เพราะบทเพลงดีๆ ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกาลเวลา
เช่นเดียวกับลำโพงรุ่นเก่าที่ยังทรงคุณค่า แม้กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปซักกี่เดือนกี่ปี แต่คุณค่าในตัวมันก็ยังคงเฉิดฉายและมิได้ถูกลดทอนคุณค่าไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด
และนี่คือ Klipsch Reference RF-62
ใช่แล้วครับ ผมไม่ได้ลืมเติม II หรือเลข 2 ในรูปแบบโรมันแต่อย่างใด นี่คือลำโพง Klipsch RF-62 รุ่นแรกที่เลิกผลิตไปแล้วและหาซื้อไม่ได้ในบ้านเรา นอกซะจากตลาดมือสองที่นานๆจะมีหลุดออกมาซะที และนี่คือลำโพง RF-62 อีกตัวที่ลูกค้าผมท่านหนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี ฝากให้ช่วยหาคนรับไปอุปการะต่อให้ที
ผมเห้นว่าลำโพงตัวนี้สภาพดี และมีคุณค่าในตัวเอง (ตรงที่หาซื้อไม่ได้แล้ว และเสียงรุ่นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างไปจากรุ่น II พอสมควร) ผมจึงอาสารับช่วยเป็นธุระหาคนซื้อให้ และในที่สุดก็ได้ผู้ซื้อท่านนึงรับมาดูแลต่อ
ผมจึงนัดแนะเวลากับลูกค้า และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกค้าผมขึ้นมาส่งลำโพงตัวนี้ถึงกรุงเทพ ผมจึงขออนุญาติตามไปทักทายและเก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันเล่นๆครับ
จะเห็นว่าลำโพง Klispch Reference รุ่นแรก และ Reference II นั้นมีดูเผินๆก็คล้ายๆกัน ดูแทบไม่ออกว่าตัวไหนคือรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า
จริงๆมีหลายจุดนะครับที่แตกต่าง แต่จุดใหญ่ๆก็คือ ฐานลำโพงและโลโก้ Klipsch ที่ด้านล่างฐานลำโพงครับ (ตัวรุ่นสองจะไม่มี)
ลำโพงรุ่น Reference นี้ปัจจุบัน discontinued ไปนานแล้ว โดยเริ่มผลิต และทำตลาดตั้งแต่ปี 2006 - 2010 หลังจากนั้น Reference II ก็มาทำตลาดแทนตั้งแต่ 2010 มาจนถึงปัจจุบัน (Reference II Discontinued แล้วเช่นกันในปี 2015) นับรวมระยะเวลาทำตลาดในแต่ละรุ่นแต่ละ gen ประมาณ 5-6 ปี (อายุพอๆกับรุ่นรถยนตร์เลย)
นอกจากรูปร่างหน้าตาของรุ่น Reference กับ Reference II นั้นจะคล้ายๆกันแล้ว (ดูเผินๆ) ขนาด Diemension ของทั้งสองตัวยังเกือบจะเท่ากันเลยด้วย แต่ถ้าเรามาดูเนื้อใน จะพบว่าสเปกข้างในนั้นแตกต่างกันพอสมควร (เราเอาตัว RF62 มาเทียบกับ Rf-62 II) โดยเริ่มจาก
1. น้ำหนัก ตัว RF-62 จะหนักกว่าร่วม 2 กิโลกรัม (RF-62: 24.5 kg, RF-62 II: 22.3 kg)
2. Crossover นั้นตัว RF-62 เก่าจะตัดความถี่ที่ 1800 Hz ส่วนตัว RF-62 II จะตัดที่ 1500 Hz ตัวเก่าตัดความถี่สูงกว่า หมายความว่าความถี่ตั้งแต่ 1800 Hz ลงมาจะทำงานที่ดอกวูฟเฟอร์ทั้งสองดอก ส่วน RF-62 II ความถี่ตั้งแต่ 1500 Hz จะทำงานที่ดอกวูฟเฟอร์ทั้งสองดอก และ 1500 Hz ขึ้นไปทวีตเตอร์จะทำงานแทน ซึ่งดูตามสเปก เหมือนกับว่าเสียง Reference II น่าจะสดจัด แหลมกระด้างมากกว่า เพราะทวีตเตอร์ไทเทนียมทำงานตั้งแต่ความถี่ที่ต่ำกว่า ซึ่งจากการลองต่อทดลองฟัง RF-62 ก็ให้เสียงนุ่มนวลและไม่ได้แข๊งกระด้างแต่อย่างใด (แต่วันนั้นเราไม่ได้เอา RF-62 II เทียบด้วยห้องฟังเดียวกัน แอมป์เดียวกันเลยยังสรุปอะไรแน่นอนไม่ได้)
3. การตอบสนองความถี่ ตัวเก่าจะลงลึกได้น้อยกว่านั่นคือ RF-62 :38Hz - 23KHz ส่วน RF-62 II: 35Hz - 24 KHz ก็จะเห็นว่ารุ่นสองรองรับความถี่ต่ำได้ดีกว่า ความถี่สูงได้สูงกว่า (ทั่วๆไปหูมนุษย์ได้ยินความถี่สูงได้ไม่เกิืน 20 KHz) แต่นั่นเป็นเพียงตัวเลขในกระดาษนะครับ เวลาเราดูสเปกเครื่องเสียงต้องดูของจริงด้วยว่าตัวเลขที่ตอบสนองได้ทุกย่านสูงถึงต่ำแบบเทพๆนั้น มันเสียงดีน่าฟังในทุกๆย่านหรือเปล่า
สุดท้ายเราเก็บรูปมุมสวยๆ และหน้าตาลำโพงมาฝากกันด้วยนะครับ งานนี้บังเอิญที่ห้องของลูกค้าที่เราไปส่งนั้นบรรยากาศฉากหลังค่อนข้างวินเท จนิดๆ ผนังไม้ด้านหลังถ่ายรุปออกมาแล้ว สวยเข้ากับลำโพง และสีดอกลำโพงพอดิบพอดี
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |