ทำห้องดูหนัง (ดีๆ) ปวดหัวจังตอน 2: เลือกโซฟาเข้าห้องดูหนัง

ช่วงนี้เลือกโซฟาครับ ก่อนทำห้องก็คิดว่า แหมมม...ถ้ามีโอกาสได้ทำห้อง จะเลือกนู้นเลือกนี้ ค่อยๆทยอยเอาของเข้า มีความสุขจัง แต่พอเอาจริงๆ ต้องคิดต้องตัดสินใจ และที่สำคัญต้องควักกระเป๋าตัวเองออกเงินรัวๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าก่อสร้าง ค่าทำห้อง ค่าสาย ค่าลำโพง ค่าแร๊คแล้วจะรู้เลยว่า แม่มไม่สนุกเท่าไร่ ฮาๆๆๆ
แต่อย่างไร ในมุมมองของผู้ชายอย่างเราๆ การได้ทำห้องดูหนัง home cinema ดีๆสักห้อง ผมว่ามันก็คุ้มกว่าเอาตังไปทำอย่างอื่นละนะ เพราะห้องอยู่กับเราไปอีกตลอดชีวิต คงทน ถาวร ไม่ต้องดูแลมาก ใช้เป็นที่ขลุกและหลบภรรยาเข้าไปอยู่ ไปเล่นไปนอน ไปดูหนังเล่นเกม ฟังเพลงในห้องได้ทั้งวันทั้งคืน สบายสุดๆ ห้องดูหนังกลางๆรวมห้อง รวมลำโพงก็หลักแสนปลายๆ ไปเที่ยวเมืองนอกดีๆได้ 3-4 ทริปเองนะ คุ้มมั๊ยละ อิอิ
เลือกโซฟาห้องดูหนังอย่างไร่ดี
ตอบ ไม่มีกฏเกณท์ครับ จะเลือกอย่างไรก็ได้ ดีหมด เอาที่คุณนั่งแล้วสบายตัว สบายใจ สบายกระเป๋าและคุณคิดว่าสวย ของอยู่ในบ้านคุณ คุณใช้ของคุณเอง ไม่ได้เอาไปออกงานแฟร์โชว์ให้ใครต่อใครมานั่ง ดังนั้นของที่คุณเลือกแล้วว่าดี มันก็คือดี
แต่ๆๆๆช้าก่อน จะจบแค่นี้ก็สั้นไป เราเลยจะมาเล่าเรื่องของเราให้ฟังว่าเราคิดยังไงกับโซฟาดูหนัง สนุกๆ ขำๆ อย่าจริงจัง ไม่มีสาระอะไรมาก เริ่มเลย ไป..
ก่อนนั้นผมเป็นคนเกลียดโซฟาดูหนังแบบตามโรงภาพยนตร์มาก คือเกลียดฝังใจกับไอ้เก้าอี้แดงๆ เพราะว่าเวลาไปดูหนังในโรงแล้วมันนั่งไม่สบาย โซฟาแข๊งช.หาย ยังกับนั่งกระดาน ระบบกลไกแมนนวลเหมือนอยู่ยุค 80 แคบ นั่งปวดหลัง ไม่ผ่อนคลาย ยืดขาไม่ได้ ปรับเอนนอนไม่ได้ แถมโดนที่นั่งข้างหลังเตะเบาะ ฟูกก็แข๊ง คือไม่ชอบเลย
มันได้อย่างเดียวคือ look & feel และกลิ่นอายของโรงภาพยนตร์ แต่ผมถามจริงครับว่า คุณจะทำโรงหนังในบ้านของคุณให้มันเหมือนในโรงภาพยนตร์ไปทำไม ในเมื่อในปัจจุบันเครื่องเสียงบ้าน ลำโพงบ้านเดี๋ยวนี้ มันให้เสียงการดูหนังที่เหนือกว่าโรงหนังส่วนใหญ่ทั่วๆไป 98% เสียอีก
จะปรับจะเซ็ท จะเอาให้เบสหนักจนขี้หูร่วงยังไงก็ได้ ด้วยข้อได้เปรียบของสถานที่ในบ้านที่เล็กกว่า คุณจะยัดซับเข้าไปสี่ตัวก็ยัดไป
หรือจะเอาให้ละเมียดละมุนปาน อรวีมาพากย์ มดขึ้นห้อง เสียงปืนครกใน 13 hours นุ่มราวกับยิงพลุแฟร์ในสวนสนุก จะให้เสียงค้อนธอร์อิมแพคเบาๆ นุ่มๆ ก็ยัดลินดอฟ ยัดพาราซาวด์ ยัดลำโพงไฮเอ็นท์แพงๆที่ชอบไปออกงานเครื่องเสียงเข้าไปสิ
หรือจะให้เฟี้ยวฟ้าว แหลมพุ่งปรี๊ดมาทีเหล็ก HBeam ยังแทบจะขาดก็ทำได้
ไม่เหมือนโรงหนังที่เซ็ทมาเอาใจมหาชน แม่บ้านเด็ก เบสมีบ้างไม่มีบ้าง เสียงแฟลท และดีไซน์แบบ old fashion แบบเดิมๆทำไมมม ในเมื่อการออกแบบในบ้านมันทำได้อลังการกว่าดีไซน์เดิมๆในโรงหนังได้มากกว่า
ความคิดแบบนี้ฝังหัวผมมานาน ผมเลยไม่เคยคิดจะเอาไอ้เก้าอี้โรงหนังเข้าห้อง และไม่ชอบทำห้องดูหนังในบ้านให้เหมือนโรงหนังด้วย
ต่อมาได้ไปดูเก้าอี้ประเภท RECLINER SOFA สำหรับดูหนังหรือโซฟาบ้านแบบปรับเอนได้ โซฟาแบบนี้ละครับที่นิยมใช้กันในห้องดูหนังทั่วๆไป มีตั้งแต่หนังผ้า หนัง Pu ตัวละหลักพันไปจนหมื่นต้นๆราคาเข้าถึงง่าย ไปจนราคาหลักแสนตามฟังกชั่นตามวัสดุและดีไซน์ที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ช่องวางแก้ว หนังที่ใช้
ถ้าได้ลองรับรองว่าจะประทับใจในความสบายครับ ยิ่งได้แบบปรับไฟฟ้า นี่โคตะระของสวรรค์ ปรับเอนนอน
ข้อเสียอย่างเดียวคือไม่สวย เพราะมันบวมๆอ้วนๆ พองๆ แต่มันนั่งสบาย เพราะออกแบบมาให้เป็นโซฟานั่งสบาย เลยต้องใหญ่ต้องพอง มันไม่ใช่เก้าอี้ดีไซน์ครับ มันไม่เน้นโชว์หรือสวย และที่สำคัญมันทำให้สวยยากมาก ทำได้แต่แพง
ตอนแรกผมก็จะใช้ RECLINER SOFA แบบนี้ละครับเข้าประจำการ ให้ลูกค้านั่งเอนหลังสบายๆ นุ่มๆปรับไฟฟ้าฟินๆ ไม่สวยก็ช่างแม่มแล้ว 555 เลยติดต่อเจ้าที่ขายโซฟาดูหนังแบบนี้ไปหลายเจ้า ว่าผมสนใจ อยากจะเอาโซฟาเค้ามาลง ให้ลูกค้าได้นั่ง แต่อนิจจา เหมือนผมถือกะลาไปขอทานเค้าดีๆนี่เอง ฮาๆ แต่ละเจ้านอกจากจะไม่สนใจแล้ว ยังให้ราคาเท่ากับลูกค้าทั่วๆไปที่เดิน walkin ไปซื้อหน้าร้านนั่นแหละครับ ทั้งๆทื่ผมเอาโซฟาเค้ามาลง แล้วโฆษณา ได้โปรโมทให้เค้าไปในตัว หรือผมเข้าใจผิดไปเองว่ามันจะเหมือนพวกแบรนด์แฟชั่นที่เค้าทำสินค้าขึ้นมาเค้าจะส่งให้เซเลปหรือคนในวงการลอง เพื่อโปรโมทแบรนด์ตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า ในเมื่อมันนั่งสบาย แต่มันไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความสวยงาม เรื่องดีไซน์ แถมเราก็เป็น nobody ในสายตาผู้ผลิตโซฟาประเภทนี้ กระนั้นเลย เราจ่ายควักเงินลงทุนเอง แล้วได้ราคาเท่ากับลูกค้าทั่วๆไปเดินไปซื้อเองแบบนี้ เราไปเลือกโซฟาแบบที่เราจ่ายแล้วเรามีความสุข ดูแล้วสบายใจ สวย และนั่งสบายด้วยดีกว่ามั๊ย ใช้หลัก "Ku ชอบ" ว่าแล้วก็วาร์ปไปยุคสุดท้ายกันต่อ
ส่วนตัวผมชอบโซฟาแนว I Shape หรือ L Shape เป็นทุนเดิมมานานแล้วครับ เพราะมันตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ และตอบโจทย์เรื่องความสบาย นั่งๆดูหนังอยากจะนอนก็นอนได้ ที่ก็กว้าง นั่งสบายๆ สาวๆก็ชอบ ครอบครัวมาเห็นก็ชอบ ตอบโจทย์มหาชนได้มากกว่า ผมจึงตัดสินใจหยิบความคิดที่ว่า ห้องดูหนังแม่มต้องใช้เก้าอี้แดงๆที่ยกมาจากโรงหนังที่เจ๊งแล้ว หรือเขวี้ยงความคิดที่ว่าห้องดูหนังต้องใช้โซฟา Recliner นั่งดุหนังแบบจริงจังปรับไฟฟ้า ออกไป
แล้วมาใช้หลัก "ตามใจku" นั่นคือกรูชอบแบบนี้ ก็จะใช้แบบนี้ ไม่มีใครมาออกตังให้ku 55
และใช้โซฟาแบบตัว I ก็สวยดีครับ เลือกหนังดีๆ หนังออย์สวยๆ ดูแพง นั่งสบายสุดๆ นอนได้ พื้นที่เหลือๆ แถมสบายใจอย่างตรงที่เลือกเจ้าที่เค้าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรา ไม่รู้จักเรา
และผลิตแต่โซฟาที่เน้นนั่งสบายๆ ไม่เกี่ยวกับห้องดูหนัง
เราเป็น user โง่ๆ เดินไปแบบโนบอดี้ แล้วชี้ว่าเอาตัวนี้ๆ จ่ายตังค์เต็มราคาไม่ต้องมีพันธะอะไรกับใครก็สบายใจดีครับ
ปล. สุดท้ายก็โฆษณาให้เค้าเสียหน่อย (จ่ายเต็มราคานะบอกเสียก่อน ฮา) ผมเลือกของ Zen มาใช้สองตัว เป็น L และ I อย่างละตัวครับ ดังรูปสุดท้ายในบทความนี้แหละครับ
จบ พบกับตอนหน้า ทำห้องดูหนัง (ดีๆ) ปวดหัวจังตอน3




