แกะกล่องลำโพงเซอราวด์รุ่นท๊อป Klipsch RP-250S สวยทั้งรูป จูปก็หอม?

แกะกล่องลำโพงเซอราวด์รุ่นท๊อป Klipsch RP-250S สวยทั้งรูป จูปก็หอม?

วันนี้เราแกะกล่องเจ้า Klipsch RP-250S ลำโพงเซอราวด์ไบโพลรุ่นใหญ่สุดของ Klipsch Reference Premier 

สำหรับลำโพงเซอราวด์รุ่นใหม่นี้มีรหัสว่า RP-250S เป็นลำโพงที่ถูกดีไซน์มาเพื่อเป็นเซอราวด์โดยเฉพาะ มีมุมการจายเสียงกว้าง ใช้ดอกลำโพงขนาด 5.25 นิ้วสองดอก  และดอกทวีตเตอร์อีกสองดอกตั้งหันหน้าออกจากกัน 90 องศา

ในระบบ Home Theater แชนแนลที่เรามักจะให้ความสำคัญก็มักจะทุ่มเทไปที่ คู่หน้า เซ็นเตอร์ และซับวูฟเฟอร์นะครับ แต่ใครจะคิดมั๊ยครับว่า  ลำโพงเซอราวด์เนี่ยมีหน้าที่คอยเติมเต็มและเติมบรรยากาศในห้องทำให้บรรยากาศในการดูหนังนั้นเต็มอิ่ม มีรายละเอียดระยิบระยับน่าดูขึ้นอีกมากๆเลย

วันนี้เราจัดการแกะกล่อง RP-250S และบรรจงอุ้มมันเข้าไปในห้องฟังของเรา ต่อสายลำโพงและลองฟังเสียงกันดู ลำโพงใหม่มาก จริงๆต้องเบิรน์กันสักพัก แต่เราไม่มีเวลาก็มาบอกเล่ากันเลยแล้วกันตามประสาคนใจร้อน  ผมเริ่มเปิดหนังเรื่องนู้นเรื่องนี้ไล่ไปดูจับบรรยากาศไปเรื่อยๆ สังเกตเสียงต่างๆ ดีเทลเล็กๆน้อยๆ นู้นนิดนี่หน่อย หลายเรื่องครับ จนหมดเวลาไปเกือบทั้งวัน 

ไม่ว่าจะเป็น Edge of Tomorrow, Sin City, The International, Transformer, Real Steel, Need for Speed, Book of Eli และอีกมากมาย  นั่งดูไปเกือบหมดวัน จนสุดท้ายสรุปได้ความสั้นๆ ง่ายๆว่า

เซอราวด์แม้จะไม่ใช้แชนแนลที่สำคัญที่สุด แต่ก็ขาดไม่ได้อย่างที่สุดเหมือนกัน ดังนั้นการเลือกลำโพงเซอราวด์ดีๆ ให้เสียงกลมกลืนกับคู่หน้าและเซ็นเตอร์ ความไวพอๆกัน ขนาดดอกไล่ๆกัน ก็เป็นสิ่งสำคัญในระบบโฮมเธียเตอร์

สุดท้ายจะพูดถึงเสียไม่ได้คือบุคลิกแนวเสียงของ Klipsch RP-250S ที่ยังคงสไตล์เดียวกับพี่น้องร่วมซีรี่ย์ นั่นคือสด ชัดเจน จะแจ้ง กระชับ และเอกลักษณ์สำคัญของลำโพงรุ่นนี้คือ กระจายเสียงได้ดี  แต่ทั้งนี้อยู่ที่การเซ็ทอัพด้วย เพราะการเซ็ทอัพสำคัญมากๆ
ลำโพงเซอราวด์ที่ดีต้องติดตั้งให้ถูกต้อง (โดยหลักมาตราฐานแล้วแนะนำให้สูงกว่าแนวหู 60-90 cm โปรดอย่าถามว่าทำไมในรูปติดตั้งแบบนั้น อันนี้คือตัวอย่างที่ไม่ถูกต้องนะครับ ตั้งไว้ถ่ายรูปเฉยๆ ^_^)

ข้อดี
1. ขับง่ายความไวสูง  Sensitivity 95 dB
2. รูปร่างสวยงาม ออกแบบลงตัวตั้งโชว์ได้ไม่อายใคร
3. เสียงให้รายละเอียดดี กรุ๊งกริ๊งใช้ได้ เบสมี เซ็ทดีๆการโยนเสียงทำได้ดีและเนียน เข้ากับลำโพงตัวอื่นๆได้ดี
4. รุ่นนี้ดีไซน์ตัวเล็กลง กระทัดรัด ติดตั้งง่าย หาวางขาตั้งก็ง่าย

ข้อเสีย
1. งานประกอบ รอยต่อ ผิวไม้ เป็นรอยง่ายมาก จับไม่ดีเปื้อนเป็นรอยด่าง ผิวไม้อย่าให้โดยอะไรเลย ยิ่งโดยเฉพาะมุม ถลอกปอกเปิกง่ายกว่ารุ่นเดิม RS52 ii, RS62 ii มากๆ รุ่นเดิมมีพลาสติกปิดหน้าหมด แถมยังเป็นรอยยาก แต่หน้าตาผมว่าตัวเก่าใหญ่เทอะทะและสวยสู้รุ่นใหม่ไม่ได้
2. มีให้เลือกแค่สองรุ่น รุ่นเดิม Reference ii มีให้เลือกถึงสี่รุ่น (RS-41, RS-42, RS-52, RS-62) แต่รุ่นใหม่มีให้เลือกน้อยแค่สองรุ่น (RP-240S, RP-250S)
3. พอมีรุ่นให้เลือกน้อย ทางเลือกของคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ที่จะเล่นเซอราวด์ตัวเล็กๆ ราคาถูกๆ ก็หมดไป ราคาจึงเริ่มต้นที่ 25,400 บาท (RP-240S) ราคาก็ไม่ถูกไม่แพง แต่ก็ถือว่ามีรุ่นย่อยให้เลือกน้อยไปนิด

สุดท้ายของสุดท้าย เซอราวด์เป็นสิ่งสำคัญ  เลือกเซอราวด์ให้ดี แล้วจะรู้ว่าเวลาดูหนังมันได้อารมณ์ สนุกขึ้นเยอะครับ

ปล บางคนสงสัยว่าใช้ Klipsch รุ่นเก่าจะใช้เซอราวด์หรือลำโพงตัวอื่นเป็นรุ่นใหม่ได้มั๊ย  ตอบเลยว่าได้ครับ ได้แน่นอน ผมก็ใช้ผสมอยู่ RP-260F, RC-62 II, RP-250S, R115SW

** เซ็นเตอร์เร็วๆนี้แกะ RC-64 II เอามารีวิวกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดลำโพง Klipsch RP-250S และสั่งซื้อได้ที่นี่: http://www.whatthatsound.com/product/21/klipsch-reference-premier-rp-250s
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------