วันก่อนมีโอกาสช่วงสั้นๆในการได้ลองทดสอบ KEF R Series ตัวเริ่มต้น รุ่นเล็กสุดราคาย่อมเยาว์ นั่นคือ KEF R100 นั่นเอง
จริงๆผมเคยมีโอกาศได้ฟัง Kef R Series มาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่ได้ฟังก็รู้สึกแปลกใจว่าลำโพงจากประเทศอังกฤษ series นี้ ทำไมทำเสียงออกมาได้ไม่เหมือนชาวบ้านเค้าเลย เรียกง่ายๆว่า ฟังแล้วไม่มีใครเหมือน เสียงแบบนี้มียี่ห้อนี้ยี่ห้อเดียวจริงๆ และฟังกี่ครั้งๆผมก็รู้สึกถูกจริต ชอบในน้ำเสียงของ Kef R Series ทุกครั้งไป
มันน่าน้อยใจนะครับ ที่บางทีลำโพงที่เราชอบ เสียงแบบที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย เพราะ เสียงดี แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรในบ้านเรา อาจจะเป็นเพราะบุคลิกเสียงของเจ้า Kef R เองที่ไม่ได้ไปทางพิมพ์นิยมแบบสไตล์คนฟังเพลงบ้านเราสักเท่าไร่ก็ได้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จะขออธิบายแนวเสียงของ Kef R Series (R100) กันเลย
- เสียงมีรายละเอียด ชัด ยังคงยืนยันว่า ฟังกี่ครั้งๆ แนวเสียง R100 ที่เด่นชัดที่สุดเมื่อได้ฟังก็คือ Kef R Series เป็นลำโพงที่ Detail เสียงมันมีรายละเอียดสูงมากก ชัด ดีเทลจ้าแบบสุดๆไปเลย และที่สำคัญแม้แต่เบสก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ตอดเล็กตอดน้อยเต็มไปหมด
- เสียงกระฉับกระเฉง ไม่อ้วน ไม่อวบ ไม่บาง ไม่อุ่น ไม่ laidback ไม่หวานจนเอื่อยเฉื่อย เสียงชัดแต่ทว่า ไม่สด ไม่พุ่งเกินไป และนี่คืิอแนวเสียงของ Kef R เสียงจะว่าไปก็ติดไปทางสมัยใหม่หน่อย โทนเสียงไปทางดิจิตอลนิดๆ ถ้าใครชอบหวานๆอาจจะผิดหวัง ใครขอบลำโพงเฉื่อยๆ เสียงโทนอุ่นๆอาจจะไม่ใช้แนว
ก็ด้วยแนวเสียงแบบนี้จึงทำให้ Kef R อาจไม่ได้ตรงสเปกใครหลายๆท่านโดยเฉพาะนักฟังระดับผู้ใหญ่ที่อาจจะชอบแนวเสียงโทน อิ่มๆ ฟังสบาย เนิบๆ หวานๆหน่อย
คือ Kef นั้นก็ฟังสบาย ฟังลื่นหู แต่มันไม่ใช่ึความลื่นหูในแบบที่ลำโพง B&W หรือ Elac เป็น แต่ทว่ามันเป็นความลื่นหูในอีกรูปแบบนึงที่แตกต่างออกไป หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็ แนวเสียงของมันมีความเป็นตัวของตัวเอง โทนเสียงมีความทันสมัยใหม่หน่อย มีความลื่นหูในแบบที่วัยรุ่นและใครก็ตามที่ถวิลหาความกระฉับกระเฉง ความชัด รายละเอียดที่คมชัด แต่ฟังสบาย ฟังง่าย ฟังสนุกไปพร้อมๆกันได้
จากการที่เราทดสอบและลองฟัง Kef R Series ให้ดีเทลและรายละเอียดสูงมาก แยกแยะรายละเอียด ชิ้นดนตรีได้ดี จากการทดลองทั้งดูหนังและฟังเพลง เราพบว่า Kef R นั้นเหมาะกับ AVR หรือ Pre Processor ที่โทนเสียงไปทางหนาหน่อย เพราะสาเหตุว่า Kef R ให้รายละเอียดดีอยู่แล้ว พอนำไปจับกับแอมป์ที่ให้โทนเสียงมันพลัง หนา จึงไปด้วยกันได้ดีมาก เช่น Anthem, Onkyo หรือ Marantz ก็ไปด้วยกันได้เช่นกัน
และด้วยคุณสมบัติเด่นๆของ Kef แบบนี้ พอนำมาใช้ดูหนัง สิ่งที่ผมจินตนาการว่า มันต้องบาง ไม่มีอิมแพค ดูหนังไม่สนุก เหมือนกับลำโพงฟังเพลงดีๆหลายตัว ที่ถ้าหากมันฟังเพลงดี เราก็ต้องสูญเสียบุคลิกที่ดีในการดูหนังไปบ้างนั้น สิ่งที่พบก็คือ Kef R Series ดูหนังได้ค่อนข้างดีมากทีเดียว มันมีความสมดุลย์อยู่ตรงจุดที่ใช้ฟังเพลงก็ได้ และใช้ดูหนังก็ทำได้ดีมากทีเดียว ในซิสเต็มที่ผมทดสอบ Kef R100 นั้นจะใช้อุปกรณ์ดังนี้
- Pre Anthem AVM60
- Emotiva XPA 5,3
- Kef R10
- Klipsch RC62 ii
- Klipsch RP250S
- SVS SB13 Ultra
ในหลักการแล้ว คู่หน้าและเซ็นเตอร์เราควรจะเป็นลำโพงโทนเดียวกัน ยี่ห้อและซีรี่ย์เดียวกัน แต่จากที่เราลองใช้งานและเปิดหนังดูไปหลายๆเรื่องแล้ว พบว่า เออออออ มันก็ไปกันได้ดี ฟังดี บางทีบางช่วงอารมณ์ ผมกลับชอบอารมณ์ของคู่หน้า Kef R100 มากกว่าคู่หน้าตัวเดิม Klipsch RP280F ซะอีก
ซึ่งความต่างของมันก็คือ Klipsch RP280F นั้นให้เเสียงพุ่ง สด เบสเยอะ อิมแพคหนัก ติดกระด้างนิดๆ ตามสไตล์ลำโพงดูหนังที่ดี แต่พอลองสลับมาใช้ Kef R100 แล้ว ผมกลับพบว่าคู่หน้าที่ซอฟท์ลง แต่ให้รายละเอียดได้ดีขึ้น แยกแยะมิติ ชั้น layer และดีเทลต่างๆได้ดีขึ้น ให้เสียงเล็กๆน้อยๆ ออกมาได้ชัดขึ้น เบสเล็กเบสน้อยออกมาทำได้ดี ชัดและเละเอียด จนส่งผลให้ผลักดันให้ลำโพงเซ็นเตอร์ของ Klipsch RC-62 ii และลำโพงเซอราวด์ RP250S ดูเด่นขึ้นไปอีกเพราะ โทนเสียงของคู่หน้ามันชัด แสดงรายละเอียดได้มาก ซอฟท์ลง โทนเสียงดูสุภาพลง เลยทำให้ไม่ไปกวนเสียงอื่นๆ จนทำให้แชนแนลอื่นๆ ดูชัดและเด่นขึ้น โดยเฉพาะเสียงพูดจากเซ็นเตอร์และเสียงเซอราวด์
ซึ่งจริงๆถ้าจับคู่กับเซ็นเตอร์ Kef R200C น่าจะเข้ากันและโทนเสียงดูซอฟท์และได้รายละเอียดที่น่าฟังกว่านี้ครับ (แต่ความดุ ความสด ความกระแทกกระทั้นนั้นก็คงสู้ klipsch ไม่ได้)
ลักษณะภายนอกของลำโพง Kef R100 นั้นสวยงามเหลือเกิน ตัวตู้ไฮกลอสสีดำวับเป็นเงา หน้าตาดูโมเดิร์นมากกว่าจะไปทางคลาสสิค คือถ้าเทียบกับ B&W หรือ Elac ที่ราคาเท่าๆกันแล้ว เราจะเห็นว่า โทนการออกแบบลำโพงนั้น ไปในทางที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเอาใจกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันด้วย ส่วนตัวผมมองว่า Kef R Series นั้นออกจะเอาใจคนที่ชอบความทันสมัย ดูโมเดิร์น ดูกระฉับกระเฉง ดูอายุน้อย ดูสมัยใหม่ มากกว่าเอาใจแฟนๆที่ชอบความคลาสสิค ชอบอะไรที่ดูลุคออกไปทางอบอุ่นๆและผู้ใหญ่ขึ้นมาแบบอีกสองแบรนด์ข้างต้น
Kef R Series เหมาะกับใคร
1. เหมาะกับคนที่ชอบโทนเสียงละเอียด ชัด ไม่หวาน ไม่ช้า ไม่อืด
2. เหมาะกับคนที่หาลำโพงในงบ 3 หมื่นบาทไปจนไม่เกินแสน
ราคาเข้าถึงได้ไม่แพงเกินไป ซึ่งในตัวเลือกนี้ก็จะไปชนกับคู่แข่งหลายค่ายไม่ว่าจะเป็น Elac, B&W, Monitor Audio Silver, PSB, Wharfedale หรืออีกหลายๆแบรนด์ แต่เอาเข้าจริงๆ กลายเป็นว่า Kef R เป็นแบรนด์และซีรี่ย์เดียวที่ให้โทนเสียงมีเอกลักษณ์และไม่เหมือนชาวบ้านในกลุ่มข้างต้นที่ยกตัวอย่างไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งโทนเสียงลำโพงในราคาระดับ 3หมื่น- 1แสนบาทนี้ส่วนใหญ่จะจูนกันมาเน้นความฟังง่าย สบาย กรุ๊งกริ้ง เอาใจคนที่มีกำลังซื้อระดับกลาง ที่ต้องการลำโพงฟังสบายๆซักหน่อย (ไม่รวม Klipsch) แต่ Kef กลายเป็นตัวเลือกเดียวที่แตกต่างในแง่ของเสียงที่ไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไร่ และที่สำคัญ Kef มันขับง่าย คือไม่ได้ขับยากอะไรมาก ถ้าให้เทียบก็ขับยากกว่า Klispch แต่ก็ขับง่ายกว่าลำโพงอื่นๆในท้องตลาดมากครับ แต่ถ้าจะให้มันแสดงศักยภาพออกมาได้ดี เราก็แนะนำว่าให้ใช้ AVR, Pre-Power ดีๆให้มันหน่อย รับรองคุณจะได้ยินอะไรดีๆจาก Kef R Series แน่นอน
3. เหมาะกับคนที่ชอบลำโพงตัวเดียว
และใช้มันไปได้ดีทั้งดูหนัง และฟังเพลง คือมันทำได้ดีทั้งสองอย่างจริงๆโดยไม่ต้องไปเค้น หรือไปรีดอะไร ไม่ต้องเอาอุปกรณ์ราคาแพง ไม่ต้องเอาเส้นสาย acessories อะไรไปยัดให้มันเสียงดีแต่อย่างใดครับ (แต่ถ้าใช้ของดี เสียงมันก็จะดีขึ้นไปอีก) แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เสียงดีทั้งดูหนังฟังเพลงนี่ มันบาล้านออกมาในจุดที่สมดุลย์กัน แต่มันก็ไม่ได้ไปถึงระดับลำโพงเฉพาะทางมากๆ เช่นลำโพงเน้นดูหนังจ๋าๆ อย่าง Klipsch หรือโทน THX อย่าง M&K, Klipsch THX Ultra2 หรือแบรนด์อื่นๆที่ไม่ขอพูดถึง
หรือการฟังเพลงมันก็ไม่ได้ไปถึงจุดแบบ Proac หรือลำโพงที่เน้นฟังเพลงมากๆตัวละเป็นแสนแบบนั้น
Kef R ทำได้สมดุลย์ทั้งสองอย่างในจุดหนึ่ง แต่จุดนั้นจะถูกใจคุณมั๊ย ผมไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆสำหรับผม มันเป็นลำโพงที่ดูหนังและฟังเพลงดีมาก จนแทบจะไม่ต้องแยกลำโพง ไม่ต้องแยกซิสเต็มแล้วก็ว่าได้ (ถ้าคุณไม่ได้หูทองมากจนเกินไป และถ้าคุณประนีประนอมกับมันบ้าง)
Kef R Series ไม่เหมาะกับใคร
1. ไม่เหมาะกับคนที่ชอบลำโพงสไตล์หวานๆ ช้าๆ laidbackๆ โทนอุ่นๆ นุ่มๆ ผู้ใหญ่ๆ เนิบๆ
2. ไม่เหมาะกับคนที่ชอบลำโพงสไตล์สดๆ บ้าพลัง แบบ klipsch แบบพวกลำโพง THX Kef R Series ทำได้ดีในระดับนึง แต่ไม่ได้จูนเสียงให้ไปในทางสายพลังครับ
จบแล้วครับ กับ Kef R100 โทนเสียง ข้อดี ข้อเสีย หากใครคิดว่าตัวคุณลองผิดลองถูกกับลำโพง Home Audio ทั่วๆไปมามากแล้ว และอยากได้ลำโพงตัวเดียวในชีวิตที่ใช้มันได้ทั้งฟังเพลง และดูหนังก็ดีด้วย โดยไม่ต้องไปยุ่งยากหาชุดแยกซิสเต็มหลายๆชุดแล้วละก็ เราอยากจะบอกว่าให้ลองพิจารณา Kef R Series ดูครับ มันอาจะเป็นคำตอบที่คุณกำลังค้นหาอยู่ก็ได้
แต่สำหรับผม ถ้าถามว่า ให้เลือกลำโพงที่ดูหนังและฟังเพลงดีในตัวเดียวกัน ผมก็คงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจาก Kef R Series....
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |