
เป็นที่รู้กันนะครับว่าไลน์สินค้าตัวเก่าอย่าง AVR370, AVR270, AVR 170 นั้นได้เลิกการผลิต (discontinued) ไปเป็นที่เรียบร้อย
และได้มีสินค้าตัวใหม่อย่าง AVR171, AVR161, AVR151 มาแทนที่
ผม เป็นสาวกตัวยงของแบรน Harman ชื่นชอบน้ำเสียงและความหนักแน่นและใช้สินค้ามาหลายต่อหลายรุ่นจึงจะมารีวิว สั้นๆให้พอได้ไอเดียว่า avr ตัวนี้มีบุคลิกเป็นอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานของท่านหรือไม่นะครับ

Specification
•Stereo power: 100 watts per channel, two channels driven @6/8 ohms, 20Hz – 20kHz, <0.07% THD
• Multichannel power: 100 watts per channel, two channels
driven @ 6/8 ohms, 20Hz – 20kHz, <0.07% THD
• Input sensitivity/impedance: 250mV/27k ohms
• Frequency response (@ 1W): 10Hz – 130kHz (+0dB/–3dB)
• Power consumption: <0.5W (standby); 510W maximum
• Dimensions (H x W x D): 121mm x 440mm x 300mm
(4-3/4" x 17-5/16" x 11-13/16")
• Weight: 5.1kg (11 lb)

สิ่งแรกที่พัฒนาให้ดีขึ้นของแอมป์ตัวนี้นะครับ
1. ดีไซน์ รูปร่างหน้าตานั้นดูโฉบเฉี่ยว สวยงาม เพรียวบางขึ้นเล็กน้อย แถมปุ่มปรับเพิ่ม volume แบบเรืองแสงนั้นนั้นดีไซน์มาแบบใหม่คือฝังลงไปกับตัวเครื่องเลย แทนที่จะลอยนูนขึ้นมาเหมือนฝาพลาสติกแบบรุ่นก่อน คราวนี้ใช้แค่นิ้วชี้คลึงๆหมุนๆก็ได้แล้ว
2. Tonal balance ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือน้ำเสียง คราวนี้เสียงไม่ได้เน้นโทนเสียงต่ำหรือเสียงเบสหนักๆแบบรุ่นก่อนแล้ว คราวนี้เสียงเบสเหมือนถูกจูนให้พอดีๆ และเหมาะกับเสียงกลางและเสียงแหลม ถ้านำไปดูหนังเสียงต่ำก็ยังหนักแน่น กระแทกๆสไตล์ Haman นั่นแหละครับ แต่ลดความหนาลงนิดหน่อย จะไม่ได้บ้าเบสชนิดได้ยินแต่เสียงต่้ำนำแบบรุ่นก่อนๆเท่าไร่นะ แต่ถ้าเอาไปฟังเพลงนั้นต้องบอกเลยว่า กำลังพอดีครับ พอเหมาะกับแนวเพลงสนุกๆ ป๊อปร๊อคหรือดนตรีอิเล็กทรอนิกกำลังดีเลยครับ
3. น้ำหนักตัวเครื่อง เป็นที่รุ้กันว่า AVR รุ่นใหม่เปลี่ยนมาใช้ digital switching แทนหม้อแปลงแบบเก่าตั้งแต่รุ่นก่อนคือ AVR 370 รุ่นใหม่ก็ยังใช้ digital อยู่ แถมน้ำหนักก็เบาลงกว่า 370 อีก นั่นคือหนักแค่ 5.1 kg เท่านั้นครับ ถือมือเดียวบนฝ่ามือยังได้เลย

มาดูข้อเสียกันบ้างนะครับ
1. ตัดช่อง pre-out ออก ใครคิดจะซื้อมาต่อบายพาสกับ Int amp ขับแค่คู่หน้า ตัดตัวนี้ทิ้งได้เลยครับ เพราะต่อ bypass ไม่ได้แล้ว แต่ข้อดีคือการตัดฟังก์ชั่นต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไป ให้เหลือแต่ฟังก์ชั่นที่ใช้งานจริงๆนั้น ทำให้การทำงานต่างๆนั้นสมูทและลดปัญหาดีเฟคของลูกเล่นอื่นๆลงไปได้ครับ
2. เมื่อมีข้อดีเรื่อง tonal balance ก็ต้องมีข้อเสียครับ นั่นคือเบสลดความหนาลงนิดหน่อย สำหรับคนชอบเสียงเบสหนาๆ ตัวนี้ลดลงกว่าตัวก่อนนิดนึง แต่ได้ความสมดุลมาแทน ส่วนความกระแทกกระทั้นนั้นยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงครับ เสียงกลางก็ดีขึ้นด้วยเพราะได้ยินชัดเจนขึ้น
3. กำลังขับลดลง 25 watt ตัวเก่านั้นกำลังขับ 125 watt/channel
ส่วน ตัวใหม่เหลือ 100 watt/channel ถามว่าเพียงพอมั๊ยกับลำโพงทั่วๆไป ก็ต้องตอบว่าเหลือเฟือครับ ก็จะมีแค่ลำโพงตั้งพื้นบางตัวที่บริโภควัตต์เยอะๆ ที่ต้องพิจารณาดูให้ดีว่าจะขับไหวมั๊ย แต่อย่าลืมว่าวัตต์ของ AVR Harman นั้นมาเต็ม และไม่มีแป๊ก เผลอๆวัดด้วยเครื่องวัดยังได้เกินสเปกที่ระบุไว้ด้วยซ้ำครับ
4. เสียงแหลม ข้อนี้ยังคงเป็นข้อเสียสำหรับสาวก AVR Harman มาทุกรุ่นครับนั่นคือแหลมไม่ทอดยาวเหมือนยามาฮ่า เสียงกลางไม่หวานเหมือนมาร้านซ์ แต่ใครที่ไม่ชอบเสียงแหลมแบบแสบแก้วหู และชอบเสียงหนักๆกระแทกๆ ตัวนี้ตอบโจทย์คุณได้แน่นอนครับ
5. Remote control รุ่นใหม่นี้รีโมทใช้ยากและแอบโบราณเล็กน้อย ต้องคุ้นเคยกับมันสักนิดครับ แต่ถ้าใช้จนชินแล้วก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ลูกเล่นการปรับเสียงต่างๆนั้นก็ยังให้มาครบครันเช่นเดิม
สรุปสุดท้าย คือ AVR 171 ตัวนี้ไม่ใช่แอมป์ที่เสียงดีที่สุดครับ แต่ถ้าชอบสไตล์เสียงหนักแน่น กระแทกกระทั้น ดูหนังสนุก ฟังเพลงรุ่นใหม่ก็เนียนเพราะขึ้นเยอะ ยี่ห้อนี้ ตัวนี้เทียบราคากำลังวัตต์ต่อบาทแล้ว คุ้มและถูกที่สุดในท้องตลาดแล้วครับ กับราคา 100 วัตต์แค่ 2x,xxx บาท ไม่มียี่ห้อไหนที่ให้เสียงเบส เสียงต่ำ และดูหนังสนุกได้ในราคาแค่นี้อีกแล้วครับ ถ้าจะมีก็คงเป็น Pioneer, Anthem ที่คุณต้องจ่ายขั้นต่ำ 4-5 หมื่นขึ้นไป นับว่าเป็นแอมป์ AVR ราคาประหยัดที่ให้เสียงดีเหมาะกับการดูหนังที่สุดยี่ห้อหนึ่ง นอกจากนี้ยังไม่มียี่ห้อไหนทำเสียงได้คล้ายแบบนี้ ในราคาแบบนี้อีกแล้วครับ
ส่วน ใครที่กลัวปัญาจุกจิกของยี่ห้อนี้ที่เคยมีมาในรุ่นก่อนๆ ต้องบอกว่านับตั้งแต่ใช้มาหบายเครื่องก็ไม่เจอปัญหาอะไรให้หนักใจเลยแม้แต่ ตัวเดียวครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Review Harman AVR171 จากต่างประเทศ:
http://www.whathifi.com/harman-kardon/avr-171/review