IOTAVX AVX17 - อ่านว่า ไอ - โอ - ต้า - วี - เอ็กซ์

IOTAVX เป็นแบรนด์เครื่องเสียงที่ก่อตั้งโดย Ian Vermeulen ในเมืองมิดเดิลสโบรห์ สหราชอาณาจักร
จุดเด่นเด่นของ IOTAVX ในตลาดโลกก็คือการทำอุปกรณ์เครื่องเสียงสำหรับ multi channel ในราคาเข้าถึงง่ายและประหยัด
ซึ่งรวมถึงเจ้า IOTAVX AVX17 ที่อยู่ในแร๊คของผมนี่เอง
---------------------------
IOTAVX AVX17 เป็น pre-processor 17 ch รวม subwoofer โดยรองรับทั้ง RCA และ Balance XLR
HDMI รองรับ hdmi 2.0b ให้่ hdmi input มา 6 ช่อง และ output 2 ช่อง รองรับระบบเสียง Dolby Atmos™, DTS:X, รองรับ 4K / HDR / Dolby Vision
ตัวเครื่องใช้ platform บางอย่างร่วมกันกับ ToneWinner AT-300 ซึ่งรวมถึงรีโมทที่เหมือนกันเกือบทุกประการ
ความแตกต่างนอกจากตัวเครื่องภายนอกก็คือ IOTAVX AVX17 มีการอัพเกรดให้สามารถรองรับ 16 ch ได้จริงๆๆ (9,1,6) ซึ่งแตกต่างจาก Tonewinner AT-300 ที่รองรับเพียงแค่ 13 ch (9.3.4 หรือ 7.3.6) และก็มีข่าวลือบางกระแสจาก webboard เมืองนอกว่า จริงๆแล้วตัวบอร์ดหรือเทคโนโลยีนั้นถูกซื้อมาจาก Emotiva รุ่น Bas X ที่สมัยที่บริษัท Emotiva ขายชุด kit เหล่านี้ให้กับหลายๆบริษัทนำไปพัฒนาหรือต่อยอดขายต่อไป ซึ่งถ้าสังเกตจากโครงสร้าง และจำนวน hdmi input , output และ operating system แล้ว จะพบว่ามันมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว
-------------------------

ตัว IOTAVX AVX17 ที่ผมได้รับมานั้นมีการแกะเบิร์นและใช้งานมาก่อนหน้านั้นแล้ว สังเกตได้จากรอยครูดที่บริเวณ hdmi input , output ช่องที่มีการใช้งาน ซึ่งสังเกตได้ว่า เครื่องที่มีการตั้งและเสียบสายจากด้านหน้าโดยเอามือไปคลำๆหาช่อง hdmi แล้วเสียบลงไป จะมีโอกาศที่จะเกิดรอยที่รูนี้ได้ง่าย เพราะตัวคนเสียบยืนอยู่ด้านหน้าเครื่อง มองไม่เห็นรู hdmi
design ของตัวเครื่องมาในแนวแบบเรียบๆ ไม่เน้นหน้าตา หรือวัสดุเท่าไร ตอนที่เห็นงานประกอบตอนแรกนั้น ทำให้รู้สึกนึกถึงเครื่องสมัยก่อนสมัย 10-20 ปีที่แล้ว คือดูไม่ค่อยทันสมัย แม้ตัวเครื่องจะให้ไฟ led มาที่บริเวณตัวโลโก้ และตัว knob ลูกบิด แต่วัสดุของลูกบิดที่ใช้ มันก็จะดูไม่ค่อยลื่นหู ลื่นตาเท่าไรนัก โดยเฉพาะปุ่ม power เปิดปิดของตัวเครื่องที่ออกแบบมาเป็น สี่เหลี่ยมใหญ่ๆ แบบกลไก ที่ดูทีไรก็นึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM สมัยก่อนที่ทำปุ่มเปิดปิดทรงนี้
เอาเป็นว่า หน้าตามันอาจจะไม่ได้ถูกใจหรือแตะตาหรูหรามากนัก หรืออาจจะไปทางย้อนยุคก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับงานประกอบของ pre ตัวอื่นๆในท้องตลาดที่ทำออกมาได้สวยกว่านี้
แต่จุดเด่นของมันอยู่ที่ spec ที่อัดมาให้ถึง 16 ch native แบบรองรับ 9.1.6 ได้จริงๆ และยังให้ช่องต่อมาครบทั้ง RCA และ Balance XLR และมี manual EQ ให้ใช้ในตัวเครื่องด้วย รวมถึงยังมี room correction ของตัวเอง ที่ผมเข้าใจว่ามันคือ software ตัวเดียวกันกับที่อยู่ใน Tonwinner และ Emotiva bax MC1 นั่นแหละครับ ซึ่ง room correction ของมันนั้นเอาตรงๆ อาจจะหวังผลจริงจังแบบพวก ARC Genesis ของ Anthem หรือ diraclive ไม่ได้นัก คือมีเอาไว้แค่พอใช้งานได้ แต่แนะนำว่าการ setup manual หรือจ้าง calibrator เก่งๆที่มีความเชีย่วชาญมาทำให้จะดีที่สุดครับ
--------------------------------

Software / Operation System (OS)
จากการที่ลองต่อใช้งาน ผมพบว่า ตัว OS ของ IOTAVX AVX17 ให้ความละม้ายคล้ายกับ OS ของตัว Emotiva MC1 พอสมควร เอาตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่อง และยังไม่ได้ป้อน input จาก source เข้าไป ตัวเครื่องก็จะมี screen saver หรือหน้าต้อนรับเป็นโลโก้ของ IOTAVX ลอยไปลอยมา คล้ายๆกันกับของ Emotiva MC1, MR1 เลยครับ ต่างกันแค่โลโก้
และในส่วนของการใช้งานเมนูต่างๆ นั้นก็ทำงานในรูปแบบเดียวกันครับ เมนูหลักเลื่อนจากซ้ายไปขวา พอเราจะเข้าไปเซ็ทที่เมนูไหนก็ค่อยเข้าไปในเมนูย่อย แล้วจึงเลื่อนจากบนลงล่างลงมา
หลังจากที่ลองเล่น ทำความคุ้นเคย เซ็ท layout ลำโพง และค่าต่างๆให้พอเริ่มใช้งานได้ ก็สงเกตว่าในเมนู setup ของ IOTAVX AVX17 นั้นเครื่องมือต่างๆมาเกือบครบถ้วนแล้ว แม้หน้าตาจะดูทื่อๆ เรียบๆง่ายๆ แต่การใช้งาน การกด การเปลี่เยนเมนูต่างๆนั้นก้ถือว่าทำได้รวดเร็ว ไม่ได้มีปัญหาค้างหรือช้าอะไรแต่อย่างใด
เครื่องมือที่ให้มาจะมีครบหมดทั้ง crossover , layout, volume trim, volume max, filter slope , EQ manual, room correction, high pass / low pass และการปรับความโปร่งใสของตัวเมนู และการปรับความสว่างของไฟที่ตัวเครื่อง ซึ่งถือว่าทำได้ละเอียด และก็สามารถ assign ช่อง hdmi แต่ละช่องได้ว่าจะให้รับภาพจากช่อง input ไหน และเสียงจากช่องไหน

ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีตามที่มันควรจะเป็น แม้หน้าตาเมนูจะดูเรียบๆง่ายๆ แต่ครบ และอย่างน้อยก็มี Manual EQ ที่ให้มาด้วย ซึ่งตรงนี้ดีมากๆ แม้แต่ anthem avm70 / 90 หรือ audiocontrol ยังไม่ได้ให้มา ต้องไปปรับ eq ในตัว room correction เอา
ในส่วนของความรวดเร็วของ การบู๊ทเครื่องนั้น ก็รวดเร็ว ไม่ช้า แทบจะให้ความเร็วพอๆกับ pre ญี่ปุ่น และในการ switch hdmi source จากช่องต่างๆ นั้นก็ทำได้ตามมาตรฐาน คือ ประมาณ 1-3 วิ มีหน่วงภาพดำนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าตามมือ ภาพเสียงมาไว ไม่มีปัญหาจอดำ หรือจอมีภาพแต่เสียงเงียบให้กวนใจ และก็ไม่เจอปัญหา handshake กับอุปกรณ์ที่ผมมีแตอย่างใดครับ
ซึ่งก็ถือว่ามาตรฐานความเร็วๆพอกับๆตัว emotivabax mc1, mr1 ที่ผมเคยใช้อยู่ (รุ่นที่ OS ช้าจะเป็นตัว RMC-1, XMC-2 รุ่นเก่าก่อนที่จะออกมาเป็น RMC-1+, XMC-2+)
ในส่วนของการ setup และใช้งานก็ต้องยอมรับทำได้เข้าใจง่าย ลื่นไหลดี ไม่ได้ติดปัญหาอะไรสำหรับผม
แต่ข้อเสียก็คือ มันจะไม่ได้มี webip ให้ใช้งานผ่านคอมเหมือนกับพวก Anthem, Stormaudio หรือ มี app software ให้ดาวน์โหลดมาใช้บนมือถือครับ ทุกอย่างต้องทำผ่านที่ตัวเครื่องคือกดปุ่มที่ตัวเครื่องเอา หรือกดผ่านรีโมทคอนโทรลเท่านั้น
ซึ่งสุดท้ายตัวรีโมทมันก็ดูมาตรฐานดี แน่นหนา เป็นงานพลาสติกทั่วไป ไม่ได้ดูบอบบางเหมือนพวกรีโมท soundbar บางตัวที่ดูคร่อกแคร่กๆ ดูไม่ค่อยน่าใช้
แต่ตัวรีโมทของตัวนี้ที่ด้านล่างจะให้ปุ่ม shortcut สำหรับเข้า netflix , youtube music , prime video , browser มาด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าให้มาทำไม เพราะตัวมันเป็น pre-processor ไม่ใช้ source เหมือนมันเอารีโมทของยี่ห้อใดสักยี่ห้อนึงมาโมต่อ แล้วไม่ได้ตัดปุ่มพวกนี้ออกมากกว่าครับ
---------------------------------

ผมลองต่อในระบบแบบเรียบง่ายคือ 5.1 ทั่วๆไป ในห้องขนาด 5*4 ที่เป็นไซส์มาตรฐาน โดยใช้ลำโพงหลักเป็น Procella Audio และลำโพง Kef R Series ร่วมกัน
ก่อนใช้งานก็ set layout ของลำโพง ซึ่งจะมีให้เลือก ว่าจะมีลำโพงอะไรบ้าง มี subwoofer ไหม แล้วก็เข้าไปเซ็ท crossover รวมถึง level , distance ซึ่งในกรณีนี้ตัวลำโพงคู่หน้ากับ center ของผมเป็นคนละแบรนด์กัน และมี sensitivity ที่ต่างกัน จึงต้องชดเชยและบวกเพิ่มสำหรับ procella มากกว่าตัวของ kef r series อยู่ 2-3 level ครับ ไม่งั้นตัว kef r series จะดังกว่า procella ค่อนข้างพอสมควร ซึ่งก็บอกได้ว่าเจ้าลำโพง procella เนี่ยมันไม่ได้ขับง่าย และต้องการ poweramp ดีๆ ที่มีเรี่ยวมีแรงมาดันมันสักหน่อย ซึ่งใน system ผมจะใช้ประมาณนี้ครับ
---------------------------------
Speaker : Procella Audio , Kef R Series
Conditioner : Clef Cleansource
Subwoofer : SVS SB2000 Pro
---------------------------------

ผมใช้ source เป็น computer นะครับ ก็ลองทั้งเพลงจาก youtube และหนัง fullrip ต่างๆๆ
พอเสียบ hdmi เข้าที่ computer ภาพก็มาทั้งภาพและเสียง ไม่ได้มีปัญหาอะไร ถือว่าใช้ง่ายสำหรับปรีตัวนี้ และก็การใช้งาน pre ในตระกูลเทือกๆนี้ทั้ง emotiva basx mc1, mr1 , IOTAVX AVX17 จะต้องเลือกโหมดเสียงให้ถูก ซึ่งจะมีทั้ง pure, direct , multi ch , stereo, dolby , dts
ซึ่งจะต้องตั้งก่อนใช้งานให้ถูกต้องกับการใช้งานของเราก่อนเสมอ
ผมลองทดสอบด้วยหนัง fullrip หลายเรื่อง
พบว่า บุคลิคเสียงของ IOTAVX AVX17 นั้นมาในแนวทางของ pre อเมริกันชัดเจนมาก
ตอนแรกที่คิดไว้ก็คือ มันเป็น pre อังกฤษ เสียงก็น่าจะมาแนวอังกฤษ
**** เสียงแนวอังกฤษในเครื่องเสียงระดับ entry / mid range ในทัศนคติของผมจากที่ฟังๆมาคือ
มันจะมีความประนีประนอม ความนุ่ม แหลมไม่สุด แหลมที่ฟังสบาย ไม่กัดหู ฟังสบายๆหู กับกลางแหลมที่มีมวล เบสอิ่มๆ ติดช้านิดๆ นุ่มๆนวลๆ ไหลลื่น flow ไป ฟังเพลงช้าๆเคลิ้มๆ แต่เพลงเร็วบางทีบีทอาจมีตามไม่ทันๆบ้าง ฟังชิวๆ ไม่สมจริงมาก แต่ฟังแล้วสบายหู ไม่เด่นไปด้านใดด้านนึง
แต่แนวของ IOTAVX ที่ได้ยินเสียงแรกเลย คือ เสียงมันไม่มีความเป็นอังกฤษเลยแม้แต่นิด
นั่นคือให้เนื้อเสียงแหลมที่ชัด จริงจัง เสียงกลางที่กำลังดี ไม่อิ่มเกินจนอุ้ยอ้ายและไม่บาง ในขณะที่จุดเด่นที่ชัดเจนคือกลางต่ำหรือเบสมาในแนว punchy หรือกระแทกกระทั้น มาแล้วจบเร็ว มาไวไปไว ไม่มีบุคลิคแบบเบสลูกโต กรวงๆ ใหญ่ๆ เหมือนปรีญี่ปุ่นหลายตัวที่เคยลองมามักจะให้เนื้อเสียงในย่านต่ำมาในโทนนั้้นเสียเป็นส่วนใหญ่ คือมันฟังง่าย นุ่มนวล เบสมาโอบรับกับกลางแหลมและทำให้เนื้อเสียงย่านกลางต่ำติดมีเนื้อ
แต่ของตัว IOTAVX AVX17 ที่ทดสอบจะมาบุคลิคในแนวอเมริกัน คือดุดัน กลางแหลมชัดคม แต่ไม่แสบหู รายละเอียดดี แต่รายละเอียดก็ไม่ได้ถึงกับระยิบระยับหรือไปไกลเหมือนพวกรุ่นพี่อย่าง avm90, rmc-1, xmc2 แต่ถือว่าเป็นกลางแหลมที่ฟังดี มีเนื้อมีหนัง ฟังกลางๆ ไม่บาง ไม่บู๊ทรายละเอียดชัดเป๋ะขุดทุกรายละเอียดเหมือนกับพวก acurus muse
ในขณะที่กลางต่ำเก็บตัวค่อนข้างดี คม เน้น ไดนามิค ไม่ให้เนื้อเสียงอุ้ยอ้ายใหญ่โต มาเร็วจบเร็ว ให้บุคลิคของเสียงเบสที่เน้นการดูหนังแบบ home cinema มากกว่าไปทางประนีประนอมเพื่อฟังเพลงช้าๆ เสียงกระแทกเหมือนคนที่ leanๆ ใส่นวม ไม่อุ้ยอ้าย เร็ว คม
โดยรวมๆแล้วดูหนังสนุก และเหมาะกับ ซิสเต็มของคนที่ชอบดูหนังแนวแอคชั่น ดูหนังที่เน้น tonal balance มากกว่าการฟังเพลง หรือผ่อนคลายนุ่มๆๆ ช้าๆ
ซึ่งจะไปทางตรงกันข้ามกับปรีหลายๆตัวที่ผมเคยลองแล้วพบว่า เขาจูนมาให้เพื่อฟังง่าย ประนีประนอม ฟังแล้วผ่อนคลาย ฟังเพลงเพราะ ปรีพวกนี้จะฟังเพลงดีด้่วย เนื้อเสียงสะอาด ใส เบสจะมีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ มีความนุ่มนวล เก็บตัวช้ากว่า punchy น้องกว่า แต่ฟังง่าย พูดง่ายๆคือเบสจะไม่ออกมาปั๊กๆๆๆ แต่จะมีเนื้อครางออกมาต่อไปอีกนิดนึง ซึ่งก็จะแลกมากับความสนุกในการดูหนัง ซึ่งเป็นคนละสไตล์กับพวก marantz, audiocontrol, acurus ที่เบสจะมาแนวๆนี้ ตรงข้ามกับตัว IOTAVX AVX17 ครับ

ในส่วนของการนำไปฟังเพลง ผมทดสอบถึงแค่การใช้ source youtube ลองเปิดคลิปต่างๆที่ผมเคยฟัง แนวทางก็มาในแนวเดียวกับการดูหนังทุกประการ คือเบสคม มาไวจบไว กลางแหลมชัด จังหวะเร็ว
สรุปก็คือ การดูหนังทำได้ดี แอคชั่นสนุก แหลมไม่บาดหู เบสคือเอกลักษณ์ของยี่ห้อนี้ คม กระชับในระดับที่ดี tonal balance ใช้ได้ เหมาะกับการนำไปดูหนัง แบบปิดไฟ ไม่ต้องเห็นตัวเครื่อง ใช้ง่าย ปัญหาน้อย แต่ฟังเพลงก็จะเหมาะกับเพลงที่มีจังหวะจะโคน มีไดนามิค เพลงที่เน้นความชัด เน้นความเร็วจะฟังดีกว่าเพลงช้าๆครับ หรือพูดง่ายๆ ถ้าคนชอบในแนวทางการดูหนังน่าจะชอบ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบทาง 2 ch มากกว่า หรือชอบซิสเต็มที่มีความประนีประนอม ช้าๆ นุ่มๆ เนิบๆ เบสใหญ่ๆ เนื้อเสียงโตๆเกินจริง อาจจะไม่ใช่ทางเท่าไร
สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกก็คือ บุคลิคเสียงและการใช้งาน ค่อนข้างเกบือจะเหมือนกับ emotiva mc1 , mr1 มากๆ แบบมากๆๆๆ ทั้งบุคลิคเสียง และการใช้งานต่างๆ
จริงๆแอบสารภาพว่า ถ้าเอาผ้าปิดตัวเครื่องไว้ แล้วทำ blind test สลับกันระหว่าง
สองตัวนี้ก็อาจจะแยกไม่ค่อยออก สาเหตุที่ผมบอกแบบนี้เพราะในห้องที่ใช้ทดสอบนี้ เดิมผมใช้งานเจ้าตัว mc1, mr1 อยู่มาหลายปีแล้ว จึงจำบุคลิคเสียงและชินกับเนื้อเสียงเป็นอย่างดี
พอได้มาลองเสียงของตัว AVX17 แล้วก็เลยรู้สึกว่า โทนเสียงมันใกล้เคียงกันมากๆๆครับ มาแนวเดียวกันเลย
ปล ผมมีอัดคลิปเสียงลงไว้ในช่องคอมเม้น ลองชมตัวอย่างดูครับ
ปล2 พวกข้อเสียเมื่อเทียบกับพี่น้องของเขาอย่าง tonewinner AT-300 ที่มีปัญหาเสียง แจ๊ะๆๆๆๆ ตอนเปลี่ยนแทร๊คเสียง หรือเลื่อน fw , bw ของหนัง ผมไม่เจอครับ จึงคิดว่าปัญหานั้นน่าจะเป็นกับเฉพาะบางเครื่องของ tonewinner
--------------------------------
1. IOTAVX AVX17 รองรับ hdmi 2.0b ทำให้ไม่รองรับกับ 4k 120 hz หรืออาจจะไม่เหมาะกับการนำไปต่อเล่นเกมกับเครื่อง ps5, xbox sx ไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้นะครับ แต่จะไม่รองรับกับบางเกมที่สามารถดันขึ้นไปได้ถึง 4k 120 hz เท่านั้น แต่ถ้าเราปรับลดลงมาอยู่ทีมาตรฐานทั่วๆไป 4k 60hz หรือต่ำกว่านั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
2. หน้าตาและดีไซน์ ค่อนข้างจะเรียบง่าย ไม่เน้นความหรูหรา ติดไปทางย้อนยุค เหมาะสำหรับเอาไว้ในห้องที่เน้นการดูหนังอย่างเดียว ไม่เปิดโชว์ตัวเครื่อง หรือห้องมืดๆมากกว่า
3. เทคโนโลยีที่อาจจะไม่ทันสมัยนักเมื่อเทียบกับ prepro สมัยใหม่ๆ นั่นคือไม่รองรับ dts:x pro ไม่รองรับ auro 3d
4. ไม่มี เทคโนโลยีช่วยมากนัก เช่น webip , app ในการเซ็ทอัพไม่มี ทุกอย่างต้องทำผ่านหน้าจอหรือบนเมนูจากรีโมทเท่านั้น
5. จุดอ่อนของตัวปรีในตระกูลนี้ คือบรรยากาศและความโอบล้อม การแยกแยะเลเยอร์ทั้งแนวตั้งและแนวนอน จะทำกลางๆ ไม่เด่นเท่าปรีที่เด่นเรื่องบรรยากาศ เช่นพวก marantz, audiocontrol (ตัวนี้เขาเก่งเรื่องนี้) , acurus แต่ก็แลกมากับ tonal balance หรือโทนเสียงที่เข้มข้น สะใจ เบสที่หวดหนัก จบเร็ว กระชับ ครับ ได้อย่างเสียอย่าง
---------------------

1. ราคา ความคุ้มค่า สำหรับ pre 16 ch native แท้ๆ ที่รองรับ balance xlr ต้องถือว่า ในตลาดในบ้านเราไม่มีตัวไหนให้มากกว่านี้แล้ว
2. แนวเสียง โทนเสียง จูนมาค่อนข้างดี โทนัลบาล้านดี ดูหนังสนุก เหมาะกับคนชอบสไตล์อเมริกัน หรือชื่นชอบการดูหนัง ผมว่าเสียงใกล้เคียงหรือเผลอๆดีกว่าปรีราคาแสนปลายๆ เจ้าใหญ่ที่บ้านเรานิยมกันอีกนะครับ และถ้าเทียบกับ pre ญี่ปุ่นใน generation ที่แล้วในราคาแสนต้นๆ ไปจนแสนปลายๆ อย่าง marantz 7706, marantz 8805 ต้องบอกว่า สำหรับการดูหนังนั้น มันคนละเรื่องกันเลย
3. น้ำหนักตัวเครื่อง ความร้อน อาจจะเป็นเพราะใช้ platform หรือ share technology มาจากตัวที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้านั้นทำให้ตัวเครื่องเบามาก และความร้อนน้อยมาก เอาไว้ในแร๊คที่ไม่ต้องมีพัดลมหรือแอร์ก็อยู่ได้สบายๆครับ
4. IOTAVX AVX17 มีตัวแทนไทย มีประกันไทย ที่ผมพบว่า มีหลังการขายที่ดีที่สุดเจ้านึง base on ที่ผมเคยเห็นลูกค้าผมที่ใช้ของของเขา แล้วเสีย แล้วเขาวิ่งมาดูแล service แม้จะหมดประกันไปแล้ว ในราคาเท่านี้ สเปก 16 ch มีตัวแทน มีศูนย์บริการ ผมว่าอุ่นใจกว่าเล่น pre จีนที่ไม่มีประกันเยอะ
---------------------

IOTAVX AVX17 เหมาะกับใคร?????
ส่วนตัวคิดว่า IOTAVX AVX17 นั้นเหมาะกับคนที่คำนึงถึง budget และความคุ้มค่ามากกว่า แบรนดิ้ง ไม่ต้องการอวดใคร เพราะอวดไปน้อยคนจะรู้จัก เน้นราคาไม่แพง แต่อัดฟังชั่นมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน และต้องการ spec แบบ 16 ch ในราคาต่ำกว่าแสน (ถ้าลดแล้ว) หรือพูดง่ายๆคือต้องการ pre ใช้งาน เน้นดูหนัง ไม่เน้นหน้าตา ความหรูหรา ไม่เน้น cosmetic ไม่ต้องอวดเครื่อง เพราะไม่ค่อยมีอะไรให้อวด เน้นดูหนัง เข้านอน หาหนังดู ฟังเพลงบ้าง ใช้ง่าย ไม่ค่อยจุกจิก เช้าไปทำงาน เย็นกลับมาเปิดดูสักแปป เรื่องสองเรื่อง แล้วเสาร์อาทิตย์ยิงยาวๆ ดูหนัง ฟังเพลง หมกตัวในห้อง นั่งดูหนัง เล่นเกม แบบไม่เน้นอวดใคร เน้นคุ้มตัง ตังเหลือไปใช้อย่างอื่น
แต่เซ็ทดีๆ ด้วยราคาเท่านี้ ผมคิดว่าเป็นซิสเต็มที่ในเรื่องการดูหนังนั้น หาตัวจับยาก เพราะในงบแสนนึง ปัจจุบันแทบจะไม่มี pre ตัวไหนที่ให้และทำได้ขนาดนี้
เพราะ marantz ปัจจุบันก็เริ่มต้นที่ av20 เริ่มที่ 199,000 หรือ emoitiva mc1 ก็ไม่รองรับ balance xlr และรองรับแค่ 13 ch
ถ้าจะกระโดดไปปรีตัวอื่นในราคา 1-2 แสนที่นิยมๆกัน แน่นอนว่ามันดีกว่า แต่ถ้าซัดกันเรื่องเสียงอย่างเดียวก็ไม่กล้าพูดว่าจะชนะขาด คือถ้าของพอๆกัน power amp ดีพอกัน ลำโพงอย่างอื่นไม่ถูกกั๊ก และเท่าเทียมกัน กล้าพูดว่า IOTAVX AVX17 หาคนเปรียบมันยาก เพราะเปรียบกับมัน ถึงชนะก็ไม่ภูมิใจหรอก เพราะราคามันไม่แพง แต่ถ้าแพ้ หรือใกล้เคียงก็เสียหน้า
จึงได้พูดว่า IOTAVX AVX17 เป็นซิสเต็มของคนที่เน้นเอามาดูหนัง ไม่เน้นอวด ไม่เน้น cosmetic อาจะไม่ครบถ้วน แต่มันคุ้มตังไหม ณ ปี 2025 นี้
ก็ต้องบอกว่า ในงบแสนนึง หาปรีเสียงเท่ามันได้นะครับ แต่ราคาจ่ายแพงกว่า หรือจ่ายพอกันก็ต้องโดน nerve อย่างอื่นออกไปเช่น ไม่มี xlr หรือมี xlr ก็บั๊กเยอะ ไๆม่มีตัวแทน ไม่มีประกัน และก็ได้แค่ 13 ch

































