Zidoo UHD3000 - Review
4 ปีที่ผ่านมา
Zidoo UHD3000
เครื่อง Media player ตัวนี้ที่อาจจะพกพาความหวังของนักเล่นไฟล์ที่คาดหวังฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ up to date ที่สุดในวันนี้ และก็อาจจะเป็นทั้งเครื่องที่นักเล่นบางกลุ่มพากันเบือนหน้าหนี และก็อาจเป็นเครื่องเล่นที่คนอีกบางกลุ่มชื่นชอบ และก็อาจจะเป็นเครื่องเล่นที่บางคนคาดหวังว่ามันจะเป็น All In One Media box ที่รองรับทั้งการเล่นไฟล์และ Streaming ได้ดีพอ
แต่ไม่ว่า UHD3000 จะเป็นเครื่องแบบไหนก็อยู่ที่คนใช้ตัดสินใจ เพราะความชอบคนเราไม่เหมือนกัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถชม Review แบบ clip vdo ได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=eVmJ4fqRx54&t=6s
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
Specification
สเปกของ UHD3000 ตัวใหม่มีสิ่งที่แตกต่างจากตัวเดิม ก็จะมีหลักๆดังนี้ครับ
CPU Realtek RTD1619DR ARM Cortex-A55 (hexa-core) ทำงาน 6 core มาแทนเบอร์เก่าที่เป็น quad-core ทำงาน 4 core ให้ความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และ firmware ตัวใหม่ของทาง zidoo จะพัฒนาให้เข้ากันกับ CPU ตัวใหม่นี้
DAC ESS9068 มาแทนเบอร์เดิมที่ใช้ ESS9038 ด้วยพลังของ DAC เบอร์ใหม่นี้ทำให้ spec ของเสียงอัพเกรดขึ้นไปพอสมควร โดยเฉพาะค่า Signal to noise ratio ที่เพิ่มจากเดิม 120 เป็น 128 dBrA (ช่วยเรื่องความสงัดและรายละเอียดเสียง) และให้ Dynamic Range สูงกว่าเดิมจาก 122 มาเป็น 125 dB
และก็ยังให้ noise ที่ลดลงจากเดิม 0.0003% มาเป็น 0.00026 (THD+N)
USB ที่ให้มาจะให้มาทั้งหมด 6 ช่อง แบ่งเป็น
- Internal (3.5") 2 ช่องด้านหน้า (เหมือนรุ่นที่แล้ว)
- External USB 4 ช่อง แบ่งเป็น usb2.0 x 2 ช่องหน้า และ usb3.0 x 2 ช่องด้านหลัง เพิ่มจากเดิม 1 ช่อง
USB Audio Input ให้มาเพิ่มจากเดิมตัว UHD2000 ไม่มี ตัวนี้สามารถนำมาต่อใช้กับ USB จากคอมหรือโน๊ตบุ๊กเพื่อเล่น Roon, Tidal, Spotify ได้โดยไม่ต้องต่อเข้าวง Network ครับ
การระบายความร้อนของตัว Zidoo UHD3000 มีการตัดพัดลมที่อยู่ในดีไซน์ตัวเดิมออกไปนะครับ รุ่นใหม่จะไม่มีพัดลมติดมาให้เห็นแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงพัดลมอยู่ เข้าใจว่าผู้ผลิตย้ายตำแหน่งพัดลมไปไว้ที่อื่นที่มองไม่เห็นแทน
New Featuress
ในตัว UHD3000 นี้มี Features ใหม่ๆที่สร้างความฮือฮาให้นักเล่นอยู่หลายตัวด้วยกัน ผมจะสรุปคร่าวๆได้ดังนี้ครับ
1. Roon ready : ที่ทาง Zidoo แจ้งไว้ว่ารองรับ Roon end-point ได้เลย หลังจากลองต่อดูพบว่า Zidoo uhd3000 ยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่ Roon certified ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่ Roon ผ่านทาง network ได้ ซึ่งทาง roon เคยออกมาแจ้งไว้สักพักแล้วว่าจะไม่อนุญาติให้อุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ certified มาเชื่อมต่อกับ roon อีก แต่กรณีอุปกรณ์เก่าๆที่เคยเชื่อมไว้แล้วก็ยังใช้งานได้ต่อไป (แต่อย่าปล่อยให้หลุด) ดังนั้นฟังชั่นนี้ถือว่า Zidoo UHD3000 ยังไม่สามารถใช้งานได้ครับ (กับ Roon version ล่าสุด)
2. Streaming : เสียง dolby atmos ผ่าน Netflix ณ วันที่เราลอง (วันที่ 9/01/2021) เข้าไปทดสอบ Netflix พบว่ามีเสียงออกมาเป็น Dolby digital + 5.1 และบางเรื่องก็แสดงเป็น doly atmos บนหน้าจอ netflix ได้แล้ว (ไม่ได้ส่งออกมาเป็น pcm เหมือนตัวเก่า) แต่เมื่อเข้าไปดูหนัง จะพบ error ทำให้เล่นหนังไม่ได้ (ทุกเรื่อง)
พบว่าตอนนี้ firmware ปัจจุบัน (ตัว beta) ของ Zidoo มีปัญหาอยู่ ทำให้ดู netflix ดูไม่ได้เลย และต้องรอ firmware ของทาง Zidoo ตัวใหม่ออกมาแก้ bug ตัวนี้ครับ
ปล. ปัญหานี้เป็นกับ Zidoo ทุกรุ่นทุก model ที่ใช้ cpu Realtek RTD1619
3. DSD, MQA : Dac ตัวใหม่ล่าสุด ESS9068 รองรับการถอดรหัส DSD และ MQA
4. Dolby Vision, HDR10+ : UHD3000 ตัวใหม่จะรองรับ Dolby vision, HDR10+ ด้วย ทำให้การแสดงผลของภาพดีและคลอบคลุมการใช้งานในการรับชมภาพยนตร์ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม
ความเร็วในการใช้งาน
การใช้งานผ่าน ui อยู่ในระดับที่ดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นประเภท Media player เร็วและสมูธ ลื่นไหล และการกดเข้าหนังถือว่าทำได้เร็ว ไม่ต้องกดแล้วรอนาน
รีโมท
สัญญาณรีโมทถือว่าทั่วถึงและใช้งานได้ดีกว่าเครื่องประเภทเดียวกัน ใช้งานง่าย รีโมทมีไฟ backlid เรืองแสง ใช้รีโมทตัวเดียวกับโมเดลก่อน UHD2000 ทุกประการ ใช้แทนกันได้ แต่มีข้อเสียที่รีโมทเป็นพลาสติกดูบอบบางไปหน่อย และรีโมทค่อนข้างกินแบตมาก ใส่ถ่าน 3 ก้อนใหม่ๆอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน backlid ก็จะค่อยๆหายไป แต่ยังใช้งานได้ต่ออยู่ เข้าใจว่าตัวที่กินไฟก็คือ backlid ที่ปุ่มต่างๆนั่นแหละ
การจับสัญญาณไวไฟ
สัญญาณไวไฟใช้แบบ dual band 2.4 , 5 GHz สามารถจับสัญญาณได้ดี แม้ไว้ในห้องและชั้นวางที่อับสัญญาณ
Poster wall
การทำปกง่าย มาตรฐาน ไม่มีอะไรยุ่งยาก ปกดูสวยงาม เร็วและใช้งานง่ายมาก แต่ค่อนข้างมีปัญหากับพวกไฟล์ตัดที่แยกใส่รวมๆในโฟลเดอร์ไว้ ทำให้ลำบากในการแยกแยะว่าไฟล์อยู่ตรงไหนบ้าง และไฟล์ไหนเป็นหนังเต็ม ไฟล์หนังเป็นไฟล์หนังตัด (น่าจะเป็นกับทุกยี่ห้อ)
Application
การใช้งานลงโปรแกรมต่างๆ ทำได้ตามมาตรฐานของ Android โดยการลง apk หรือ search หาใน playstore สามารถเลือกลงได้ง่ายผ่าน usb และเลือกไฟล์ขึ้นมา install ได้โดยตรง ไม่ยุ่งยากต้องลงผ่านโปรแกรมใดๆ มีข้อสังเกตว่าการใช้งาน app ต่างๆที่เป็นพวก streaming เช่น youtube, netflix ดูจะใช้งานได้สมูธและสวยงามขึ้นกว่า UHD2000 โดยเฉพาะ Youtube ที่บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า การแยกความแตกต่างของการดู youtube บน media player และ streaming อย่าง nvidia มันชิดเข้ามาใกล้กันอีกนิดนึงแล้ว ก็จะต่างกันก็แค่ความง่ายของรีโมทที่ไม่ว่ายังไง nvidia ก็ยังตอบโจทย์และลื่นในการใช้งานมากกว่า
มีข้อสังเกตว่าภาพที่ได้จาก Youtube ดูชัดและกระจ่างตามากกว่าาตัวเดิมเยอะ
แนวเสียงจากเล่นไฟล์
แนวเสียงยังคงสไตล์ UHD2000 นั่นคือให้ tonal balance ที่มีทั้งเบส กลาง แหลม จุดเด่นในตัวเก่ายังคงมาครบถ้วน นั่นคือไดนามิคและแรงกระแทก หากใครที่ชื่นชอบเครื่องเล่นที่เน้นเสียงในแนวดูหนัง แรงปะทะ หนักแน่น โครมคราม ตัวนี้น่าจะถูกใจ กลางแหลมให้รายละเอียดดีขึ้นกว่า UHD2000 นิดหน่อย น่าจะเป็นผลพลอยได้จาก DAC เบอร์ใหม่ที่มี s/n ratio ดีขึ้น และ noise ที่ต่ำลง ในส่วนของรายละเอียดจัดว่าทำได้ดี แม้จะไม่ระยิบระยับหรือพริ้วเอาใจนักเล่นที่ชื่นชอบเสียงสไตล์เน้นรายละเอียด หรือแนวฟังเพลง แต่ก็ได้สิ่งน้ำเสียงที่มีเนื้อและไม่บาง ไม่แห้งจากการที่บู๊ทและขุดรายละเอียดจนเบสหาย จึงเหนือกว่าในแง่ของเบส และแรงปะทะมาเสริมทำให้เหมาะกับการดูหนัง โดยรวมแนวเสียงยังคงสไตล์เดิมไม่เปลี่ยนไปมากนัก
แนวเสียงจากการเล่น streaming
เนื่องจากวันที่ทดสอบนั้น netflix ยังไม่สามารถใช้งานได้บน firmware ตัวล่าสุด เราจึงได้ทดสอบเล่นแค่ youtube ซึ่งในด้านภาพนั้นต้องขอบอกว่าประทับใจในความชัดของการเล่น youtube บนตัว UHD3000 พอสมควร แต่ในด้านเสียงนั้นพบว่าเสียงต้องเร่ง volume ขึ้นไปเยอะพอสมควร จากเดิมที่เปิด -20 ถึง -23 แต่เสียงที่ได้จาก netflix ต้องเปิดถึง -13 ถึง -16 ทีเดียว
ข้อดี
1. เป็นเครื่องเล่นเครื่องเดียวตอนนี้ที่พกเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและ up to date ณ วันที่ได้ลองรีวิวแล้ว นั่นคือ รองรับ Streaming dolby atmos, รองรับ roon ready (แม้จะยังทำไม่ได้จริงก็ตาม) , รองรับ MQA, รองรับ dolby vision นับวันเครื่องเล่น media player ก็จะยิ่งเข้าใกล้ความเป็น universal media player เข้าไปทุกวัน นั่นคือทำได้ทุกอย่างทั้งดูหนังฟังเพลง streaming ในคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และราคาต่ำลง (ราคาตัว UHD3000 ราคาเท่าเดิม มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ดีขึ้น)
2. การใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และรวดเร็ว ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ออนไลน์มา มันทำให้ใจคนต้องการอะไรที่เร็วขึ้น ด่วนขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ยุคสมัยเดิมๆที่เราค่อยๆออกไปซื้อแผ่น เอามาจัดเรียง อยากดูเรื่องไหนก็เดินไปใส่แผ่น โหลด นั่งดู เอาแผ่นออก หรือเครื่องเล่นที่กดเมนูแต่ละทีต้องรอ 2-3 วินาที ถึงจะเปิดหน้าใหม่ ถึงจะเข้าหนัง บางทีกดไม่ติดต้องกดย้ำๆ บางทีรีโมทสัญญาณไปไม่ถึง ต้องต่อสายสัญญาณออกมา
ยุคสมัยเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนไปด้วย ถ้าคำตอบของชีวิตคือเครื่องเล่นสักเครื่องที่ง่าย และสะดวก คำตอบคือตัวนี้ตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุดในปัจจุบันแล้ว
ข้อเสีย
1. สเปกที่ทาง Zidoo เคลมไว้ทำไมได้จริง และถึงทำได้ก็ลุ่มๆดอนๆ มีบั๊ก และต้องให้เวลาทาง Zidoo เรียนรู้และแก๊บั๊กอีกสักระยะนึง เช่น Roon ready ที่ทาง roonlabs ไม่ยอมให้เชื่อมต่อเพราะตัว UHD3000 ยังไม่ certified และ Netflix ที่มีปัญหากับ firmware ปัจจุบันทำให้ไม่สามารถเล่นหนังได้
2. รีโมท backlid ของ Zidoo UHD2000, UHD3000 แชร์ใช้รุ่นเดียวกัน และเป็นรุ่นที่รับประทานแบตสุดๆ ใช้ถ่านไฟฉาย AA 3 ก้อน ใช้งานบ่อยๆ ใส่ไปไม่ถึงเดือนไฟก็จางหมดแล้ว ถ้าใช้ไม่บ่อยอยู๋ได้ 2-3 เดือนนี่คือปกติ แล้วไฟจะค่อยๆหายไป แต่ยังกดใช้งานได้อยู่ จนกว่าคุณจะเปลี่ยนแบตใหม่
เหมาะกับใคร
UHD3000 เหมาะกับนักเล่นที่ต้องการเครื่องเล่น media player ประเภทไฟล์ เน้นดูหนัง และมีความต้องการฟังชั่นอื่นๆเช่น Netflix, app ต่างๆ ในระดับที่เน้นหนักไปทางดูหนังผ่านไฟล์
แนวเสียง UHD3000 มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ส่วนตัวที่ทดสอบถือว่าเสียงดีอยู่ในระดับต้นๆ และให้โทนัลบาล้านที่ดีมาก ให้แรงปะทะ เบสดี แรงกระแทก แนวของ Zidoo อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแนวดูหนัง เน้นโครมครามที่แท้จริง เหมาะสำหรับคนรักเบส รักดูหนังแอคชั่น
หาจะเน้นแนวรายละเอียดใสๆ เบสน้อยบางๆ ก็จะมีตัวอื่นที่เป็นทางเลือก แต่ส่วนตัวคิดว่า UHD3000 ครบเครื่องกว่า หรือหากจะเน้น streaming netflix อย่างเดียวเลย ก็จะมีตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่ามาก เช่นเครื่อง streaming อย่าง apple tv, nvidia shield pro ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ คงไม่มี media player เล่นไฟล์ตัวไหนที่ครบเครื่องและอัดแน่นไปด้วย function ต่างๆที่ครบครันแบบนี้อีกแล้ว และเมื่อรวมกับจุดเด่นของราคาขายที่ไม่สูงเกินไป และการใช้งานที่ง่ายและสะดวก ก็น่าจะเป็นอีกเครื่องที่น่าใช้และขายดีอย่างแน่นอนในปี 2021 -2022 นี้ครับ
เครื่อง Media player ตัวนี้ที่อาจจะพกพาความหวังของนักเล่นไฟล์ที่คาดหวังฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ up to date ที่สุดในวันนี้ และก็อาจจะเป็นทั้งเครื่องที่นักเล่นบางกลุ่มพากันเบือนหน้าหนี และก็อาจเป็นเครื่องเล่นที่คนอีกบางกลุ่มชื่นชอบ และก็อาจจะเป็นเครื่องเล่นที่บางคนคาดหวังว่ามันจะเป็น All In One Media box ที่รองรับทั้งการเล่นไฟล์และ Streaming ได้ดีพอ
แต่ไม่ว่า UHD3000 จะเป็นเครื่องแบบไหนก็อยู่ที่คนใช้ตัดสินใจ เพราะความชอบคนเราไม่เหมือนกัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถชม Review แบบ clip vdo ได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=eVmJ4fqRx54&t=6s
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
Specification
สเปกของ UHD3000 ตัวใหม่มีสิ่งที่แตกต่างจากตัวเดิม ก็จะมีหลักๆดังนี้ครับ
CPU Realtek RTD1619DR ARM Cortex-A55 (hexa-core) ทำงาน 6 core มาแทนเบอร์เก่าที่เป็น quad-core ทำงาน 4 core ให้ความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และ firmware ตัวใหม่ของทาง zidoo จะพัฒนาให้เข้ากันกับ CPU ตัวใหม่นี้
DAC ESS9068 มาแทนเบอร์เดิมที่ใช้ ESS9038 ด้วยพลังของ DAC เบอร์ใหม่นี้ทำให้ spec ของเสียงอัพเกรดขึ้นไปพอสมควร โดยเฉพาะค่า Signal to noise ratio ที่เพิ่มจากเดิม 120 เป็น 128 dBrA (ช่วยเรื่องความสงัดและรายละเอียดเสียง) และให้ Dynamic Range สูงกว่าเดิมจาก 122 มาเป็น 125 dB
และก็ยังให้ noise ที่ลดลงจากเดิม 0.0003% มาเป็น 0.00026 (THD+N)
USB ที่ให้มาจะให้มาทั้งหมด 6 ช่อง แบ่งเป็น
- Internal (3.5") 2 ช่องด้านหน้า (เหมือนรุ่นที่แล้ว)
- External USB 4 ช่อง แบ่งเป็น usb2.0 x 2 ช่องหน้า และ usb3.0 x 2 ช่องด้านหลัง เพิ่มจากเดิม 1 ช่อง
USB Audio Input ให้มาเพิ่มจากเดิมตัว UHD2000 ไม่มี ตัวนี้สามารถนำมาต่อใช้กับ USB จากคอมหรือโน๊ตบุ๊กเพื่อเล่น Roon, Tidal, Spotify ได้โดยไม่ต้องต่อเข้าวง Network ครับ
การระบายความร้อนของตัว Zidoo UHD3000 มีการตัดพัดลมที่อยู่ในดีไซน์ตัวเดิมออกไปนะครับ รุ่นใหม่จะไม่มีพัดลมติดมาให้เห็นแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงพัดลมอยู่ เข้าใจว่าผู้ผลิตย้ายตำแหน่งพัดลมไปไว้ที่อื่นที่มองไม่เห็นแทน
New Featuress
ในตัว UHD3000 นี้มี Features ใหม่ๆที่สร้างความฮือฮาให้นักเล่นอยู่หลายตัวด้วยกัน ผมจะสรุปคร่าวๆได้ดังนี้ครับ
1. Roon ready : ที่ทาง Zidoo แจ้งไว้ว่ารองรับ Roon end-point ได้เลย หลังจากลองต่อดูพบว่า Zidoo uhd3000 ยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่ Roon certified ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่ Roon ผ่านทาง network ได้ ซึ่งทาง roon เคยออกมาแจ้งไว้สักพักแล้วว่าจะไม่อนุญาติให้อุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ certified มาเชื่อมต่อกับ roon อีก แต่กรณีอุปกรณ์เก่าๆที่เคยเชื่อมไว้แล้วก็ยังใช้งานได้ต่อไป (แต่อย่าปล่อยให้หลุด) ดังนั้นฟังชั่นนี้ถือว่า Zidoo UHD3000 ยังไม่สามารถใช้งานได้ครับ (กับ Roon version ล่าสุด)
2. Streaming : เสียง dolby atmos ผ่าน Netflix ณ วันที่เราลอง (วันที่ 9/01/2021) เข้าไปทดสอบ Netflix พบว่ามีเสียงออกมาเป็น Dolby digital + 5.1 และบางเรื่องก็แสดงเป็น doly atmos บนหน้าจอ netflix ได้แล้ว (ไม่ได้ส่งออกมาเป็น pcm เหมือนตัวเก่า) แต่เมื่อเข้าไปดูหนัง จะพบ error ทำให้เล่นหนังไม่ได้ (ทุกเรื่อง)
พบว่าตอนนี้ firmware ปัจจุบัน (ตัว beta) ของ Zidoo มีปัญหาอยู่ ทำให้ดู netflix ดูไม่ได้เลย และต้องรอ firmware ของทาง Zidoo ตัวใหม่ออกมาแก้ bug ตัวนี้ครับ
ปล. ปัญหานี้เป็นกับ Zidoo ทุกรุ่นทุก model ที่ใช้ cpu Realtek RTD1619
3. DSD, MQA : Dac ตัวใหม่ล่าสุด ESS9068 รองรับการถอดรหัส DSD และ MQA
4. Dolby Vision, HDR10+ : UHD3000 ตัวใหม่จะรองรับ Dolby vision, HDR10+ ด้วย ทำให้การแสดงผลของภาพดีและคลอบคลุมการใช้งานในการรับชมภาพยนตร์ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม
ความเร็วในการใช้งาน
การใช้งานผ่าน ui อยู่ในระดับที่ดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นประเภท Media player เร็วและสมูธ ลื่นไหล และการกดเข้าหนังถือว่าทำได้เร็ว ไม่ต้องกดแล้วรอนาน
รีโมท
สัญญาณรีโมทถือว่าทั่วถึงและใช้งานได้ดีกว่าเครื่องประเภทเดียวกัน ใช้งานง่าย รีโมทมีไฟ backlid เรืองแสง ใช้รีโมทตัวเดียวกับโมเดลก่อน UHD2000 ทุกประการ ใช้แทนกันได้ แต่มีข้อเสียที่รีโมทเป็นพลาสติกดูบอบบางไปหน่อย และรีโมทค่อนข้างกินแบตมาก ใส่ถ่าน 3 ก้อนใหม่ๆอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน backlid ก็จะค่อยๆหายไป แต่ยังใช้งานได้ต่ออยู่ เข้าใจว่าตัวที่กินไฟก็คือ backlid ที่ปุ่มต่างๆนั่นแหละ
การจับสัญญาณไวไฟ
สัญญาณไวไฟใช้แบบ dual band 2.4 , 5 GHz สามารถจับสัญญาณได้ดี แม้ไว้ในห้องและชั้นวางที่อับสัญญาณ
Poster wall
การทำปกง่าย มาตรฐาน ไม่มีอะไรยุ่งยาก ปกดูสวยงาม เร็วและใช้งานง่ายมาก แต่ค่อนข้างมีปัญหากับพวกไฟล์ตัดที่แยกใส่รวมๆในโฟลเดอร์ไว้ ทำให้ลำบากในการแยกแยะว่าไฟล์อยู่ตรงไหนบ้าง และไฟล์ไหนเป็นหนังเต็ม ไฟล์หนังเป็นไฟล์หนังตัด (น่าจะเป็นกับทุกยี่ห้อ)
Application
การใช้งานลงโปรแกรมต่างๆ ทำได้ตามมาตรฐานของ Android โดยการลง apk หรือ search หาใน playstore สามารถเลือกลงได้ง่ายผ่าน usb และเลือกไฟล์ขึ้นมา install ได้โดยตรง ไม่ยุ่งยากต้องลงผ่านโปรแกรมใดๆ มีข้อสังเกตว่าการใช้งาน app ต่างๆที่เป็นพวก streaming เช่น youtube, netflix ดูจะใช้งานได้สมูธและสวยงามขึ้นกว่า UHD2000 โดยเฉพาะ Youtube ที่บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า การแยกความแตกต่างของการดู youtube บน media player และ streaming อย่าง nvidia มันชิดเข้ามาใกล้กันอีกนิดนึงแล้ว ก็จะต่างกันก็แค่ความง่ายของรีโมทที่ไม่ว่ายังไง nvidia ก็ยังตอบโจทย์และลื่นในการใช้งานมากกว่า
มีข้อสังเกตว่าภาพที่ได้จาก Youtube ดูชัดและกระจ่างตามากกว่าาตัวเดิมเยอะ
แนวเสียงจากเล่นไฟล์
แนวเสียงยังคงสไตล์ UHD2000 นั่นคือให้ tonal balance ที่มีทั้งเบส กลาง แหลม จุดเด่นในตัวเก่ายังคงมาครบถ้วน นั่นคือไดนามิคและแรงกระแทก หากใครที่ชื่นชอบเครื่องเล่นที่เน้นเสียงในแนวดูหนัง แรงปะทะ หนักแน่น โครมคราม ตัวนี้น่าจะถูกใจ กลางแหลมให้รายละเอียดดีขึ้นกว่า UHD2000 นิดหน่อย น่าจะเป็นผลพลอยได้จาก DAC เบอร์ใหม่ที่มี s/n ratio ดีขึ้น และ noise ที่ต่ำลง ในส่วนของรายละเอียดจัดว่าทำได้ดี แม้จะไม่ระยิบระยับหรือพริ้วเอาใจนักเล่นที่ชื่นชอบเสียงสไตล์เน้นรายละเอียด หรือแนวฟังเพลง แต่ก็ได้สิ่งน้ำเสียงที่มีเนื้อและไม่บาง ไม่แห้งจากการที่บู๊ทและขุดรายละเอียดจนเบสหาย จึงเหนือกว่าในแง่ของเบส และแรงปะทะมาเสริมทำให้เหมาะกับการดูหนัง โดยรวมแนวเสียงยังคงสไตล์เดิมไม่เปลี่ยนไปมากนัก
แนวเสียงจากการเล่น streaming
เนื่องจากวันที่ทดสอบนั้น netflix ยังไม่สามารถใช้งานได้บน firmware ตัวล่าสุด เราจึงได้ทดสอบเล่นแค่ youtube ซึ่งในด้านภาพนั้นต้องขอบอกว่าประทับใจในความชัดของการเล่น youtube บนตัว UHD3000 พอสมควร แต่ในด้านเสียงนั้นพบว่าเสียงต้องเร่ง volume ขึ้นไปเยอะพอสมควร จากเดิมที่เปิด -20 ถึง -23 แต่เสียงที่ได้จาก netflix ต้องเปิดถึง -13 ถึง -16 ทีเดียว
ข้อดี
1. เป็นเครื่องเล่นเครื่องเดียวตอนนี้ที่พกเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและ up to date ณ วันที่ได้ลองรีวิวแล้ว นั่นคือ รองรับ Streaming dolby atmos, รองรับ roon ready (แม้จะยังทำไม่ได้จริงก็ตาม) , รองรับ MQA, รองรับ dolby vision นับวันเครื่องเล่น media player ก็จะยิ่งเข้าใกล้ความเป็น universal media player เข้าไปทุกวัน นั่นคือทำได้ทุกอย่างทั้งดูหนังฟังเพลง streaming ในคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และราคาต่ำลง (ราคาตัว UHD3000 ราคาเท่าเดิม มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ดีขึ้น)
2. การใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และรวดเร็ว ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ออนไลน์มา มันทำให้ใจคนต้องการอะไรที่เร็วขึ้น ด่วนขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ยุคสมัยเดิมๆที่เราค่อยๆออกไปซื้อแผ่น เอามาจัดเรียง อยากดูเรื่องไหนก็เดินไปใส่แผ่น โหลด นั่งดู เอาแผ่นออก หรือเครื่องเล่นที่กดเมนูแต่ละทีต้องรอ 2-3 วินาที ถึงจะเปิดหน้าใหม่ ถึงจะเข้าหนัง บางทีกดไม่ติดต้องกดย้ำๆ บางทีรีโมทสัญญาณไปไม่ถึง ต้องต่อสายสัญญาณออกมา
ยุคสมัยเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนไปด้วย ถ้าคำตอบของชีวิตคือเครื่องเล่นสักเครื่องที่ง่าย และสะดวก คำตอบคือตัวนี้ตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุดในปัจจุบันแล้ว
ข้อเสีย
1. สเปกที่ทาง Zidoo เคลมไว้ทำไมได้จริง และถึงทำได้ก็ลุ่มๆดอนๆ มีบั๊ก และต้องให้เวลาทาง Zidoo เรียนรู้และแก๊บั๊กอีกสักระยะนึง เช่น Roon ready ที่ทาง roonlabs ไม่ยอมให้เชื่อมต่อเพราะตัว UHD3000 ยังไม่ certified และ Netflix ที่มีปัญหากับ firmware ปัจจุบันทำให้ไม่สามารถเล่นหนังได้
2. รีโมท backlid ของ Zidoo UHD2000, UHD3000 แชร์ใช้รุ่นเดียวกัน และเป็นรุ่นที่รับประทานแบตสุดๆ ใช้ถ่านไฟฉาย AA 3 ก้อน ใช้งานบ่อยๆ ใส่ไปไม่ถึงเดือนไฟก็จางหมดแล้ว ถ้าใช้ไม่บ่อยอยู๋ได้ 2-3 เดือนนี่คือปกติ แล้วไฟจะค่อยๆหายไป แต่ยังกดใช้งานได้อยู่ จนกว่าคุณจะเปลี่ยนแบตใหม่
เหมาะกับใคร
UHD3000 เหมาะกับนักเล่นที่ต้องการเครื่องเล่น media player ประเภทไฟล์ เน้นดูหนัง และมีความต้องการฟังชั่นอื่นๆเช่น Netflix, app ต่างๆ ในระดับที่เน้นหนักไปทางดูหนังผ่านไฟล์
แนวเสียง UHD3000 มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ส่วนตัวที่ทดสอบถือว่าเสียงดีอยู่ในระดับต้นๆ และให้โทนัลบาล้านที่ดีมาก ให้แรงปะทะ เบสดี แรงกระแทก แนวของ Zidoo อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแนวดูหนัง เน้นโครมครามที่แท้จริง เหมาะสำหรับคนรักเบส รักดูหนังแอคชั่น
หาจะเน้นแนวรายละเอียดใสๆ เบสน้อยบางๆ ก็จะมีตัวอื่นที่เป็นทางเลือก แต่ส่วนตัวคิดว่า UHD3000 ครบเครื่องกว่า หรือหากจะเน้น streaming netflix อย่างเดียวเลย ก็จะมีตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่ามาก เช่นเครื่อง streaming อย่าง apple tv, nvidia shield pro ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ คงไม่มี media player เล่นไฟล์ตัวไหนที่ครบเครื่องและอัดแน่นไปด้วย function ต่างๆที่ครบครันแบบนี้อีกแล้ว และเมื่อรวมกับจุดเด่นของราคาขายที่ไม่สูงเกินไป และการใช้งานที่ง่ายและสะดวก ก็น่าจะเป็นอีกเครื่องที่น่าใช้และขายดีอย่างแน่นอนในปี 2021 -2022 นี้ครับ
zidoo uhd3000, zidoo, dune. zappti, oppo, poneer, media player, netflix, streaming, HomeTheater, nvidi sheild, apple tv
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม