ช่วงนี้ใครเล่นเครื่องเสียงมานาน น่าจะแฮปปี้กันนะครับ เพราะเป็นช่วงที่ AVR รุ่นใหม่ๆ ดาหน้ากันออกมาวางตลาดให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว เพราะเป็นช่วงที่เปลี่ยนถ่ายระบบเสียงด้วย และก็ถึงเวลาเปลี่ยนรุ่นของแต่ละยี่ห้อเองด้วย ตั้งแต่ Yamaha Aventage 3050, Marantz 7010, Onkyo RX900, Denon X7200
ซึ่ง AVR ตัวท๊อปแบบนี้ถามว่าดีมั๊ย ดีแน่นอนครับ ฟังก์ชั่นครบๆเลย มาในตัวถังเดียว ง่าย สบาย ประหยัดเนื้อที่ ประหยัดปลั๊กไฟ แต่พอหันมามองราคา โอ้โห 6-7 หมื่นไปจนถึงแสนแล้ว
นักเล่นหน้าเก่าบางท่านที่เล่น AVR มานานแล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า จ่ายเงินตั้งเกือบแสน ตาม AVR รุ่นใหม่ๆไปเรื่อยๆแบบนี้ แล้วสิ่งที่จะได้ละ มันได้อะไรคุ้มค่ากับเงินที่จะลงทุนไปหรือเปล่า? เสียงมันดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เทคโนโลยีใหม่ๆได้ใช้บ้างมั๊ย
อย่ากระนั้นเลย คนขายบางท่าน หรือนักเล่นมือเก๋าๆก็กระซิบมาว่า เฮ้ย จ่ายตั้งเกือบแสน เพิ่มเงินอีกสักหน่อย เล่น Power, Pre/Pro ไปเลย นั่นแนะได้ยินคำว่า Pre/Pro ก็หูผึ่งกันแล้วใช่มั๊ยครับ เพราะมันดูเทพ ดูโปร ดูก้าวกระโดดกันไปอีกสเตปนึงแล้ว คล้ายๆ จากเปิดร้านขายของธรรมดา จะกลายเป็นมีเฟรนไชน จากมีเฟรนไชนจะส่งออกไปต่างประเทศ ฮาๆ
ทีนี้เคยถามตัวเองมั๊ยว่า ต้องการอะไร แล้วจะได้อะไรระหว่าง AVR ตัวท๊อปๆกับ Pre/Pro บางคนอย่างเช่นผมเองมี Power ใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ใช้ภาคปรีของ AVR เรียกว่าใช้ AVR มันให้คุ้มทั้งใช้ขับลำโพง Surround ใช้ทั้งเป็นภาคปรีให้กับ power แล้วถ้าเปลี่ยนไปเล่นปรีโปรละแค่ 5 หมื่นหรือแสนต้นๆก็เล่นได้แล้ว เฮ้ย แล้วแบบนี้จะเล่น AVR ไปทำไม ราคาก็ไม่ได้ทิ้งกันเลย ลังเลแล้วละสิ เอาแล้วไง เอาแล้วไง
----------------------------------------------------------------------------------------
ใครที่มีคำถามเหมือนผม วันนี้ผมเอาบทความนี้มาฝากครับ Credit เขียนโดยคุณ Schwin ใน Thaidvd.net
----------------------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้กระแส..Up เพิ่ม PowerAmp กำลังเป็นที่สนใจ...
เลยอยากจะบอกกล่าวคุยก่อนกันซะหน่อย..เป็นที่ทราบๆกันว่าเมื่อก่อนผมใช้ Pioneer Lx 83 อยู่ขับลำโพงคู่ชีพลำโพงลายๆนั้นแหละ..จิงๆถ้าดูหนังสำหรับห้องขนาดประมาณ 3x4.5 m ของผมมันก็พอเพียงได้เสียงที่ต้องการ
คราว นี้เกิดอาการคัน...เคยฟังเพลงมาก่อนก็เลยอยากกลับมาฟังเพลงเหมือนเดิมบ้าง. ทั้งๆที่รู้ว่ากำลังขับใน AVR นั้นมันแค่พอฟังเพลงได้เท่านั้นเพราะเจ้าลำโพงผมนั้นถึงมันจะตัวไม่ใหญ่แต่ มันรับประทานวัตต์เอาเรื่อง.เลยดิ้นรนประกอบ AMP DIY..มาขับคู่หน้า...คราวนี้เสียงฟังเพลงถูกใจละ
ก็เลยจัดแจงประกอบ MONO มาขับ Center คราวนี้ได้เสียงพูดตัวละคอนที่ใหญ่ขึ้น...แจ๋ววะ
โดยใช้กำลังขับใน AVR ขับเฉพาะ ลำโพงหลังเท่านั้น
ที่นี่ AMP เต็มเลย...คันอีก...จะใช้ AVR ทำไมฟะ....เปลี่ยนเป็น Pre/pro ดีฟ่า
จัดการซะ...ได้ 5509 มา....คราวลองเซ็ทลองฟัง...ก็อย่างที่เคยเหลาให้ฟังไปแล้ว...ว่าก็ยังไม่ค่อยถูกใจนัก
เพราะไรหว่า...มีบางเสียงที่มันดีกว่าเดิม...แต่บางอย่างก็สู้ไม่ได้...แสดงว่า..การใช้ AVR รุ่นใหญ่ใช้เป็น Pre
มันก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไหร่นิสำหรับดูหนัง....เป็นเพราะไร...ใครรู้บ้าง....
ความ แม็ทชิ่งกันครับ...คือเสียงของ 5509 มันไม่ค่อยลงตัวกับ...ลำโพงตัวที่ผมใช้อยู่(ทั้งๆที่รู้แต่คันอยากเป็นเทพๆ เล่นปรี..กะเค้าบ้าง...555)...ก็เลยต้องแก้ไขกับยกใหญ่..ทั้งสายไฟ...สาย สัญญาณ...สายลำโพง
เอาไปช่วยมันหน่อย...ก็ค่อยยังชั่ว...พอได้..พอได้
ที่ เล่ามาซะยาวจะบอกว่า...ก่อนที่จะ UP หรือเพิ่มอะไรเข้าไปในระบบ...ควรจะพินิจพิจรณาให้ดีๆว่าระบบเราด้อยด้านไหน ก่อนที่จะทำการเพิ่มเติมเสริมแต่งอะไรเข้าไป...ผมมีข้อแนะนำดังนี้
-ดูก่อนเราชอบฟังเพลงมากไหม..ขนาดไหน..ซีเรียสมากเปล่า...ถ้าไม่ฉันดูหนังอย่างเดียว..
ถ้าใช้ AVR รุ่นกลาง..ค่อนข้างมาทางสูงหรือรุ่น Topๆ ..แล้วลำโพงไม่ใช่พวกดอกเยอะๆขับยาก..ตัวสูงเท่าหัว
ผมว่าไม่ต้องเพิ่ม Power Amp หรอกครับ...มันไม่ได้ต่างกันสุดขั้วขนาดนั้นเวลาดูหนัง...ที่เห็นผลสุดๆของการเพิ่ม power คู่หน้าคือการฟังเพลง 2 Chครับ
- ถ้าลำโพงของท่านโคตระรับประทานวัตต์....(ส่วนมากเป็นลำโพง Hiend..ทั้งหลาย)..ไม่ต้องคิดเพิ่มเลยเพราะ AVR มันขับไม่ออกแน่ๆ.....
- ห้องที่ชุดเครื่องเสียงฟังอยู่ที่ไหน...เป็นห้อง..ที่เป็นสัดส่วน..อันนี้ เล่นเล่นไปซักพัก..อยากUp เพิ่มเติมไรก็เห็นหน้าเห็นหลังได้....แต่พวกวางในห้องรับแขกเปิดโล่ง..ไม่ เป็นสัดส่วน...เปิดเสียงดังไม่ได้รบกวน..คนในบ้าน..นอกบ้าน...อันนี้ต้องถาม ตัวเองว่าคุ้มไหม..กับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มไป..เพราะเราเพิ่มเข้าไปมันดี ขึ้นแต่มันไม่ให้ผลที่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก
- พวกที่ใช้ AVR รุ่น..เล็กๆหรือรุ่นเก่าที่มี pre out ต่อ Amp เพิ่มได้..แล้วเล่นลำโพงที่ไม่กินวัตต์มากนักแล้ว ชอบเสียงของลำโพงนั้นแนวนั้นแล้วแนะนำว่าอยากให้เปลี่ยน AVR เป็น รุ่นใหญ่น่าจะตอบโจทย์มากกว่าเพราะสะดวกเสียงทำเสียงดีได้ไม่ยาก...เพราะการ เพิ่ม power Amp...มันจะจุดประกายทำให้งบเราบานไปเรื่อยตามตัวอย่างข้างต้นไป...เพิ่ม Amp 1 ตัว....เอาเพิ่มมาขับเซ็นเตอร์อีกตัว....เอา...มาขับลำโพงหลังด้วยดี กว่า...เอา...เปลี่ยนปรี....คราวๆ....ไปๆมาๆรวมพวกสายมีสองแสนกว่านะ ครับ....แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา
ตามสบายเลยพี่....
- และเหตุผลสำคัญของการเพิ่ม Power Amp คือไรละ...ตัวเราไงดันเลือกลำโพงกินวัตต์เองไง
ก็ที่เคยบอกกล่าวให้ฟังแล้วว่า..ถ้าเราเลือกลำโพงที่ขับยากเท่าไรมันก็ต้องใช้ Amp กำลังสูงขับเท่านั้น
ดังนั้น..ไม่ควรเลือกลำโพงที่มันใหญ่โต..หรือรับประทานวัตต์มาก.....เอาแต่พอที่เราจะจ่ายค่า AVR เพื่อขับ
ได้เราก็จะไม่ลำบากถึงขนาดนี้..555
. ..การที่เราใช้ AVR ยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่เถอะ...แล้วเราหา power Amp เพิ่มเสริมเข้าไป..
.ขับคู่หน้าหรือ Center ...แน่นอนถามว่าเสียงดีขึ้นไหม....ดีขึ้นแน่นอน..รายละเอียดดีขึ้น
เบส ดีขึ้น..การแยกแยะดีขึ้น.....การเปลี่ยน AVR ไปใช้ Pre/pro ดีไหม...ดีซิไม่ดีได้ไง....แต่สำหรับผมถ้าใครใช้ AVR รุ่นใหญ่ๆก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ Pre ลองตัดสินใจดูก่อนนะครับ ถ้าจะเปลี่ยนทั้งที่ควรจะข้าม Pre
ระดับไม่ถึงแสนไปเลย(ควรเล่นพวกเทพๆ ไปเลยถึงเห็นความแตกต่างที่คุ้มค่าไหนๆต้องลงทุนกะ Power Ampอยู๋แล้ว)...เพราะเสียงที่ได้มันไม่ทิ้งห่างจาก AVR ตัว Top.เท่าไหร่นัก...แล้วการที่เปลี่ยนบุคคลิกของเสียงมันจะเปลี่ยนไปด้วยแต่ มันจะเข้ากะของเก่าหรือแม็ทชิ่งกับของที่เรามีอยู่หรือไม่..ถ้าแก้ไขได้ถูก หลักก็ดีไป..ถ้าแก้ไม่ถูกหลงทางละยุ่ง..สำหรับบางคนเสียงที่ได้ใหม่อาจจะ คุ้ม...แต่บางคนอาจจะไม่ถูกใจ...เล่นเอาแต่พอเพียงกัน...
คิดถึงปัจจัย หลายด้านดู...ตอนนี้กว่าผมจะดูหนังได้ผมต้องเปิดสวิทซ์ประมาณเกือบสิบ เครื่อง....แต่เราเลือกมาทางนี้แล้วก็ต้องเล่นไป...เสียงที่ได้ดีกว่าเดิม เเน่...แต่มันใช้เราสะเหนื่อยเลยกว่าเราจะมีความสุขกะมัน...เหมื่อนอะไรหว่า
สรุป....เราเล่นเครื่องเสียงให้สนุกหรือจะให้เครื่องเสียงมันใช้งานเรา
----------------------------------------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวผม
อ่านแล้วจะได้คำตอบยังไง เล่น Pre/Pro หรือไม่เล่น ก็แล้วแต่วิจารณญาณและกำลังเงินในกระเป๋าครับ ท่านอาจจะคิดไม่เหมือนผม หรือได้คำตอบคนละแบบ ของแบบนี้ไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับความพอใจล้วนๆ ถ้าท่านพอใจ ท่านหยุด ก็เป็นผลดีกับกระเป๋าตังท่านเอง แต่ถ้าท่านอัพต่อ ซิสเต็มท่านก็อาจจะเสียงดีมากกว่านี้ขึ้นไปอีก ก็เป็นผลดีกับตัวท่าน ความสุขในตัวท่านเองในภายภาคหน้า
ความเห็นส่วนตัวผม Pre/Pro ตัวราคากลางๆไม่ถึงแสนหรือบางยี่ห้อ (ขอไม่เอ่ยชื่อ) เล่นแล้ว ให้เสียงทิ้ง AVR รุ่นท๊อปๆบางรุ่นไปไม่ไกลนักหรือเผลอๆแพ้ AVR (เอาเฉพาะภาคปรีนะ) และก็ต้องดูด้วยว่าลำโพงเรามันตัวใหญ่แค่ไหน ขับยากมั๊ย ถ้าตัวเล็กๆดอก 4-6 นิ้ว ขับไม่ยากมาก บางที AVR ก็เอาอยู่แล้ว แบบนี้อัพไป Power, Pre/Pro ก็ได้อะไรมาไม่เยอะเท่ากับที่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะยังไงเล่น power + Pre'Pro อย่างต่ำๆก็ต้องมีแสนอัพแน่นอน
ต้องถามตัวเองว่าคุ้มมั๊ยที่จะอัพ ถ้าจะอัพเล่น Pre เทพๆไปเลยดีกว่ามั๊ย ถ้าจะเล่น Pre/Pro ต้อง ดูเรื่องการ matching ว่าเข้ากับซิสเต็มเรามั๊ย ลำโพงเรา power เราเสียงมันไปยังไง ถ้าเลือก Pre/Pro ที่เสียงมันไม่เข้ากับระบบและความชอบเราแล้ว ผมบอกได้เลยว่า ยาวววววววววววววครับ ตามแก้กันไม่รู้จบ เผลอๆต้องแก้ทั้งเส้นสาย ปลั๊ก ลำโพง แอมป์เพื่อมาแม๊ทให้เสียงกลับมาได้เสียงแบบที่ชอบเพียงเพราะเลือก Pre/Pro ผิดก็มีเหมือนกัน
----------------------------------------------------------------------------------
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |