How to Break-in a Speaker
รู้ รึเปล่าครับว่าทำไมลำโพงถึงต้องการเวลาเบิร์นอิน (Break in) แล้ววัสดุอุปกรณ์ตัวไหนของลำโพงที่มันส่งผลให้เสียงเปลี่ยนไปหลังเบิร์นอิน แล้ว วันนี้เราเอาบทความของ Klipsch.com มาให้อ่านกันเล่นๆครับว่า break in หรือเบิร์นอินนั้นสำคัญหรือเปล่า
กูรูเรื่องเครื่องเสียงจาก หลายสำนักรวมไปถึงบริษัทเครื่องเสียงหลายๆแห่ง ยืนยันนะครับว่าลำโพงจะมีระยะ Break-in อยู่ช่วงนึงที่เมื่อมันผ่านช่วงระยะเวลานี้ไปแล้วเสียงจะเปลี่ยนไปไม่มากก็ น้อย ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงอะไร
ซึ่งก็คล้ายๆกับอุปกรณ์ อื่นๆที่ถ้าสิ่งของนั้นๆ มีการเคลื่อนไหว สิ่งของนั้นย่อมต้องการระยะเวลาเพื่อให้มันทำงานได้ตามสเปกและเต็ม ประสิทธิภาพของมัน ก็คล้ายกับอุปกรณ์ใหม่ๆที่ไม่เคยใช้งานเลย หรืออุปกรณ์เก่าๆที่ทิ้งไว้ไม่ใช้งานมานาน พอมาเปิดใช้งานก็ต้องมีการฝืด และทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานทุกวันนั่นเอง
โดย วันนี้เราจะพูดถึงเฉพาะส่วนของลำโพงเพียงอย่างเดียวครับ จะไม่พูดเรื่องของเครื่องเสียงอื่นๆหรืออุปกรณ์อื่นๆที่หาข้อยุติได้ยากว่า Break-in มีผลจริงหรือไม่ เช่น amp สายลำโพง สายไฟ สายสัญญาณ ไปจนกระทั่งโต๊ะวางเครื่องเสียง
โดยอุปกรณ์หลักๆสองอย่างในลำโพงที่ทำให้การ Break-in นั้นทำให้เสียงเปลี่ยนไปจากเดิมนั่นก็คือขอบดอกลำโพง (Surround) และ Spider
1. ขอบดอกลำโพง (Surround):
ขอบดอกลำโพงนั้นทำมาจากวัสดุหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลำโพงนั้นๆเอง เช่นบางตัวอาจทำมาจากโฟม บางตัวทำมาจากยาง
โดย ขอบลำโพงตัวนี้จะทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างดอกลำโพงที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ ตลอดเวลา ให้เชื่อมกับโครงของตัวดอกลำโพงและตัวตู้ลำโพง โดยคุณสมบัติของขอบลำโพงนั้นจะต้องทำมาจากวัสดุที่มีการยืดหยุ่นได้ดีเพราะ ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
โดยสามารถเห็นขอบลำโพงได้ง่ายๆแค่ถอดหน้ากากลำโพงออกและดูที่ขอบของดอกลำโพงแค่นั้นเอง
2. Spider
มี ลักษณะเป็นแผ่นวงกลมเหมือนวงแหวนไยแมงมุม โดยสไปเดอร์จะอยู่ด้านหลังดอกลำโพง ทำหน้าที่ยึด Voice coil ของดอกลำโพงให้อยู่ในตำแหน่งเดิมและอยู่จุดศูนย์กลางอยู่เสมอ และทำหน้าที่เหมือนกับสปริง โดยจะสั่นสะเทือนและยืดหยุ่นตามดอกลำโพงที่ขยับขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาครับ
โดย ชิ้นส่วนทั้งสองนี้เป็นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว ดังนั้นหากชิ้นส่วนทั้งสองมีการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระ ทำงานได้อย่างเต็มที่ ก็ย่อมหมายว่าเสียงที่ได้จะยิ่งสามารถตอบสนองได้ถูกต้องและเที่ยงตรงตามสเปก ของลำโพงตัวนั้นๆมากขึ้นครับ โดยการทำงานของชิ้ยส่วนพวกนี้ถ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ ขอบยาง สไปเดอร์ก็มีอาการฝืดและสูญเสียความคล่องตัว ความยืดหยุ่นไปได้เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นควรให้เวลาอุปกรณ์เหล่านี้ได้ทำงานไปสักพักนึงก่อนครับเพื่อให้ลำโพง ของเราแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่นั่นเอง
โดยทั่วๆไปแล้วระยะเวลา break-in จะอยู่ที่ราวๆ 100 ชั่วโมง ยิ่งดอกลำโพงใหญ่ความเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งเห็นผลมากกว่าดอกลำโพงเล็กๆ
แต่ อย่างไรก็ดีลำโพงบางตัวก่อนและหลัง break-in ก็ให้เสียงไม่ต่างกันก็มีนะครับ แต่กับลำโพงบางตัวก่อนกับหลัง break-in กลับให้เสียงต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือ และลำโพงบางตัวก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย 10 - 20% เท่านั้นก็มีเช่นกันครับ
ดังนั้น Break-in จึงมีผลกับเสียงของลำโพงคู่ใหม่ของคุณแน่นอน
แต่จะมากหรือน้อยนั้น เป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบด้วยตัวเองครับ
โดย วิธีง่ายๆในการ break-in ลำโพงนั้นสามารถใช้แผ่นเบิร์นช่วยให้ไวขึ้นได้ แต่เราแนะนำว่าวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ เปิดดูหนังฟังเพลงไปตามปกตินี่แหละครับ โดยหาเพลงที่มีช่วงเสียงที่แตกต่างกันมากๆหน่อยจะยิ่งดี เช่นเพลงที่มีช่วงเงียบ มีช่วงโหม มีเบสเยอะ มีเบสน้อย มีเสียงดีเทลเล็กๆน้อยๆ เพลงพวกนี้จะช่วยให้พ้นเบิร์นเร็วขึ้นครับ
และ ระดับความดังที่ควรใช้ในการ Break-in นั้นก็ควรให้อยู่ในระดับที่ฟังปกติ หรือดังกว่านั้นนิดหน่อย ไม่ควรเปิดค่อยเกินไปหรือดังเกินไปครับ
หมด แล้วครับ แล้วคุณละครับเคยมีประสบการณ์ซื้อลำโพงคู่ใหม่ แล้วลองตั้งใจฟังมันตั้งแต่แกะกล่อง ชั่วโมงแรก เฝ้าสังเกตเห็นความแตกต่างของมันไปจนพ้น Break-in กันมั่งหรือเปล่าครับ ว่าเสียงของมันเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน?
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |