพราะคุณจับยกที่หน้ากากมีโอกาศสูงมากที่หน้ากากหลุดแล้วลำโพงก็จะหลุด กระแทกพื้นได้มากๆๆๆครับ



- อย่ายกลำโพงหลายๆคน หรือให้เด็กที่ไม่รู้เรื่องมายก เพราะดีไม่ดียกชุลมุนกันอยู่นั้น บางคนเอามือไปจิ้มทวีตเตอร์ที่เป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของมันก็ยุบไปเลย ครับ จะไปโทษคนช่วยก็ไม่ได้ครับ ก็เค้าไม่ได้ตั้งใจ

- อย่ายกลำโพงบุ๊กเชลฟ์ทั้งขาตั้งหรือไม่ถอดสายลำโพง บางคนขี้เกียจยกมันทั้งขาทั้งสายเลยง่ายดี บางทีขาตั้งยกแน่นหนาไม่หลุดมือ หรือบางทีสะดุดสาย ลำโพงร่วงลงมากระแทกพื้นไม่รู้ตัวครับ

- อย่าปล่อยทิ้งมันนานโดยไม่เล่นเลย เดี๋ยว cap ใน net work จะเสีย อย่างน้อย 5-6 เดือนก็เอามันมาเล่นมาเปิดบ้างซัก 1-2 ชั่วโมงครับ ลำโพงทิ้งไว้นานๆก็ไม่ดีครับ

- ผิวลำโพงส่วนใหญ่เป็นผิวไม้ veneer อย่าพยายามให้แม่บ้านเอาผ้าเปียกโชกๆไปเช็ด หรืออย่าให้เพื่อนฝูงเอาแก้วไวน์ หรือเอาเบียร์เย็นๆไปวาง ถ้าเห็นให้รีบยกออกและเช็คให้แห้งครับ เพราะผิวไม้พวกนี้มีโอกาศโก่งงอ ลอกถ้าเจอความชื้นหรือน้ำครับ
บางตัวผิวไม้งามมากๆ แต่โดนแก้วน้ำวางทับนานจนลอกเป็นวง หรือด่างเป็นรอยแก้วก็ดูเสียคุณค่าของลำโพงดีๆหมดครับ

- หากเลี่ยงได้ควรเลี่ยงให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงเช่นแมว ลูกสุนัขเข้าใกล้ลำโพงครับ บางทีลูกน้อยไปโหนลำโพงตั้งพื้นเล่น ลำโพงตกยังไม่เท่าไร่ แต่ถ้าลำโพงมันหล่นลงมาทับหัวลูกเราก็คงแย่นะครับ หรือแมวบางตัวใช้ลำโพงเป็นที่ฝนเล็กก็มี บางตัวหรักกว่าฝนเล็บบนดอกลำโพงซับวูฟเฟอร์ (ดอกมันอยู่ต่ำเลยฝนเล็กซะเลย) บางตัวฉี่รดประกาศอาณาเขต คิดแล้วปวดใจนะครับ หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกครับจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

- นอกเหนือจากขอบยางแล้ว ตลอด อายุการใช้งานของลำโพงก็ไม่มีอะไรที่ต้องซ่อมบำรุงหรือสิ่งที่ต้องดูแลเป็น พิเศษครับ เรียกง่ายๆว่า ตั้ง เซ็ืทอัพ ใช้งานก็จบ ไม่มีค่าใช้จ่ายดูแลรักษาอื่นๆตามมา ยกเว้นค่าแอมป์ หรือจะเบื่ออัพเกรดอุปกรณ์ก็อีกเรื่องนึงครับ



จบ แล้วครับ เห็นมั๊ยครับว่าถ้าคุณซื้อลำโพงดีๆสักคู่มาใช้ ถ้าใช้งานอย่างต่อเนื่องไม่ใด้ทำหล่นหรือเอาอะไรไปกระแทก แค่นี้ลำโพงคู่สวยของคุณก็อยู่ไปได้นานเป็นสิบปีโดยไม่ต้องดูแลหรือระวัง อะไรเลยครับ