DTS Play-Fi

DTS Play-Fi คืออะไร  เราเคยเห็นแวบๆในเครื่องเล่น AVR, Int Amp หรือแม้แต่ Pre-Pro รุ่นใหม่ๆ บางเครื่องใช้มั๊ยครับ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร และทำงานยังไงอยู่ดี  วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่า DTS Play-Fi สำคัญและกำลังจะมาพลิกบทบาทการฟังเพลง และการ Streaming เสียงแบบไร้สายคุณภาพสูงในอนาคตกันอย่างไร

DTS Play-Fi เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการ streaming เพลงคุณภาพสูงของค่าย DTS  โดยใช้ Wifi บ้าน ทำหน้าที่ร่วมกันระหว่างของสองสิ่งได้แก่ 

   1. เครื่องเล่นที่รองรับ DTS Play-Fi เช่น Int Amp, AVR, Pre, Sound bar

   +เชื่อมต่อผ่าน Wifi บ้านร่วมกันกับอุปกรณ์สำหรับแสดงผลต่างๆ+

   2. อุปกรณ์แสดงผล เช่น Smart Phone, Ipad, PC หรือเครื่องเล่นต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น IOS, Android, PC (window), Kindle fires เป็นอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่มันสามารถต่อ wifi ได้และโหลด app DTS Play-Fi มาลงได้ แค่นั้นพอครับ  ส่วน app นั้นสามารถโหลดได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น Google Play, App Store หรือบน Internet ทั่วๆไป

 

มีอุปกรณ์แค่สองอย่างนี้ก็เล่นเพลงได้ทุกอย่างแล้วครับ ไม่ต้องใช้เน็ทมือถือ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องกลัวช้า เพราะเราใช้ wifi สตรีมได้ทุกอย่าง โดยการทำงานเมื่อเชื่อมอุปกรณ์เครื่องเล่นกับมือถือเราแล้ว จะมี content ให้เล่นได้มากมายไม่ว่าจะเป็น 

Amazon Prime Music, Deezer, iHeartRadio, KKBox, Napster, QQ Music, Pandora, SiriusXM, Spotify, Tidal และ Internet Radio อีกเป็นพันสถานี

 

content นั้นมีทั้งฟังฟรีและแบบเสียตัง และสตรีมได้ทุกอย่างตั้งแต่ไฟล์ความละเอียดต่ำอย่าง mp3   ไปจนถึง lossless อย่าง Flac, WAV เลยทีเดียว
รวมถึงสามารถคอนโทรลการเล่นแบบ Multi room แยกห้อง แยกลำโพง เปิดและปิดเสียงแยกกันได้อิสระอีกด้วย  มันจะมาแทนเทคโนโลยี Blutooth และ Airplay, Google cast แบบเก่าๆด้วยครับ


DTS Play-Fi มีผู้ผลิตในอุตสา่หกรรมเครื่องเสียงเข้าร่วมมากมาย ซึ่งมีทั้งออกผลิตภัณฑ์ที่รองรับมาแล้ว และกำลังจะออกในอนาคต ได้แก่

Rotel : Rotel RA1592

Anthem : Anthem AVM60, Anthem MRX X20 series เช่น MRX1120, 720, 520

Klipsch : New Sound Bar ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่
"Klipsch Stream Wireless Multi-Room ecosystem"

Onkyo : Onkyo NCP-302 และกำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่รองรับ STS Play-Fi ในปี 2017

SVS : Soon

Mcintosh : MB50 Streaming Audio Player และ RS100 Wireless Speaker 

Sonus Faber : Sf16


 

จะเห็นว่าค่ายเครื่อเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Klipsch, Anthem, Rotel, Onkyo, Paradigm, Mcintosh, SVS และอีกหลายๆเจ้า รวมถึงที่กำลังพัฒนาและเตรียมจะเข้าร่วมอย่าง SVS อีกด้วย  โดยเทคโนโลยี Play-Fi ที่ถูกนำไปใช้นั้นก็หลากหลายกันไปแล้วแต่บริษัท เช่น

  - Klipsch ได้นำ DTS Play-Fi ไปใช้ร่วมกับ Sound bar ตัวใหม่ ทำให้ Sound bar รุ่นใหม่ของ Klipsch จะรองรับการสตรีมเสียงแบบคุณภาพสูงแบบไร้สายและ multi room และสามารถเอา sound bar มาเชื่อมต่อกันได้หลายๆตัว ทำเป็นระบบเสียง Multi channels ได้ด้วย




  - Play-Fi Surround (Play-Fi sound bar)  ระบบนี้สามารถนำเอาเทคโนโลยี Play-Fi มาใช้ร่วมกับลำโพง Surround ได้แบบไร้สาย โดยสามารถส่งสัญญาณเสียงไปเพื่อสร้างเสียง surround แบบไม่ต้องใช้สายลำโพง ส่วนค่ายไหนจะใส่เทคโนโลนี้เเข้ามานั้น ต้องอดใจรอต่อไป



 - Critical Listening Play-Fi รองรับการฟังเพลงแบบคุณภาพสูง ร่วมกับอุปกรณ์เล่นเพลงคุณภาพสูง โดยไม่ต้องใช้สาย  ซึ่งนับวันอุปกรณ์คุณภาพสูงเช่น int amp แพงๆ หรือ Network Player ยิ่งจำเป็นที่จะต้องรองรับการเล่นเพลงจากไฟล์มายิ่งขึ้น เพราะการเล่นผ่านสาย ผ่าน cd นั้นนับวันยิ่งได้รับความนิยมลดลง


 - A/V Synchronization

ต่อไปการดูหนังฟังเพลงผ่านคอม หรือแท๊ปเลตจะเปลี่ยนโฉมไป เราจะไม่ต้องทนฟังลำโพงเล็กๆของคอม หรือลำโพงแท๊ปเลตที่เสียงป้องแป้งๆ อีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยี Play-Fi เราสามารถเลือกเครื่องคอมที่รองรับ Play-Fi และแค่เปิด video mode และส่งสัญญาณเสียงไปให้อุปกรณ์เครื่องเล่นที่รองรับ Play-Fi เช่น Int amp, AVR หรือแม้แต่ Sound bar เพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าลำโพงของเครื่องคอมได้ด้วย


จะเห็นว่าที่กล่าวมาข้างบนนั้นจะเปลี่ยนวิถีชีวิตการฟังและคุณภาพเสียงของเราในการดูหนังฟังเพลงไปเลย และที่สำคัญเราไม่ต้องเปลี่ยนการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย เพราะวันๆนึงเราก็ต้องอยู่กับ Wifi บ้านอยู่แล้ว  แต่เรามีอุปกรณ์เครื่องเล่นที่รองรับ Play-Fi   เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งตัว แค่นี้เราก็สามารถสตรีมเสียงทุกอย่างเข้าไปที่อุปกรณ์นั้น สามารถเล่นผ่านลำโพงใหญ่ได้สบายๆครับ

ทั้งนี้ feature ต่างๆที่สำคัญของ Play-Fi มีดังนี้
– สามารถสตรีมมิ่งแบบ Lossless ได้
– เล่นได้หลากหลาย แบบ Multi Room , Multi Zone
– เลือกลำโพงแบบซ้ายขวาได้
– เล่นไฟล์ High-Resolution(24bit/192kHz) ได้
– สามารถส่งผ่านคลื่น 2.4 GHz หรือ 5GHz
– สามารถส่งข้อมูลผ่าน สาย LAN และ PowerLine ได้
– รองรับทั้ง iOS Android Windows PCs หรือแม้กระทั่ง Kindle Fire

การใช้งานเบื้องต้นคือ โหลด Application มาใส่ในเครื่องเล่น iPhone iPad หรือ Android หรือคอมแล้วส่งเพลงไปยังอุปกรณ์ปลายทางที่รองรับ DTS Play-Fi ผ่านทาง Wifi

Play-Fi-01


คารางเปรียบเทียบการสตรีมมิ่งเสียงว่า DTS Play-Fi ทำอะไรได้บ้าง

Play-Fi-Compare-AirPlay-Sonos-GoogleCast


ที่นี้เห็นความสำคัญของ DTS Play-Fi ในอนาคตกันหรือยังครับ  อย่าลืมว่า เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่ซัพพอรท์อนาคต ย่อมดีกว่าและคุ้มค่าและมี content ให้เล่นได้หลากหลาย  อุปกรณ์ตอนนี้ในบ้านเราที่รองรับ DTS Play-Fi ก็มีดังนี้
Anthem AVM60, Anthem MRX X20, Rotel RA1592 และ Soundbar Klipsch รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวปีหน้า รวมถึง SVS ด้วยครับ