จอโปรเจคเตอร์ สำคัญแค่ไหน
ทุกวันนี้ คนส่วนนึงยังเข้าใจว่า projector นั้น สามารถฉายกับจอภาพอะไรก็ได้ ขอแค่อย่างเดียวคือ คุมแสงได้ ห้องมืด 80-100% คุณภาพภาพที่ได้ก็เท่ากัน
จริงๆที่ถูกต้องบอกว่า การที่มีห้องที่คุมแสงได้ 100% นั้น ทำให้ภาพที่ได้จาก projector และ จอ screen นั้นแสดงผลภาพออกมาได้เต็มที่เท่าที่ประสิทธิภาพของมันทำได้ ไม่ใช่การที่มีห้องคุมแสงได้จะทำให้ภาพจาก projector และ screen อะไรก็ได้ แสดงผลภาพได้เท่ากันทุกตัว
หากเปรียบว่าห้องมืืดให้ภาพ projector + screen ที่ดีได้พอกัน เราก็อาจจะเปรียบให้ลองคิดเล่นๆว่า หากมีถนนที่ดีพอ เรียบพอ รถโล่งพอ รถอะไรก็วิ่ง 180 ได้
จริงๆต้องบอกว่าหากมีถนนที่ดีพอจะเปิดโอกาศให้ รถแต่ละคันสามารถวิ่ง 180 ได้ด้วยสมรรถนะของรถตัวเองเท่านั้น แต่สมรรถนะของการวิ่ง 180 ของแต่ละคันย่อมไม่เท่ากัน ระยะเวลาในการเร่งจาก 0-180 ของรถแต่ละคันไม่เท่ากัน รถคันนึงแาจใช้เวลาถึง 80 วินาที แต่รถอีกคันอาจใช้เวลาแค่ 40 วินาที
และการวิ่ง 180 ของแต่ละคันก็ให้การควบคุม สมรรถนะไม่เหมือนกัน และหากจะมโนต่อไปอีกว่า ถนนโล่งมากๆ รถดีๆสามาีถวิ่งืะลุ 180 ไปได้อีกเยอะด้วยก็ได้ ในขณะที่รถทั่วไปอาจจะตันแค่นั้น
ซึ่งจริงๆแล้วผมอยากอธิบายลงโพสใหม่ไปเลยว่า ไม่ใช่แบบนั้น
จอภาพไม่ใช่ว่าขอแค่มีเนื้อขาว ผิวเรียบ ขนาดพอเหมาะกับระยะฉายแล้วมันจะได้คุณภาพภาพเท่ากันนะครับ จอมีคุณสมบัติต่างๆมากมายหลายชนิด และจอประเภทเดียวกันราคาถูก กับจอแบรนด์ราคาแพงเป็นแสนก็คุณสมบัติไม่เท่ากัน การรับแสงที่ตกกระทบจากโปรเจคเตอร์ มิติ สีสัน ก็ไม่เหมือนกัน ที่ผมพูดเช่นนี้ ก็จะยกตัวอย่างห้อง demo ผม ที่เป็นห้องมืด 100% คุมแสงได้
เดิมทีใช้จอ at 140” 2.35 : 1ยี่ห้อนึง ที่มีคุณสมบัติคือ ให้เสียงผ่านได้ดี แต่ตัวมันมีคุณสมบัติคือ กินลูเมน และคอนทราสและสีจอดรอปค่อนข้างมาก projector ที่ใช้โชว์อยู่ (JVC x5900, sony 270, sony 570) ฉายไปแล้วปรับให้ตายห่ายังไงสีก็จะซีด และจืด ลงกว่าปกติ จน calibrator ท่านนึงได้ยินว่าผมจะเปลี่ยนจอใหม่ เขาถึงกับออกปากว่า เอออออ สมควรเปลี่ยน
หลังจากเปลี่ยนจอที่เป็นจอแบบเดิม นั่นคือ at 140” 2.35:1 แต่เลือกเนื้อสกรีนให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น หลังจากเปลี่ยนผลปรากฏว่า ภาพที่แคลเอาไว้ใช้งานกับจอเดิม พอฉายลงจอใหม่นั้น ความดำ ความเข้ม คอนทราสจัดจนดำจมและมองฉากมืดๆ กลืนกันไปหมด นั่นเป็นเพราะว่า คุณสมบัติของเนื้อจอใหม่ที่ไม่ลดทอน contrast และสีสัน รวมถึงแสงสว่างก็ไม่ดรอปลง ทำให้ค่าเดิมที่เราเร่งเพื่อให้ภาพที่ฉายลงบนจอเก่ามันพอดี แต่พอฉายลงจอใหม่แล้วมันเข้มข้นมากสุดๆ
ภายหลังแคลใหม่ และปรับให้มันออกมาเป็นธรรมชาติ ทั้งมิติ ทั้งสีสัน ความสดใส และความสว่าง ต้องใช้คำว่า คนละโลกเดียวกันกับจอเดิม
ดังนั้นไม่ใช่ว่าห้องมืดแล้ว จะใช้จออะไรมาขึงก็ได้ให้มันเป็นสี่เหลี่ยม สีขาวแล้วได้ผลลัพธ์เท่ากัน
ความสำคัญของจอนั้นผมให้สูงถึง 50:50 เมื่อเทียบกับ projector ครับ พอๆกับ pre-processor กับ power เลย
หน้าที่เข้าชม | 2,192,238 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,075 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |