วันก่อนเราได้มีโอกาศเอาชุดดูหนัง Klipsch Reference Premier 5.1.2 ไปส่งที่บ้านลูกค้าที่สิงห์บุรีมาครับ ซึ่งช่วงเดือนนี้ผมวิ่งไปวิ่งมาสิงห์บุรีบ่อยมาก 3-4 ครั้งแล้วในรอบเดือน ซึ่งก็ไม่ไกลมากครับ ถนนหนทางดีมาก ธรรมชาติงดงาม ดูวิวทุ่งนาสองข้างทางเพลินดี
เข้าเรื่องเลยก็คือวันนี้มีโอกาศมาเล่าความประทับใจกับชุดนี้ครับ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมชุดนี้ถึงดูไม่หรูหราหรือ มีห้องสวยๆใหญ่ๆ เหมือนทีผมเคยลงในเว็บ
เนื่องจากผมได้รับโจทย์มาจากเจ้าของบ้านว่า อยากจะมีชุดดูหนังดีๆ สักชุด เพื่อเอามาใช้ดูหนังฟังเพลง ทำกิจกรรมในบ้านคลายเหงาในชีวิตหลังจากเกษียณจากการทำงาน และย้ายจากเมืองใหญ่มาซื้อที่อยู่ที่สิงห์บุรีแบบนี้
หลังจากเข้าไปในบ้านลูกค้าก็เจอบ้านสวน ร่มรื่นครับ น่าอยู่ อาจจะดูธรรมดาแต่ก็รู้สึกว่ามีความเป็นกันเอง เป็นบ้านทั่วๆไปที่เราสามารถเจอได้ทุกที่ ทุกแห่ง ไม่ต้องเป็นบ้านแพงๆ หลังใหญ่ๆ มีห้องอลังการถึงจะเล่นเครื่องเสียงได้
ตอนนี้ลูกค้าอยู่ในระหว่างการทำห้อง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราถึงวางกองๆ กันเป็นตับ ดูไม่สวยงามและไม่ได้ตำแหน่งที่ดี แต่วันนี้เราแค่ไปส่งของ ไปดูสถานที่ ไปต่อให้เสียงออก ให้ลูกค้าฟังเพลงเบิร์นไปก่อนระหว่างรอห้อง และก็ไปตัดสาย มาร์กจุด และทิ้งสายไว้ให้ช่างมาเดินสาย รอมาติดตั้งกันอีกทีในวันข้างหน้าครับ
โดยซิสเต็มที่เราขนไปให้ลูกค้าก็มีดังนี้ครับ
1. Klipsch RP280F
2. Klipsch RC-64 ii
3. Klipsch RP250S
4. Klipsch R115SW (มือสอง ตัวโชว์ของเราเอง)
5. Klipsch CDT 5650 CII x 2 (Atmos)
6. Onkyo RZ810
7. สายลำโพง Klotz 2.5mm, 1.5mm
8. สายซับ Inakustik
9. สาย Hdmi Kaibour
เริ่มกันที่เราล้อหมุนตอน 10 โมงตรง หลังจากนั้นเราก็ขับมุ่งหน้าไปเรื่อยๆแบบไม่รีบร้อน (ของเยอะ ห้ามซิ่ง) ตามเส้นทางมุ่งสู่สิงห์บุรี ซึ่งจริงๆก่อนหน้านั้นเราเคยเอาซับ R115SW ตัวโชว์ และ RC-64 ii มาทิ้งไว้ให้ลูกค้าแล้วครั้งนึง
แต่พอเอาเข้าจริงๆ ครั้งนี้เรามาถึงแต่ดันหลงทางและหาบ้านลูกค้าไม่เจออยู่ดี หายังไงก็หาบ้านลูกค้าไม่เจอครับ กำลังนั่งฉงนอยู่ โทรถามทางลูกค้า ดู Location มันก็อยู่ตรงจุดเรานั่นแหละ แต่หากันไม่เจอ (หรือเธอไม่ใช่ ฮาๆ) สุดท้ายเราพบว่าบ้านลูกค้าก็อยู่ตรงนั้นนะแหละ แต่เรามองหาผิดฝั่ง หลงทิศ ดันมองฝั่งซ้าย แต่บ้านลูกค้าอยู่ฝั่งขวา เอิ่ม...
ไปถึงเราก็จัดการลุยกันก่อนเลย ใครคิดว่างานเบา ไม่มีอะไรเราอยากให้คิดใหม่นะครับว่า การขนลำโพงหนัก 20-30 กิโลออกมาจากกล่อง และติดตั้ง เข้าหัว ต่อเข้าระบบ จัดวาง เซ็ทอัพให้เสียงมันพอฟังได้ งานแค่นี้ก็เรียกเหงื่อจากเราและกินเวลาไปร่วม 2 ชั่วโมงกว่าแล้วครับ
งานนี้เราค่อยๆช่วยกันคนละไม้คนละมือ ส่วนเจ้าของบ้านก็นั่งดูไปอย่างเพลิดเพลินครับ อิอิ เอาของออกมาวางเรียงกันหมด ตรวจความเรียบร้อย เห็นหน้าตาลำโพง Klipsch ทุกตัว เห็น avr onkyo RZ810 แล้วก็ชื่นใจ หอมกรุ่นกลิ่นใหม่จากลำโพงและแอมป์จริงๆ
ทีนี้ปัญหาคือ ลูกค้ายังไม่มีอะไรเลยครับ ไม่มีทีวี ไม่มีเครื่องเล่น ไม่มีห้อง (ห้องกำลังทำอยู่ชั้นบน) โจทย์คือ จะเอาของมากองไว้เฉยๆกลางบ้านมันก็กระไรอยู่ เราจึงต้องหาทางต่อเข้าระบบและลองเสียงให้ลูกค้าเปิดเบิร์นฟังเพลงเล่นๆรอไปจนกว่าห้องจะพร้อม เราจึงจะเข้ามาลุยกันอีกทีครับ
ทางออกก็คือ เราจึงหา thumb drive มาเสียบเข้าช่อง usb ของ avr onkyo rz810 แล้วจัดการเข้าหัวบานาน่าสายลำโพงและต่อระบบเป็น 3.1 แชนแนลให้ลูกค้าฟังเล่นๆไปพลางๆ
ส่วนเซอราวด์นี่ ลูกค้าเอาวางไว้เฉยๆครับ ยังไม่ได้ต่อเข้าระบบเนื่องจากสายต้องใช้เดินขึ้นฝ้าในห้องใหม่ เราเลยไม่อยากตัดสายเพื่อต่อลำโพงให้มันเสียเปล่า
ดังนั้นในรูปจะเห็นว่าเซอราวด์ก็ตั้งเอาไว้เท่ๆแบบนั้นแหละครับ ฮาๆ แต่ยังไม่มีเสียง
ส่วนลำโพง atmos ก็ยังไม่ได้ต่อครับ วางไว้เท่ๆแทนจานข้าวไปก่อน อิอิ
ซึ่งตัว klipsch CDT5650 ตัวนี้ใช้ driver ขนาด 6.5 ตัวทวีตเตอร์ตรงกลางปรับระดับ หมุนและหันทิศทางเพื่อโฟกัสเสียงให้ลงมาบนจุดที่คนนั่งดูได้แม่นยำยิ่งขึ้น (ทวีตเตอร์คือไอ้ตัวจุกตรงกลางกลมๆ)
ในกล่องจะแถม template เอาไว้นาบเพื่อวัดรอยเจาะฝ้าไว้ด้วย และก็มีตะแกรงสีขาวไว้ปิดเพื่อความเรียบร้อย แต่เอาเข้าจริงๆผมกลับชอบหน้าตาดิบๆของมันตอนไม่มีตะแกรง โชว์ดอกลำโพงสีทองแดงมากกว่า มันดูดิบ ดูเท่ดีครับ แต่ถ้าไม่ปิดตะแกรง ผมมั่นใจว่าฝั่นเกาะตรึมแน่นวล...
ทีนี้พอต่อเข้าระบบเป็น 3.1 เสร็จแล้ว ก็จะมี Klipsch RP280F ลำโพงตั้งพื้นตัวท้อปของ Klipsch Reference Premier ดอกขนาด 8 นิ้วสองดอก
และก็มีลำโพงเซ็นเตอร์ระดับพระกาฬที่คุณภาพนั้นยอดเยี่ยมจนแม้แต่คนขายอย่างผมยังต้องขอเก็บสต๊อกเอาไว้ใช้เอง เพราะกลัวว่าเดี๋ยวถ้ามันเลิกผลิด หรือหาของไม่ได้แล้วจะอด ก็ยังยืนยันว่าในงบไม่เกิน 4 หมื่นบาท มีลำโพงเซ็นเตอร์ตัวไหนที่ผมชอบที่สุด (ชอบนะ ไม่ได้บอกว่าดีที่สุด) ก็ต้องบอกว่าผมชอบ RC-64 ii มากที่สุด เพราะเสียงจากทวีตเตอร์ขนาดใหญ่กว่าปกติ 1.75 นิ้ว ที่ให้เสียงละเอียด ชัด เหมาะกับการดูหนัง และให้อารมณ์ได้ดีแบบสุดๆ
และก็มีกิมมิจเล็กๆน้อยๆ คือ Rc-64 ii รุ่นนี้มัน made in usa ใช่มั๊ยครับ ดังนั้นป้าย Plate ด้านหลังของลำโพง มันก็จะมีลายเซ็นประกบทุกตัวว่าผ่านการเทสมาแล้ว ทีนี้ผมขายลำโพงตัวนี้มา ผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปและดูทุกครั้งว่า ครั้งนี้ใครเป็นคนเซ็น (ว่ะ) หลายครั้งที่ดูก็เจอลายเซ็นไม่ค่อยซ้ำกันเลยครับ แสดงว่าวิศวกรที่เช็คและ qc ลำโพงที่โรงงานในอเมริกาน่าจะมีหลายคนนะ ...
ทีนี้มาถึงตัวลำโพงเซอราวด์ RP250S ตัวนี้เป็นลำโพงแบบไบโพล คือยิงเสียงกว้าง ไม่ได้ยิงเสียงตรงเหมือนลำโพงบุ๊กเชลฟ์ที่เรานิยมใช้ในคู่หน้า ข้อดีคือเสียงมันกว้างและได้น้ำหนักเสียงที่ดี เสียงกระจายทั่วถึงคลุมทั่วห้อง คลุมหัว คลุมไหล่ เหมือนอาบเสียงเซอราวด์ดี ซึ่งตัวนี้ผมชอบมากๆครับ เสียงดี ทีห่้องผมก็ใช้รุ่นนี้อยู่คู่นึงเหมือนกัน เสียงใช้ได้เลยทีเดียว
ตัวลำโพงใช้ดอกขนาด 5.25 นิ้ว เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมนิดหน่อยตรงที่รุ่นเดิมจะสลับการวางดอกวูฟเฟอร์กับทวีตเตอร์ไว้สลับข้างกัน ส่วนรุ่นนี้วูฟเฟอร์กับทวีตเตอร์จะอยู่ระดับเดียวกันทั้งสองด้าน (ทวีตเตอร์อยู่บน วูฟเฟอร์อยู่ล่าง)
ไซส์ลำโพงเล็กลงกว่าตัวเดิม ใช้ผิวลำโพงแบบไวนิล สวยหรูขึ้นเยอะ แต่ก็มีข้อเสียที่มันเป็นรอยง่ายกว่า และก็มีสิทธิ์ที่ผิวไวนิลมันจะลอกได้ ตัวโชว์เราก็ลอกที่ผิวด้านฐานใต้ลำโพง (นิดนึง)
และมาถึงตัวซับ ลูกค้าตัดสินใจใช้ซับขนาดไซส์ใหญ่สุดของ klipsch นั่นคือ R-115SW ตัวนี้เราขนมาให้ลูกค้าเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่เพิ่งจะได้มีโอกาศมาเปิดลองกันวันนี้
ซึ่งตัวนี้ลูกค้าได้มาแบบราคาย่อมเยาว์ เพราะได้ราคาตัวโชวืของร้านเราไป ซึ่งสภาพนั้นก็ต้องบอกว่าใหม่มากๆ และมันผ่านการเบิร์นมาเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ลองเปิดที่ห้องนั่งเล่นลูกค้า เบสก็พั๊นซ์ออกมาเป็นลูกๆดี และกระชับหนักดีมากๆแล้วครับ
ตัวนี้เป็นซับอีกตัวนึงที่เหมาะกับการดูหนังมากครับ เสียงเป็นแบบตู้เปิดที่หนัก และกระชับเป็นลูก แต่ละจังหวะที่สำรอกเบสออกมานั้น ได้ลูกหนัก และได้ลูกลึก (ลงได้ 18 Hz) ข้อดีตือเบสดุเดือด สะใจ ดูหนังมัน ไม่ครางมาก สั่นกำลังดีไม่ลากยาว บทจะหนักก็กระชับและพั๊นซ์ดี บทครางก็แน่นใช้ได้ ข้อเสียคือเบสลึกๆมันอาจจะไม่คม และโน๊ตอาจจะไม่ละเอียดเหมือนพวกตู้ปิด ซึ่งนั่นก็ต้องยอมรับในเอกลักษณ์ของตู้เปิดครับ และก็อย่าลืมว่าราคามันแค่ 3 หมื่นกว่าเท่านั้นเอง แต่ให้เสียงได้ระดับนี้ ส่วนตัวผมพอใจแล้วครับเมื่อเทียบราคากับคุณภาพที่ได้ จะหาซับที่ดูหนังดีกว่านี้ ผมก็นึกไม่ออกว่าในงบนี้จะเล่นอะไรดี แต่ถ้างบมากกว่านี้ก็พอจะมีแหละครับ แต่ก็ต้องจ่ายเพิ่ม ได้อะไรเพิ่มมา แต่ก็ต้องเสียอะไรไปเหมือนกันนะ (klipsch มันก็คือ klipsch นั่นแหละครับ มันมีเอกลักษณ์เสียงของมันที่ฟังแล้วยี่ห้ออื่นยากที่เลียนแบบ)
ส่วนมาถึงหัวใจและภาคประมวลผล และขุมกำลังของระบบทั้งหมดของลูกค้าท่านนี้ ก็เลือกใช้ AVR Onkyo RZ810 ซึ่งเสียงดีครับ เสียงแนวดูหนัง เหมือนเอา Pioneer มาผสมกับ marantz และเหยาะ yamaha ลงไปนิดๆ เสียงออกมาจึงไม่แสบหูและจัดจ้านเท่า pioneer แต่ก็ได้ลูกหนัก ได้ความพอดีจาก marantz และได้รายละเอียดเสียงจาก yamaha มานิดๆ
ฟังดูเหมือนเป็ดเลยครับ 5555 แต่มันก็เป็นเป็ดที่ผมฟังแล้วโอเคกับเสียงมันนะ ฟังดี ดูหนังมัน แนวเสียงจะร๊อคๆหน่อย ไม่หวาน แต่เป็นแนวที่ดิบๆ สนุก ใครจะดูหนังก็อยากให้ลองเก็บตัวนี้ไว้ในลิสต์ดูก่อนนะครับ ส่วนตัวผมโอเคกับเสียงตัวนี้มากกว่า marantz ซะอีก
ข้อเสียคือรองรับแค่ 7.2 แชนแนล ถ้าจะเล่น atmos ก็เล่นได้แค่ 5.2.2 เองครับ แต่ถ้าใครไม่คิดจะเล่นมากกว่านี้ ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าน่าเล่น
ถ้าใครจะต่อลำโพงมากกว่านี้ ก็ต้องข้ามไปดูตัวอื่นจ้า
สรุป ส่งท้ายหลังจากต่อระบบให้ลูกค้าได้ฟังเพลงเล่นๆไปก่อนแล้ว เราก็เดินไปดูสถานที่ ดูห้อง มาร์กจุด และวัดระยะสายที่ต้องใช้ พร้อมทั้งทิ้งสายไว้ให้ช่างที่จะมาทำห้องได้ลากขึ้นฝ้าทิ้งไว้ให้
กว่าจะเสร็จงานออกจากบ้านลูกค้าก็เกือบ 4 โมงเย็นครับ เหนื่อยเหมือนกัน แต่เป็นความเหนื่อยที่สนุกและมีความสุขดีที่ได้เห็นผู้ชายอายุ 60 ขึ้นไป มีความสุขและได้ตามความฝันของตัวเองตอนแก่ ตอนเด็กเราอาจจะอยากได้ของเล่น อยากได้เครื่องเสียงแพงๆ อยากได้ทีวีจอใหญ่ แล้วมันไมไ่ด้ แต่พอหมดภาระ ปลอดเปลื้องหน้าที่การงานจนเข้าสู่วันเกษียณ สุกงอมด้วยวุฒิภาวะที่จะตามใจและตามความฝันตัวเองได้แล้ว
เมื่อวันนั้นมาถึงก็เป็นความสุขของผู้ชายคนนึงที่ผมแอบเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่ดูมีความสุขและตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่ชิ้นนี้ครับ
เราเดินทางกลับพร้อมกับความเหนื่อย เอ้ย ความสุข สุดท้ายขอบคุณผัดกระเพราะจากลูกค้าที่ซื้อมาเลี้ยงระหว่างที่เราง่วนทำงานกันอยู่ และขอบคุณมิตรภาพและความจริงใจที่มีให้กันครับ
ขอบคุณครับ ....
ราคา Klipsch RP280F: http://www.whatthatsound.com/product/12/klipsch-rp-280f
ราคา Klipsch RC-64 ii black: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black
ราคา Klipsch RP-250S: http://www.whatthatsound.com/product/21/klipsch-reference-premier-rp-250s
ราคา Klipsch R115SW: http://www.whatthatsound.com/product/3/klipsch-r-115sw
ราคา AVR Onkyo RZ810: http://www.whatthatsound.com/product/367/onkyo-tx-rz810
หน้าที่เข้าชม | 2,192,238 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,075 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |