เลือกซื้อเครื่องเสียงอย่างไรให้ไม่ผิดหวัง - เรียนรู้กลลวงของคำว่า Marketing ในตลาดเครื่องเสียงว่าคือของจริงหรือมายา

"Product is no longer a hero"   คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงไปแล้วในยุคสมัยนี้นะครับ ยุคสมัยที่ผู้คนค้นหาเป้าหมายในชีวิต และอยู่กับความหวัง อยู่กับวันข้างหน้ามากกว่าวันนี้

วันนี้ผมขอออกนอกเรื่องพูดถึงเรื่องอื่นสักนิดนึงนะครับ เมื่อเช้าผมตื่นมาก็เช็คข่าวสารอะไรไปตามปกติ และได้เห็นเว็บเครื่องเสียงเว็บนึงเค้าคุยกันเรื่อง "เครื่องเสียง"  (ก็แหงละสิเพจเครื่องเสียงจะให้ไปพูดถึงเรื่องอายไลน์เนอร์ได้ยังไง)   แล้วก็เห็นอะไรบางอย่างซึ่งนำมาถึงบทความในวันนี้ครับ

ทุกวันนี้คนเราค้นหาความหวัง ค้นหาผู้นำ และยอมเป็นผู้ตามที่ดี เพียงเพราะหวัง หวังว่าผู้นำคนนั้นจะนำพาเค้าไปสู่จุดที่ดีขึ้น จุดที่ทำให้เค้าสมหวัง  โดยผู้นำในที่นี้อาจจะไม่ได้มาในรูปของบุคคล เจ้าของร้าน พ่อค้า เซเลป เสมอไป แต่ผู้นำในที่นี่อาจมาในรูปของโฆษณาที่เล่นกับความเชื่อและความเปราะบางของจิตใจ  เช่นสินค้าในกลุ่มผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จก็เล่นกับความเชื่อในเรื่องของความขาวจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ และมัดใจดึงดูดเพศตรงข้ามได้  และประเด็นความอ่อนแอของเพศหรือร่างกายที่สามารถลุกขึ้นมาเปลี่ยนโลกก็สร้างแรงกระเพื่อมในจิตใจของใครหลายๆคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนในยุคนี้

สินค้าในกลุ่มยานยนตร์ก็เล่นเรื่องภาพลักษณ์ว่าคุณใช้รถยี่ห้อนี้แล้วจะมีความเป็นผู้นำ จะประสบความสำเร็จ เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จในชีวิต เล่นเรื่องเซอร์วิส การบริการที่ดี ราคาขายต่อ อะไหล่ถูกก็ว่าไปตามจุดแข๊งของแต่ยี่ห้อ

** ต่อจากนี้ผมจะเรียกพ่อค้า หรือกลุ่มคนที่อยู่ในเว็บ ใน social media ในกรุ๊ป ในไลน์ หรือในเว็บบอร์ดใดๆก็ตาม ที่เป็นผู้มีความรู้เฉพาะทาง และมีผู้คนให้การยอมรับนับถือสามารถชี้ว่าสินค้าใดดี หรือไม่ดี ขายได้หรือไม่ได้ ว่า "ผู้นำ" ส่วนคนที่ติดตาม สาวก หรือลูกเพจว่า "ผู้ตาม"

ทีนี้ผมลองนั่งคิดกลับมาที่แวดวงเครื่องเสียงของเรากันบ้างว่าทุกวันนี้เราไล่ตาม หาซื้อสินค้าที่อะไรกันแน่ ที่ "คุณภาพ" ที่ "ความคุ้มค่า" (ราคาต่อคุณภาพ) หรือที่ "คุณค่า" ของมัน คุณค่าไม่เหมือนความคุ้มค่านะครับ  
"คุณค่า" ของเครื่องเสียงพูดง่ายๆก็คือ ความเชื่อ + แบรนดิ้งของสินค้าตัวนั้นๆนี่แหละครับ  บางทีตัวสินค้ามันไม่มีอะไรจะขายในตัวมันเอง ในตลาดเมืองไทยได้เลย

แต่ "คน" นี่ละครับเป็นตัวที่จุดประกายและเอาตัวเองมาเป็นจุดขายให้สินค้าตัวนั้นๆ ให้มีคุณค่า ดูมีเรื่องราวมีสตอรี่ขึ้นมา  

จริงๆ Model การตลาดแบบนี้ออกจะเป็นเรื่องใหม่หน่อยในสังคมเครื่องเสียง แต่เราก็ซึมซับและเห็นมันมาสักพักแล้วโดยไม่รู้ตัว   ถ้าผมจะยกตัวอย่างสินค้าที่ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย แต่มันขายตัวมันเองได้เพราะชื่อสินค้า และผู้นำที่เชียร์สินค้านี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ถ้าพูดชื่อออกไปทุกคนคงจะเห็นได้ชัดมากๆและร้องอ้อ และบางคนก็เจ็บใจว่าไม่น่าซื้อมาเลย บางคนก็ขายทิ้งไปแล้ว บางคนก็เก็บไว้เงียบๆ  มันฮ๊อตมากนะครับ  ผมคนนึงที่ดวงดีได้ลองก่อนซื้อ  เพราะไม่เชื่อในคำโปรยสรรพคุณมัน และก็พบความจริงที่ว่าทำไมคำที่เค้าพูดๆกัน กับคุณภาพจริงๆของมัน มันไปคนละทาง วิ่งสวนทางไปคนละเรื่องกันเลย (ปกติผมเป็นคนไม่ชอบไปลองสินค้าตามร้าน แต่จะอาศัยฟังตามบ้านคนใช้งานจริงๆหรืออ่านเว็บฝรั่งที่ใช้งานจริง แต่สมัยก่อนมันยังไม่มีเว็บบอร์ดหรืออะไรให้อ่านมากเท่านี้)

แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นครับ ผมจะไม่พูดชื่อสินค้านั้นหรือเจาะจงว่ามันคืออะไร จะเป็นลำโพง ซับ แอมป์ AVR, Power หรืออะไรก็แล้วแต่ ขอไม่พูดถึงนะครับเพราะไม่อยากมีปัญหากับร้านอื่น

*** ยกตัวอย่างเครื่องเสียงที่มีคุณค่า มีสตอรี่ มีประวัติศาสตร์และมีราคาค่างวดในตัวมันเอง  ถ้าไม่ได้ฟังเสียงก็มีคนพร้อมที่จะซื้อ ก็อย่างเช่น  Technic, Sansui, mcintosh

เอาเป็นว่าแก่นแท้หรือประเด็นสำคัญก็คือ ทุกวันนี้เราจะเห็นการตลาดที่มีมิติมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงมิติเดียวนั่นคือ พ่อค้า ร้านค้า หรือแม้กระทั่งผู้นำตามเว็บหรือกรุ๊ปต่างๆนิยมนำเอาประสิทธิภาพ ฟังกชั่นของสินค้า และราคามาเป็นคอนเซ็ปท์ในการ "ขายของ" หรือทำการตลาดเป็นหลัก

แต่มาในสมัยนี้ ในวันนี้ พ่อค้า ร้านค้า หรือผู้นำ นำประเด็นประสิทธิภาพหรือความสามารถของสินค้ามาเป็นคอนเซ็ปท์ก็จริง แต่ก็เคลือบแฝงการตลาดไว้อีกชั้น อีกมิตินึง นั่นคือ "ใครพูด"
ผู้ใช้งานจริงในเน็ทพูดว่าสินค้านี้ดีนะ มันทำแบบนี้ๆๆได้ บลาๆ  กับผู้นำในโซเชี่ยลมีเดียท่านนึงพูด
ท่านจะเชื่อใครครับ? การตลาดที่ได้ผู้นำที่ดีมาชี้นำสินค้านั่นเป็นเรื่องทีดีและใครๆเขาก็ทำกันมาช้านานแล้ว ไม่ว่าจะแวดวงอื่นๆ แต่เมื่อเช้าผมมานั่งๆนึกถึงประเด็นนี้ว่า
ถ้าผู้นำคนนั้นเป็นคนที่จริงใจ แนะนำสินค้าที่ดีจริงๆ อย่างน้อยก็พูดความจริงสัก 50-60% เลือกไม่พูดข้อเสียมัน แฝงขายของของตัวเองบ้างก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะต่างฝ่ายก็ต่างได้ประโยชน์กันทั้งคู่ ผู้นำก็ได้ผู้ตาม (Follower) ผู้ตามก็ได้ความรู้เรื่องเครื่องเสียง ได้ความรู้ใหม่ๆ และได้ของถูกใจ

เพราะสมัยนี้ต้องกินต้องใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง จะขายของขายอะไรไม่มีใครว่าครับ
แต่ถ้าเกิดว่าผู้นำนั้นรู้ไม่จริงขึ้นมา และตั้งหน้าตั้งตา "ขายของ" อย่างเดียวอะไรจะเกิดขึ้นกับทั้งผู้นำและผู้ตามร้านนั้นๆ อวยกันไปอวยกันมา ปิดรับข้อมูลข่าวสารจากโลกภายนอกและผู้อื่น  ใครแย้งมาก็ไม่รับฟังข้อมูล บล๊อกและปิดกั้นลูกค้าหรือผู้ตามไม่ให้โต้แย้งก็มี
หน้าที่ของผู้นำที่ดีนอกจากจะเป็นผู้พูดหรือผู้ให้ที่ดีแล้วจะต้องเป็นผู้รับที่ดี นั่นคือต้องหาความรู้และรับฟังอยู่เสมอ แม้ว่าเสียงแนะนำนั้นจะมาจากผู้ตามหรือลูกค้าของร้านก็ตาม


ทุกวันนี้เราอยากจะเป็นผู้ตามที่มีผู้นำคอยชี้นิ้วสั่งว่า สินค้าตัวไหนดี ตัวนี้เทพสุดๆ เจอที่ไหนให้ซื้อไว้ได้เลย เค้าชี้ตัวไหนก็วิ่งตามกันเป็นงูกินหางตามไล่คว้าไล่จับสินค้ากันเรื่อยไป
หรือเราอยากจะเป็นผู้บริโภคที่รับข้อมูล วิเคราะห์  และย่อยอย่างมีเหตุผล ภายใต้ข้อเท็จจริงสองข้อที่ว่า

 1. ในโลกใบนี้มันไม่มีของดีแล้วถูกหรอกครับ มันมีแต่ของดีสมราคา สมเหตุผล  และก็ของแพงที่ขายเกินราคา  ไอ้ของเทพแล้วราคาถูกแสนถูกแล้วมีคนมาแนะนำว่าเทพสุดๆราคาแค่นี้ ต้องดูดีๆนะครับ

 2. เครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ทุกชิ้นในโลกใบนี้ไม่มีชิ้นไหนห่วยหรือดีที่สุดหรอก มันขึ้นอยู่กับ "ความชอบ" และ "สไตล์" ที่คุณชอบ  ของดีลำโพงราคาเป็นล้าน สิบล้านแต่มันดีกับเพลงแนวออเครสต้า แจ๊ส ออดิโอไฟล์ แต่ถ้าเกิดคุณอยากฟังเพลงแด๊นซ์ให้ได้บรรยากาศเหมือนตามผับให้เสียงมันฟังแล้วบรรลุวัตถุประสงค์ของมันคือ ความมัน  ถามว่ามันสู้ลำโพง PA ในผับหรือเวทีคอนเสิรต์ที่คุณไปฟังได้หรือไม่ครับ

หรือคุณอยากได้ลำโพงหวานๆ ฟังเพลงเพราะๆ แต่ไปซื้อลำโพง Home cinema ที่ตัวเล็กๆ แปะ THX Approved มันก็ฟังเพลงแข๊งๆ ทื่อๆไม่ได้ดั่งใจ  
หรือคุณชอบฟังเพลงร๊อค แต่ดันเอาลำโพงฟังเพลงร้องชนิดที่หวานเจี๊ยบ เสียงอุ่นละมุนละไม เสียงฉาบเสียงสแนร์ดังกังวาล เสียงกลางละเอียดยิบเป็นฝอย ได้บรรยากาศ เวที ซาวด์เสตจ แยกแยะเวทีเสียงเป็นเลิศ ราคา 3 แสนมาฟัง มันจะสู้กับลำโพงอเมริกันที่เค้าทำเอาไว้สำหรับแนวดนตรีร๊อคก็ไม่ได้เช่นกัน ใช่ไหม??

ย้ำอีกครั้ง  "ของดี" และ "ของถูก" (สมราคา) มันต้องมาพร้อมกับความชอบและสไตล์ของคุณเองว่าคุณชอบอะไร ไม่ใช่ดีที่สุดของพ่อค้าคนนั้นๆ  คนขายของบางร้านฟังเพลงจีนมาทั้งชีวิต เราฟังลูกทุ่ง ฟังคาราบาวไปถามว่าขอลำโพงดีๆสักตัว เค้าแนะนำลำโพงยี่ห้อที่คนขายชอบยี่ห้อ ....  แล้วถามว่ามันจะดีถูกใจเรามั๊ย

อย่าให้ผู้นำหรือพ่อค้าคนไหนมาจูงหรือชักนำคุณได้ว่านี่คือของเทพที่สุดที่เค้าเคยเจอมา เพราะคำว่าดีที่สุดนั้น มันคือของเค้า และภายใต้นิยาม ข้อจำกัด สภาพแวดล้อม อุปกรณ์ และรสนิยมส่วนตัวของเค้า ไม่ใช่ของคุณ  
ยกเว้นว่าคุณชอบเหมือนพ่อค้าคนนั้นก็ค่อยว่ากันไปอีกเรื่อง

สุดท้ายอย่าลืมว่ายุคนี้ สมัยนี้ เป็นยุคที่คนเราให้ความสำคัญกับคำว่า "คนพูด"  หรีอ "ใครพูด" มากกว่า "เนื้อหาที่เขาพูด" หรือ "เสียงจากคนที่ใช้งานจริง" และปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับ "คุณค่า" (Branding + ความเชื่อในตราสินค้า) มากพอๆกับ "คุณภาพ" และ "ราคา"
ขอให้รับข้อมูลอย่างมีสติ เลือกสินค้า เครื่องเสียง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันทุกท่านครับ   

ปล เพจนี้ admin ความรู้เรื่องเครื่องเสียงไม่ค่อยมาก พอรู้เรื่องบ้าง พอตอบคำถามลูกค้าได้บ้าง หาข้อมูลศึกษาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ แนะนำถูกบ้างผิดบ้างก็อย่าถือสากันนะครับ ใครจะแย้งจะอะไร เราไม่ว่า รับฟังทุกคนครับ และผมพูดอะไรผิดไปแย้งได้ติได้ ใครโดนเพจไหนบล๊อกมา ที่นี่ยินดีต้องรับครับ  ^_^