Marantz รุ่นใหม่มากันแล้ว 7011, 6011, 7703, NR1607
ในที่สุด Marantz ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อีกเจ้าที่มีแฟนๆชาวไทยอยู่มากมายก็เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดออกมาแล้ว โดยจะมี AVR รุ่นเรือธงอย่าง
- SR7011
- SR6011
- AVR รุ่นเล็ก NR1607
- Pre/Pro 7703 ที่มาแทนรุ่นเดิมที่เกือบจะครองตลาด prepro ราคาประหยัดในบ้านเราไปแล้วอย่าง 7702 mkii
ทีนี้รุ่นใหม่มีอะไรใหม่ๆบ้าง ก็ต้องดูกันทีละตัว เริ่มตั้งแต่
SR7011: เริ่มตั้งแต่ระบบเสียงที่รองรับแบบครบๆตั้งแต่ Dolby Atmos, DTS:X & Netural:X 11.1 และ Auro 3D ที่วงเล็บไว้ว่า optional upgrade ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเสียตังก่อนมั๊ยถึงจะใช้ได้ ส่วนจำนวนแชนแนลก็รองรับ 9.2 channels (แบบที่เสียบสายลำโพงแล้วมีไฟปล่อยออกมาใช้งานได้เลย) และภาค pre รองรับ 11.2 channels (คือต่อ 11.2 ได้ แต่อีก 2 แชนแนลมันจะไม่มีไฟ ต้องหา power amp มาต่อเพิ่ม แต่ใช้ 7011 เป็นภาคปรีได้นะจ๊ะ) และรองรับ pre-out ได้ 13.2 channels
กำลังขับเคลมไว้ที่ 200 วัตต์ต่อแชนแนล ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ 6 โอห์ม ถ้าวัดที่ 8 โอห์มอาจจะตกอยู่ประมาณ 130-145 วัตต์อะไรประมาณนี้ ซึ่งรุ่นเก่า 7010 จะมีกำลังอยู่แค่ 120-125 วัตต์เท่านั้น
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆก็รองรับแบบครบๆ ตั้งแต่ New Audyssey app, MultEQ XT32/Sub EQ/LFC และให้ช่องต่อ HDMI inputs 8 ช่อง และช่อง HDMI outputs อีก 3 ช่อง (จะต่อจออะไรกันเยอะแยะ) ที่รองรับ 4K, HDCP 2.2, HDR และ BT2020,และก็มี WiFi built-in มาเลย (2.4 and 5GHz)
ก็นับว่าฟีเจอร์ล้นและอลังการมากๆ ราคาขายก็ต้องสูงกว่าเก่าขึ้นไปอีกแน่นอนนะครับ (เมืองนอกตั้งไว้ที่ 1399 ปอนด์) ราวๆ 7 หมื่น
นอกนั้นก็มีฟังชั่นที่มีไว้เป็นน้ำจิ้มแต่ไม่ค่อยได้ใช้อย่าง Spotify Connect, AirPlay, DSD, Hi Res Audio and gapless playback และระบบ multi-room ที่บิ้วอิน HEOS มาให้ด้วย
และรุ่นใหม่เมืองนอกมากัน 2 สีคือสีดำ และสี Sivler-gold ส่วนในบ้านเราคงเข้ามาแค่สีดำตามเคยจ้า
SR6011 มาพร้อมกับฟังชั่นระบบเสียงเหมือนๆกับตัว 7011 แต่จำนวนแชนแนลที่รองรับจะอยู่ที่ 9 channels (แบบมีไฟ) กำลังขับแต่ละแชนแนลอยู่ที่ 185W (ตัวนี้กำลังน่าจะพอๆกับตัว 7010 ตัวเก่าครับ) และรองรับ 11.2-channel processing และก็ 13.2-channel pre-outs นอกนั้นฟังกชั่น ก็เหมือนๆกับรุ่น 7011 ทุกประการ เพียงแต่ลดช่อง hdmi out มาแค่ 2 ช่อง (ซึ่งก็น่าจะพอแล้วล่ะ)
สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 999 ปอนด์ เมืองไทยก็น่าจะราวๆ 5 หมื่นกว่าๆ ตัวนี้ดูจากราคาแล้วจะมาแทนตัว 7010 นี่ละ คือลดเกรด 7010 ลงมาอยู่สเปกเท่า 6011 แต่เพิ่มประสิทธิภาพรุ่นเรือธงอย่าง 7011 ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
NR1607 สุดท้ายน้องเล็ก รุ่น slim ที่เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการระบบอะไรมาก เพียงพอกับช่องใส่เล็กๆ น่ารักๆ กำลังพอเพียง ชุดเล็กๆ ฟังกันในครอบครัวสบายๆ ไม่ต้องฟังชั่นหรูเลิศอะไรมากมาย แค่นี้ก็ฟินแล้วกับราคาย่อมยาว์ๆแค่ 599 ปอนด์ หรือแค่ ประมาณ 30,000 กว่าบาทไทย (เดาว่า mi คงตั้ง 43,900 อะไรประมาณนี้)
ฟังชั่นก็รองรับ 7 แชนแนล (5.1.2) ที่ 90 วัตต์ และในสเปกก็ไม่ระบุว่ามีช่อง preout แต่อย่างใด จึงเดาว่าคงตัด pre-out ออกเพื่อความประหยัด ดังนั้นใครที่ชาตินี้ไม่คิดจะหา power amp มาต่อ ตัวนี้ก็น่าสนใจและคุ้มดี ใช้ฟังชั่นที่มีอย่างคุ้มๆครับ
สุดท้ายกับ prepro 7703 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับราคาสุดสะพรึงสะท้านเศรษฐกิจโลก กับราคา 1,699 หรือเกือบๆ 90,000 บาทเลยทีเดียว
ถามว่ามันมีดีอะไร ก็รองรับ 11.2 channels, ขั้วต่อแบบ XLR และ RCA outputs
มี 13.2 preouts และ 7.1-channel inputs.
7703 ใช้วงจรแบบ HDAM preamp เพื่อคุณภาพเสียง และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.4, DTS:X & Neural:X 11.1 และ Auro-3D (optional upgrade สงสัยจะเสียตังค์ หรือเปล่า). และก็มี Audyssey อะไรทั้งหลายแหล่ให้มาตามสเตป
มี 8 HDMI inputs, 3 HDMI outputs รองรับ 4K, HDCP 2.2, HDR, BT2020, built-in WiFi (2.4 and 5GHz) และ Bluetooth.
นอกนั้นก็ฟังชั่นน้ำจิ้มอย่าง Spotify Connect, AirPlay, DSD, Hi Res Audio, gapless playback,multi-room ที่รองรับ HEOS. และมากับสีดำสีเดียวที่คาดด้านข้างด้วยอลูมิเนียมดูสวยหรูขึ้น (หรือเปล่า)
ทุกรุ่นกำหนดเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนที่เมืองนอก
ส่วนเมืองไทยมาดูกันว่า MI จะใจป้ำเอาเข้ามาได้เร็วแค่ไหน (ถ้าล้างสต๊อกรุ่นเก่าที่ค้างอยู่ตามร้านใหญ่ๆทัน อิอิ)
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |