How to: Bi-Amping a Speaker
Bi-Amp คืออะไร ต่อยังไง แล้วต่างกับ Bi-Wire ยังไง ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร บางคนมีของ มีลำโพงมีแอมป์เหลืออยู่แต่ไม่รู้จะต่อยังไง วันนี้เรามีบทความวิธีการต่อไบแอมป์ และข้อดีของการต่อแบบนี้มาให้อ่านเล่นๆกันครับ
บทความต้นฉบับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษคลิ๊กที่นี่เลย: http://www.klipsch.com/blog/how-to-bi-amping-a-speaker/
ฺBi-Amping และ Bi-Wiring
Bi-Amplification หรือ Bi-Amping เป็นเทคนิคการต่อลำโพงวิธีหนึ่ง ที่เราต้องเตรียมแอมป์ โดยแอมป์ตัวที่หนึ่งจะต่อกับดอกลำโพงเสียงทุ้มและแอมป์อีกตัวนึงต่อกับดอก ลำโพงเสียงแหลมและเสียงกลาง
ซึ่งการจะต่อแบบนี้ จะต้องไปดูด้านหลังของลำโพงตัวโปรดของเราก่อนว่ามีขั้วต่อ (Binding post) แบบสองคู่แยกกันหรือไม่ หนึ่งคู่จะมีดำกับแดง (บวก ลบ อย่างละคู่ แยกกัน ซึ่งลำโพงบางตัวมีคู่เดียว) ถ้ามีขั้วต่อแบบสองคู่ มันจะมีสะพาน (jumper) คั่นเอาไว้อยู่เสมอ ตามรูป
แบบคู่เดียว แบบนี้จะต่อไบแอมป์ไม่ได้
แบบสองคู่ แบบนี้ต่อได้
เวลา เราต่อเล่นแบบปกติ เราจะใช้สายลำโพงเพียงสองเส้น ต่อจากแอมป์ ขั้วแดง (บวก) และดำ (ลบ) มาเข้าที่คู่ใดคู่หนึ่งของลำโพง คู่ใดก็ได้ เพราะไม่ว่าจะต่อคู่ใดก็ตาม ทั้งสองคู่มันจะถูกเชื่อมด้วยสะพาน (jumper) ถึงกันหมด ตามรูป
แต่ ถ้าจะต่อแบบ Bi-Wired ก็สามารถเอาสะพาน (jumper) ออกแล้วต่อโดยใช้สายจำนวน 4 เส้น ต่อดำจากแอมป์มาเข้าขั้วดำของลำโพงทั้งสองคู่ และต่อแดงจากแอมป์มาเข้าขั้วแดงของลำโพงทั้งสองคู่เช่นกัน ตามรูป
วิธีการเอา Jumper หรือสะพานออกนั้นก็แสนง่าย แค่หมุนขั้วลำโพงทั้งสองคู่ให้หลวมๆแล้วดึงสะพานออกแค่นั้น ตามรูป
ข้อ ดีของการต่อ Bi-wire นั้นเค้าว่ากันว่าถ้าต่อโดยใช้สายที่แม๊ทช์กัน คุณภาพดีพอ กำลังแอมป์ขับไหว จะได้รายละเอียดของเสียง และความคมชัด ความเป็นดนตรีสูงขึ้นกว่าต่อแบบ single wire ครับ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่หูคนฟัง แล้วแต่คุณภาพและ color จากสายที่ใช้ และแล้วแต่ชุดของแต่ละคนด้วยเช่นกัน เพราะมีบางคนลองแล้วก็ชอบแบบ single มากกว่าก็มีครับ
How to connected Bi-Amp
วิธี การต่อไบแอมป์นั้นก็ไม่ยากครับ แค่เอาแอมป์มาสองตัว จะเป็นแอมป์ยี่ห้อเดียวกัน หรือคนละยี่ห้อ ต่างรุ่นต่างกำลังขับกันก็ได้ เอาขั้วแดงและดำของแอมป์ตัวแรกต่อไปที่คู่แดงและดำคู่ใดคู่หนึ่งของลำโพง เช่นต่อไปที่ดอก woofer เสียงต่ำ
และเอาแอมป์ตัวที่สองมาต่อไปยังคู่ แดงและดำอีกคู่ของลำโพง เช่นดอกเสียงกลางและสูง ก่อนต่ออย่าลืมเอาสะพาน (jumper) ออกก่อนนะครับ ตามรูป
และ ควรพึงระลึกไว้เสมอว่า ควรเอาแอมป์ที่มีกำลังขับสูงมากพอมาขับขั้วลำโพงดอกวูฟเฟอร์เสียงต่ำ และควรเอาแอมป์ที่มีกำลังน้อยกว่าไปขับดอกเสียงแหลมหรือ tweeter ครับ
เช่น เรามีแอมป์คุณภาพดีให้เสียงหวานละเมียด แต่กำลังขับต่ำ เราสามารถเอาตัวนี้มาต่อกับขั้วเสียงแหลมเพื่อให้เสียงร้องและเสียงดนตรีมี ความละเอียด ทอดยาวและละเมียดละไม ส่วนแอมป์กำลังขับสูงๆหน่อยก็เอามาขับดอกวูฟเฟอร์เพื่อให้ได้อิมแพคของเบส ที่ดี และหนักหน่วงเวลาเราดูหนังหรือฟังเพลงครับ
เทคนิคการเลือก แอมป์นั้นไม่มีข้อตายตัวครับ คงไม่มีใครตั้งใจซื้อแอมป์มาสองตัวเพื่อนำมาต่อ Bi-Amp โดยเฉพาะ แต่อาจจะมีแอมป์เหลือจากระบบ เราสามารถนำมาต่อได้ การแมทชิ่งถือเป็นเรื่องสนุกครับ เพราะบางทีแอมป์ต่างบุคลิก ต่างสัญชาติ ต่างกำลังขับกันแต่เมื่อนำมาต่อร่วมกันแล้ว ก็อาจจะให้น้ำเสียงที่ไพเราะจนไม่น่าเชื่อก็เป็นได้ครับ
ข้อดีของการต่อ Bi-Amp คือ การทำให้แอมป์แต่ละตัวขยายสัญญาณในช่วงความถี่ที่แคบลง จึงทำให้แอมป์ทำงานได้สบายมากขึ้น
แต่ ข้อเสียก็คือเปลืองอุปกรณ์มากครับ และยังแมทชิ่งยากมากๆด้วยทั้งสาย ทั้งแอมป์ ใครคิดจะเล่น bi-amp กับชุดเล็กๆ ความแตกต่างที่ได้รับอาจจะไม่เยอะ ผมคิดว่าอัพเกรดลำโพงหรือแอมป์ให้ใหญ่ขึ้นคุ้มค่ากว่าครับ ยกเว้นว่ามีของอยู่แล้วอยากทดลองเล่นอันนี้ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ
Note: AVR ที่เป็น 7.1, 9.1 บางรุ่น บางยี่ห้อ สามารถทำ Bi-Amp โดยไม่จำเป็นต้องมีแอมป์สองตัวนะครับ แอมป์เหล่านี้จะสามารถใช้ Surround channels ที่ไม่ได้ใช่เช่น Surround ข้าง โดยต่อไปใช้ร่วมกับ front channels คู่หน้าเพื่อทำ bi-Amp ให้ลำโพงได้ด้วยครับ
วิธีต่อก็แทนที่จะ ใช้แอมป์สองตัว ก็ใช้แอมป์ตัวเดียว ดำและแดงคู่แรกจะต่อจากคู่หน้า และดำและแดงคู่ที่สองจะต่อจาก surround ที่เราไม่ได้ใช้งานนี่เอง
ก่อนทำก็ต้องเช็คก่อนนะครับว่าแอมป์ที่เราใช้อยู่นั้นมีคุณสมบัตินี้รึเปล่า
และ สุดท้ายสำหรับใครที่ต้องการเล่นแบบธรรมดาๆ ไม่ต้องการต่อ Bi-wire, Bi-amp ก็ดูสะพาน (jumper) ว่ายังต่ออยู่ครบและสามารถต่อสายคู่เดียวเข้าไปที่ขั้วดำ และแดงคู่ใดก็ได้ แค่นี้ก็เล่นได้แบบง่ายๆแล้วครับ
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |