จัดส่ง Klipsch THX Ultra 2 ตัว LCR ไปให้ลูกค้าที่ย่านพุทมณฑลสาย 3 ครับ
ตัวที่จัดส่งไปเป็นลำโพงในตระกูล Klipsch THX Ultra 2 ที่ใช้เป็นสามตัวหน้า อันประกอบด้วย Left, Center, Right โดยลำโพงทั้งสามตัวจะใช้รหัส KL-650 แต่แตกต่างกันตรงที่รหัสต่อท้าย L ต้องใช้รหัส KL-650-L ส่วน R จะใช้ KL-650-R เพราะดอกจะหันหน้าไม่เหมือนกันครับ
วันนี้เราแค่เอาลำโพงมาส่งไว้ก่อน ยังไม่ได้จัดวางหรือปรับอะไร แค่แกะกล่องเช็คความเรียบร้อย ลองต่อให้เสียงออกเป็นอันจบ รอยกลำโพงตัวเก่าและหาขาตั้งมาจัดวางใหม่ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมวางลำโพงแบบนี้ เอาแค่มาวางและต่อลองเสียงให้ออกเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรกับชุดนี้ทั้งสิ้นครับ
------------------------------------
3. LCR: Klipsch THX KL-650L/L/R
4.Subwoofer: Klipsch R115SW
------------------------------------
ก็ต้องยอมรับไปตรงๆว่า Klipsch THX Ultra2 นั้นค่อนข้างอ่อนไหวและเสียงเปลี่ยนไปตามอุปกรณ์ที่เอามาต่อร่วมกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ Pre และ Power ค่อนข้างมีผลมาก ส่วนเส้นสายนั้นผมไม่แนะนำให้ใช้ของแพง เพราะมันไม่ได้ต่างกันเยอะขนาดนั้น (ขอของมีคุณภาพมาตรฐานพอ และไม่ฟังแบบจับผิด)
ส่วนตัวผมฟัง Klispch THX Ultra2 จับกับแอมป์ต่างกันมาหลายชุด ก็ต้องบอกว่าเสียงมันจะเปลี่ยนไปตามอุปกรณ์สำคัญอย่าง AVR/Pre และ Power เป็นหลัก
มีตั้งแต่เสียงทึบจนนึกไม่ถึงว่าจะทึบได้ (ขอไม่เอ่ยอุปกรณ์)
ไปจนถึงเสียงกลมกล่อม หนักกำลังดี ดูหนังสนุก เสียงไม่จัดเกินไป (Anthem)
ไปจนถึงเสียงบาล้านดี ไม่หนัก ไม่แสบหู ฟังกำลังดี พอใช้ฟังเพลงได้ด้วย (Audyn)
ไปจนถึงเสียงดุดัน เฟี้ยวฟ้าว เบส กลางแหลม ประดังมาดั่งพายุดุดัน ไม่ประนีประนอม (Emotiva)
ก็แล้วแต่จะแมทชิ่งและเลือกใช้อุปกรณ์กันตามทุนทรัพย์และความชอบกันไป

ตัวนี้ลูกค้าอัพจากซิสเต็มเดิมที่เป็น Klipsch RP280F และ RC-64 ii ยังใหม่สดๆซิงๆสภาพ 100% เลยทีเดียว สภาพห้องอาจจะยังไม่เรียบร้อยสักเท่าไร่ ก็เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยๆอัพ ค่อยๆปรับปรุง ค่อยๆจัดการกันไป
เนื่องจากลูกค้าท่านนี้ชอบดูหนัง และใช้ห้องร่วมกันกับลูกๆและภรรยา และนี่เป็นอีกกิจกรรมที่สร้างความสุข สร้างเสียงหัวเราะให้เจ้าของห้อง ให้คนในครอบครัวได้ แม้ห้องจะไม่ค่อยอำนวนเท่าไร่ แต่เจ้าของก็เลือกจะุลงทุนกับลำโพงและอุปกรณ์ที่ดีและคุณภาพสูง โดยเฉพาะเรื่องดูหนัง
อย่าลืมว่าลำโพงที่เน้นด้านนี้ บ้านเราก็มีอยู่แค่ 2-3 แบรนด์เท่านั้นที่ให้คุณภาพระดับการฟังที่แทบจะดีเทียบเท่าโรงภายพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น M.., X..., และ Klipsch THX ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำได้ดีและมีแนวเสียงที่โดดเด่น ทั้งเรื่องความคมชัดของเสียงกลางแหลมที่ชัดมากเกินกว่าลำโพงบ้านทั่วๆไปจะทำได้
ทั้งความสด เบสที่หนักหน่วง อิมแพคที่รุนแรงในทุกๆย่านที่มาครบๆ ไม่ต้องเงี่ยหูฟัง รายละเอียดที่มาเยอะและไม่ประนีประนอมใดๆ จริงๆคุณภาพเสียงนั้นไม่แพ้เสียงในโรงหนังดีๆเลยทีเดียว
และนี่ก็เป็นจุดเด่นของลำโพงในตระกูล Klipsch THX Ultra2 ครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะคิดว่า ลำโพงตั้งแพง แต่ทำไมห้องไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับลำโพงบ้าง ห้องเล็กไปบ้าง ลำโพงเกินหน้าห้องไปบ้าง การเซ็ทอัพยังไม่เรียบร้อยบ้าง ทำไมยังกล้าเล่นระดับนี้....
ก็ขอตอบแทนว่า เครื่องเสียงเป็นของเล่น เป็นงานอดิเรก เป็นของสะสม เป็นของที่ใช้ฟังคลายเครียด ใช้คลายเหงา ใช้เพิ่มความสุขยามอยู่บ้าน
แบบนี้ถ้าซื้อรถสปอร์ตมาแล้วเอามาวิ่งแต่ในกรุงเทพ ไม่ได้อัด ก็แสดงว่าใช้งานได้ไม่คุ้มค่าหรือเปล่า
หรือบางทีเราสะสมนาฬิกาแต่ไม่เคยเอาออกมาใส่ หรือสะสมกีตาร์แต่เล่นกีตาร์ไม่เทพ แบบนี้เรียกว่าไม่คุ้มหรือเปล่า
เราต้องการอะไรจากเครื่องเสียงกันมากไปกว่านี้เหรอครับ? เอามาโชว์ เอามาอวดเพื่อน เอามาแข่งกัน หรือเอามาเพื่อให้ใครหลายคนยอมรับว่าเสียงดี...
ถ้าเจ้าของจะซื้อลำโพงคุณภาพสูงแล้วเสียงมันแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่ถึง 70% แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?
จะมีอะไรสำคัญไปกว่า เจ้าของเค้าได้ใช้ ได้เปิดมันใช้งานบ่อยๆ ได้ตักตวงความสุขจากมันให้ตัวเองและครอบครัว
ถ้าเราซื้อมาแล้วต้องเอามาแข่งขันกันว่าห้องไหนเสียงดีกว่ากัน ห้องไหนเครื่องแพงกว่า จับผิดทุกกระเบียดนิ้ว
เสียงมันไม่ดี เซ็ทอัพยังไม่ถึง อนาคตเราก็เอามันมาเซ็ทให้มันดีได้ ไม่แน่ตอนที่ยังไม่เซ็ท เสียงมันอาจจะดีกว่าลำโพงตัวอื่นที่เซ็ทแล้วเสียอีก
หรือห้องมันไม่ค่อยเหมาะ อนาคตถ้าเจ้าของเค้ามีห้อง เค้าก็สามารถเอาลำโพงย้ายไปห้องใหม่ได้ อายุลำโพง passive มันอายุเกิน 10 ปีแน่นอน ไม่ได้ใช้แล้วหมดเปลืองไป
แต่ที่แน่ๆ Klipsch THX Ultra2 ถ้าได้ลองฟังแม้จะอยู่ภายใต้สภาพห้องที่ไม่ได้ดีเลิศหรือมีข้อด้อยหลายอย่าง เช่นห้องของคนปถุชนคนทั่วๆไป ห้องนั่งเล่น ห้องใหญ่มากๆ หรือห้องไม่ได้สัดส่วน หรือแม้แต่ห้องเล็ก (เช่นห้องผมเองก็ไม่ได้ดี)
ถ้าคุณมีโอกาศได้ฟัง คุณจะรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องดูหนัง แม้ตัวลำโพงมันจะอยู่ภายใต้สภาพที่ไม่เหมาะสมหรือสมบูรณ์ แต่คุณภาพเสียงที่ได้แบบไม่ต้องไปปรุงแต่งหรือไปทำอะไรกับมัน เสียงมันก็ดีกว่าลำโพงซีรี่ย์อื่นในเกรด Home Audio ไปมาก
แล้วยิ่งถ้ามันได้เซ็ทอย่างเหมาะสม ได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะกับมัน มันจะไปได้ไกลถึงเพียงไหน?
ตรงนี้ไม่มีใครถูกหรือผิด อยู่ที่มุมมองในการเล่นเครื่องเสียงของคุณเองครับ ขึ้นอยู่กับความชอบ กำลังทรัพย์ และการใช้งานเป็นหลัก บางคนซื้อลำโพงเป็นแสนเอามาฟัง You tube ซะ 60-70% ก็มี
สิ่งสำคัญที่สุด โปรดจำไว้ว่าเราควรวัดคุณค่าของเครื่องเสียงที่ "เราชอบ" ไม่ใช่ "เสียงที่คนอื่นชอบ" อย่าให้ใครมาติ มาค่อนขอด มาฟังแล้วบอกเสียงไม่ดี แล้วไปซื้อตามเพื่อน ซื้อตามร้านแนะนำ แต่จงหาแนวเสียงแบบที่คุณชอบ เล่นตามเสียงที่ตัวเองชอบ และใช้งานมันให้มีความสุขและเปิดมันบ่อยๆ
เครื่องเสียงที่ไม่ได้เปิดแม้แพงเป็นล้านก็สู้เครื่องเสียงหลักหมื่นที่เปิดใช้งานทุกวันไม่ได้ครับ (ยกเว้นจะตั้งไว้โชว์ อิอิ)