เล่นเครื่องเสียง แค่ไหนถึงไม่เกินตัว??????
ถาม: เล่นเครื่องเสียงเท่าไร่ดีถึงเหมาะ สมมติมีเงินเก็บเท่านี้ ควรเล่นกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเก็บ
ตอบ: ผมมักจะมีเพื่อนฝูงเก่าๆที่รู้จักกันเนิ่นนานแวะเวียนกริ๊งกร้างโทรมาหาอยู่ประจำ มีอยู่คนนึงผมก็พอจะรู้จักหน้าที่การงานและฐานะของเค้าดีพอสมควรแหละ ว่าเป็นคนมีอันจะกินคนหนึ่ง
แกโทรถามผมเรื่องซับมาหลายปีแล้ว น่าจะ 3 ปีเป็นอย่างต่ำที่โทรมาถาม โดยเฉพาะช่วงสิ้นปี แกจะโทรมา น่าจะหวังเผื่อฟลุ้กมีของดีราคาถูก แกก็ถามซับวูฟเฟอร์ตัวนึง (สนนราคา หมื่นต้นๆ)
ถามว่าคุณภาพเป็นยังไงบ้าง ผมก็ตอบไปตามความจริงๆว่า มันก็ตามราคาน่ะ ดูหนังฟังเพลงพอได้ อย่าคาดหวังอะไรมาก (เอามาตรฐานความคาดหวังของผมเป็นตัวตั้ง)
แกก็คงจะผิดหวังกับคำตอบผม ที่ซับตัวที่แกหวังมันไม่ได้ดีอย่างที่แกคิด
ผมเลยเสนอตัวที่แพงขึ้น แต่ก็สองหมื่นต้นๆ ให้เค้า ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าต้องซื้อ เพราะผมก็ไม่ได้อยากเอากำไรกับเพื่อน เค้าก็อ้ำๆอึ้งๆแล้ววางสายไป แต่ก็พอจะรู้คำตอบว่าปีหน้าแกคงโทรมา repeat คำถามเดิมกับผมอีกจนกว่าผมจะยกซับให้เค้าไปสักตัวนั่นแหละ
คือคำตอบที่ว่าเล่นเครื่องเสียงเท่าไร่ดีนั้น ผมไม่มีคำตอบให้นะครับ
แต่เพื่อนผมคนนี้จัดว่าเป็นเศรษฐีคนนึงของย่านในละแวกจังหวัดที่แกอยู่ หน้าที่การงานก็ระดับ manager ในองค์กร joint venture ยักษ์ใหญ่หนึ่งแหละ
รถที่เค้าขับก็มีทั้งรถเก๋งและบิ๊กไบค์คันละร่วมล้าน
มาถึงตรงนี้ผมจะจบบทความเลยก็ได้ เพราะผมได้ตอบคำถามข้างบนไปเรียบร้อยแล้วละครับ
แต่ก็ขอเขียนต่ออีกหน่อยว่า เล่นเครื่องเสียงแค่ไหนดี แค่ไหนเหมาะสม
คำตอบคือ มันไม่มีสูตรว่าเท่าไร่ดี แต่คำตอบที่ใช้ได้ดีที่สุดคือ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณให้คุณค่ากับมันเท่าไร่นั่นแหละ
willing to pay คือคำตอบ คนเรามี willing to pay กับสิ่งของไม่เหมือนกัน
- บางคนมีเงิน 100 บาท เอาไปท่องเที่ยว 80 ว่าคุ้ม
- บางคนเอาไปซื้อรถ 90 บาท ก็ว่าคุ้ม
- บางคนเอาไปเก็บอย่างเดียวแล้วเฝ้าดูตัวเลขในบัญชีเติบโต นั่นก็เป็นความสุขของเค้าแล้ว

ไม่ว่าจะใช้เงินไปกับอะไร จ่ายมากเท่าไร่ เรามักจะไม่รู้สึกว่ามันแพง เพราะเรามี passion กับสิ่งนั้นๆ มีเป้าหมายกับมัน เรามีความสุขกับและชอบสิ่งนั้นๆนั่นเองครับ (willing to pay)
จำไว้อย่างนะครับว่า อะไรที่เราอยากจะจ่าย มี willing to pay มี passion กับสิ่งนั้นๆ จะเป็นสิ่งที่เร่งด่วนและต้องซื้อเดี๋ยวนั้น ซื้อให้เร็วที่สุดเสมอ
แต่ถ้าเป็นของที่เราไม่ได้อยากจะได้มากมากนัก มันมักจะเลื่อนไปเรื่อยๆ เอ๋ะ ยังไม่ซื้อ รอปีหน้าละกัน พอปีหน้า เดี่ยวไว้รอดูอีกปีนึงแบบนี้ เผื่อจะได้ของถูกกว่านี้สักหน่อย (ผมสังเกตได้จากสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงและคำถามของลูกค้าผมหลายๆคนได้ว่าใครมี passion แค่ไหน ส่วนใหญ่ถ้าคนที่ไม่ได้อยากได้มาก เค้าจะวนเวียนมาถาม จนเป็นปีก็ยังไม่ซื้อ เพราะรอหาสิ่งที่ดีที่สุด ที่ถูกที่สุด ที่คุ้มที่สุดนั่นเอง)
แต่ถ้าเมื่อไร่คุณมี passion หลายอย่าง ชอบเล่นเครื่องเสียง ชอบเล่นรถ ชอบจีบหญิิง ชอบท่องโลก ชอบสะสมของเล่น แบบนี้ก็แปลว่า คุณก็ต้องมีเงินมากหน่อย ทำงานมากขึ้นหนักขึ้นในการตามความฝัน อิอิ
เคยสังเกตปะครับว่า มอไซต์สำหรับเราๆท่านๆบางทีแค่หลักหมื่น หรือแสนก็ขี่ได้นี่หว่า แต่ทำไมคนที่ซื้อมอเตอรไซต์ราคาเป็นล้านเค้าต้องจ่ายขนาดนั้น (ว่ะ)
คำตอบคือ มันความสุขของเค้า และเค้าเห็นค่า ของสิ่งของที่เค้าชอบ เค้าเลยซื้อ
แต่พอหันมามองของอย่างอื่นที่เค้าไม่ได้ให้ค่ามันมากเท่ากับมอเตอร์ไซต์ เค้าจะมองว่าโหหมื่นกว่าบาทเนี่ยแพงน่ะ
เห็นมั๊ยครับ คนเรา 100 คนก็ร้อยแบบ ร้อยความคิด

สำหรับเราๆท่านๆที่สายเลือดเกิดมาเพื่อเล่นเครื่องเสียง การซื้อลำโพงราคาแสน เพาเวอร์หรือซับวูฟเฟอร์ราคาแสนต้นๆ คงไม่ได้แพงอะไร (มั้ง) แต่พอจะให้เอาเงินไปซื้อทัวร์ไปยุโรป 2-3 แสนกับที่บ้าน หรือให้เอาตังไปแต่งรถ เอาตังค์ไปซื้อบิ๊กไบค์ค่ายกังหันสีฟ้า เอ๊ะ เรากลับรู้สึกว่าไม่คุ้มว่ะ ทำไมเราไม่เอาตังค์มาอัพซับ อัพปรี อัพเพาเว่อร์
ในขณะที่บรรดาภรรยาของเราๆก็มักจะมีความคิดสวนทางกับเราเสมอ นั่นเป็นเพราะการเห็นคุณค่าของสิ่งของแต่ละอย่างคนเราไม่เท่ากันไงครับ
วันนี้ไม่มีคำตอบให้ว่าจะเล่นเครื่องเสียงราคาเท่าไร่ดีของเงินที่มี แต่คุณต้องตอบตัวเองว่าคุณให้ค่าของมันแค่ไหนต่างหาก
ผมก็แอบตกใจในราคาของเล่นและบรรดาบิ๊กไบค์ของเพือนผมนะว่าทำไมมันแพงจัง
เพื่อนผมก็คงอยากจะตอบผมว่า แล้วไงฟ่ะ มันไม่ได้เอาตังผมไปซื้อ หรือขี่บนหัวผมซะหน่อย ฮาๆ
ส่วนถ้ามันรู้ราคาซับหรือลำโพงที่ผมเล่น มันก็คงคิดเหมือนกันว่า ลำโพงบ้าอะไรว่ะ ทำไมมันแพงขนาดนั้น เล่นไปได้ยังไง ผมก็คงอยากตอบเหมือนกับที่เพื่อนผมคิดนั้นแหละ ว่ามันคุ้ม แล้วตรูก็ไม่ได้เอาลำโพงไปเปิดบนหัวเค้าเหมือนกัน ฮาๆ
ปล. ส่วนตัวผมเริ่มเล่นเครื่องเสียงมาจากชุด 2.0 + int amp
เพราะความคิดงกๆว่าลำโพงมันน้อยดี ถ้าเราเล่นชุด home เราต้องจ่ายเงินซื้อลำโพงตั้ง 5-6 ตัว มันแพง
แถมผมก็ไม่ใช่ซับด้วย เพราะแอบงก และคิดว่าเราก็ประหยัดไปหาลำโพงตั้งพื้นตัวใหญ่ๆ ที่เบสดีๆหน่อยละกันจะได้ประหยัดค่าซับ ที่จ่ายตั้งแพง เล่นได้แค่เสียงตึงๆ ตู้มๆ ในย่านความถี่ 20-120Hz
วันนึงรุ่นพี่ผมก็ให้ยืมซับตัวนึงราคาแค่ 9 พันกว่าบาทมาให้ยืมที่บ้าน
ผมก็เล่นได้ 2-3 วันแล้วก็แพ๊คใส่กล่องแล้วเอาไปคืน
หลังจากวันนั้นก็เหมือนวันที่เปิดโลก แง้มกะลาใบน้อยๆ ในการเล่นเครื่องเสียงของผมออก ผมไม่สามารถขาดซับวูฟเฟอร์ได้อีกเลยนับแต่จากนั้น และผมก็เล่นของผมไปเรื่อยๆจาก ใช้ avr, เปลี่ยนลำโพง ใส่เซ็นเตอร์ ใส่เซอรราวด์ ใช้ Power ใช้ Pre
ผมเพิ่งมาค้นพบว่าจริงๆแล้ว ผมรักเครื่องเสียงนี่หว่า แล้วผมทำไมต้องมาเขียม มางกกับอะไรที่ผมรักว่ะ ก่อนนั้นจะซื้อของสักชิ้นหาข้อมูลเป็นเดือน ไปฟังตามร้าน ถามคนนู้นคนนี้ ล้านแปดความเห็น จนซื้อมาลองที่บ้าน เอ่อเสียงไม่เหมือนที่ไปฟังในร้านเลยน่ะ ฮาๆๆๆ

จนตอนหลังพอเริ่มรู้แนว ตัวไหนที่ผมสนใจผมศึกษานิดหน่อยแล้วซื้อมาลองเล่นที่บ้านเองเลย เพราะร้านสมัยนี้ไปลองฟังมันก็ไม่ได้อะไร ในห้างนี้ผมไม่ไปฟังเลย เสียหู ส่วนโชวรูมดังๆในห้างนี้แค่สายไฟเค้าก็ซ์้อบ้านผมได้แล้วมั้ง (ขอเว่อร์นิด) ลองฟังก็ไม่รู้อะไรอีกเหมือนกัน
ก็ต้องซื้อมาลองเล่นเองนี่แหละ
คือถ้าเราไม่เล่น ก็ไม่รู้ ไม่ได้ลอง ไม่ได้เปิดโลกออกไปเสียที อันไหนผิดไม่ใช่แนว ผมก็เรียนรู้และขายออกไป มันขาดทุนไม่เยอะหรอกครับ อย่างน้อยก็เป็นค่าครู ค่าเสียหายน้อยกว่าไปเปิดเมมเบอร์เล้าจ์ หรือไปจีบหญิงเยอะ เครื่องเสียงมันไม่ทำให้คุณเจ๊ง
คนเรามันซื้อของผิดได้ไม่กี่ครั้งหรอกครับ มันจะเรียนรู้เองว่าอะไรดี ยี่ห้อไหนเสียงถูกหูเรา ยี่ห้อไหนไม่ใช่แนว แล้วพอรู้คราวนี้มันจะสนุก เพราะเราจะไล่ตามหาเสียงที่ชอบได้ใกล้ขึ้นๆๆๆ
แต่บางทีเสียงที่เราตามหามันก็มักจะเขยิบออกไปไกลขึ้นด้วยเหมือนกันครับ ถ้าเราไปฟังและเปิดโลกเรียนรู้เทคโนโลยีอะไรใหม่ๆเข้ามา
ส่วนตัวนี่คือสิ่งทีี่ผมรักและเต็มใจจะจ่าย
บางคนอาจมองว่าเครื่องเสียงฟุ่มเฟือย
มันก็ใช่ครับ แต่ผมมองว่ามันทำให้เราอยู่ติดบ้านดี มีโลกส่วนตัว สงบ ไม่เสี่ยง (teen) เหมือนออกไปกินเหล้าหรือจีบหญิง
และอีกอย่างคือ มันก็เป็นความสุขของเรานะ มันเป็น passion เรามี moment ที่มีความสุขทุกครั้งเวลากลับจากทำงานเหนื่อยๆ ได้มาเปิดเครื่อง วอร์มเครื่อง แล้วเปิดหนัง เปิดแทร๊กเพลงเดิมๆที่เราชอบฟังวนซ้ำๆวนไปวนมาแบบนั้น
ถ้ากิจกรรมอย่างอื่นมันไม่ทำให้เรามีความสุขได้เท่าเครื่องเสียง แล่้วผมจะเอาเงินไปลงกับอย่างอื่นทำไมให้มันเสียดายเงินละครับ จริงมั๊ย
ผมก็เล่นเท่าที่ผมมีแรงเล่น และมองว่าคุ้มค่ากับเงินที่ผมจ่ายนั่นแหละ
อย่าลืมว่าของยิ่งแพงความต่างจากของราคากลางๆยิ่งน้อยกว่า ของราคากลางๆเทียบกับของราคาถูกๆนะครับ
ก็เหมือนรถนะแหละครับ super car ,มันแพงกว่ารถพรีเมี่ยมยุโรปตั้งเป็น 10 เท่าๆแนะ แต่สมรรถนะมันไม่ได้มากขึ้น 10 เท่าตามราคานะ
เครื่องเสียงก็เหมือนกัน ความต่างของของแพง กับของราคากลางๆ มันจะมีบางอย่างที่ให้เราได้มากกว่าเสมอ แต่ไอ้สิ่งที่ให้เรามากขึ้นนั้นน่ะ คุณต้องการมันหรือเปล่า เท่านั้นเอง
แต่ถ้าคุณมองว่า แค่มีภาพ มีเสียงออกก็พอแล้ว งบจำกัด สู้เอาเงินไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตดีกว่า อันนั้นก็ไม่ผิด และเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับคุณครับ
แล้วคุณละครับ มี passion กับอะไรกันบ้าง
เล่นเครื่องเสียงกันไปเท่าไร่แล้ว
เมียด่ากันบ้างหรือเปล่า ^_^
