เมื่อวานผมได้อ่านโพส FB ของพิธีกรชื่อดังท่านนึงที่ผมติดตามผลงานอยู่ เนื้อความก็ประมาณว่า สนใจอยากจะเล่นเครื่องเสียงและได้ไปปรึกษากูรูทั้งหลาย ประเด็นก็คือพิธีกรท่านนี้จุดประเด็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ นั่นคือ ทำไมเราเลือกลำโพงดีๆ ราคาแพงแล้ว เรายังต้องซื้อแอมป์แพงๆอีกละ?? อ่านจบผมก็นั่งคิดขึ้นมาว่า ปัญหาของนักเล่นเครื่องเสียงมือใหม่ ที่มักจะพลาดกันบ่อยๆ รวมถึงผมเองแรกๆก็พลาดนั่นคือ
"เรามักจะพยายามไปลด cost ของสิ่งที่ไม่ควรจะไปลด"
ถ้าคุณใช้ลำโพงราคา 1 แสนบาท แต่ดันใช้แอมป์ราคา 2 หมื่นบาทมาขับ ถามว่าเสียงของลำโพงตัวเก่งตัวนั้นมันจะ คุ้มค่า เฉิดฉาย เจิดจรัสสมกับราคามันมั๊ย ผมจะยังไม่ตอบคำถามนี้ครับ เพราะบริบทของคำว่าคุ้มค่านั้นมันมีหลายมิติ
หรือคุณใช้แอมป์ราคา 1 แสนบาท มาขับลำโพงราคา 2 หมื่นบาทละเสียงมันจะสู้ด้านบนที่ใช้ลำโพงราคาแพงได้รึเปล่า
คำตอบของทั้งสองคำถามนั้นคือ "ไม่รู้ครับ" ไม่ได้ตอบกวน...นะครับ แต่มันไม่มีใครตอบได้หรอก จนกว่าคุณจะลงรายละเอียดมาว่า ไอ้แอมป์และลำโพงราคาหนึ่งแสน และราคา2 หมื่น ทั้งคู่เนี่ยมันคือตัวไหน รุ่นไหน และยังมีเรื่องความแมทชิ่งกันอีก บางทีแอมป์ถูก ลำโพงถูก แต่แมทกัน เสียงก็ดีกว่าของราคาแพงกว่าแต่ไม่แมท บางคนบอกจริงๆรึเปล่า ของราคายิ่งแพงต้องยิ่งดีสิ
ความแมทชิ่งคือหัวใจของการเล่นเครื่องเสียงครับ ผมยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติคุณ ไปได้ลำโพง NHT มาตัวนึงราคาค่าตัวมันก็ 3-4 หมื่นบาท ตัวตู้หรูหราไฮเอ็นด์เชียว ราคาลำโพงไม่แพง ก็ไม่เห็นต้องใช้แอมป์แพง แต่ลำโพงประเภทนี้ถ้าเอาแอมป์คุณภาพกลางๆราคาพอๆกับตัวลำโพงมันมาขับ เสียงจะไม่เอาอ่าวเอาทะเลเลย เพราะมันขับยากไง การเลือกลำโพงว่าจะใช้ตัวไหน มันก็เป็นตัวบ่งบอกในระดับเบื้องต้นแล้วว่าคุณจะต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าแอมป์อีกเท่าไร่ถึงจะเหมาะสม
ไม่มีกฏตายตัวหรอกว่าลำโพงแสน ต้องแอมป์แสน บางทีแอมป์สองแสนถึงจะเอาอยู่ หรือบางทีแอมป์ 5 หมื่นก็เอาอยู่ก็มี
และปัญหาของนักเล่นระดับมือใหม่ที่สนใจอยากเล่นเครื่องเสียงก็คือ คิดว่าลำโพงมันก็พอๆกันมั้ง คือมีเสียง มีดอกลำโพงต่อแล้วดัง อะ ยอมจ่ายเอาของดีๆแพงๆหน่อย แต่ของบแอมป์น้อยๆนะ ก็ลงทุนจ่ายค่าลำโพงดีๆไปแล้ว แอมป์คงไม่ค่อยสำคัญ คิดแบบนี้ประหนึ่งว่าซื้อรถแพงๆมีระบบดีๆราคาหลายล้าน แล้วมาเปลี่ยนยางถูกๆ ยางเปอร์เซนต์ ใช้แบตน้ำ เติมน้ำมันหลอดข้างทาง หรือใช้อะไหล่เทียบ รถแพงๆมันก็ยังแสดงสมรรถนะดีสมกับราคาค่าตัวรถและก็วิ่งดีกว่า สมรรถนะดีกว่า รถถูกๆแล้วมาเปลี่ยนอุปกรณ์เทพๆ จริงมั๊ยครับ
กลับกันเครื่องเสียงบางทีมันไม่ใช่แบบนั้นครับ คุณใช้ลำโพงเทพ แอมป์เทพ แต่เอาไปเปิดในห้องโถง ซ้ายเป็นครัวแม่บ้าน บนเป็นเพดานสูงมีเชนเดอเลียสูงไปยังหลังคา ขวาเป็นประตูกระจกเปิดโล่งโปร่งตา ตกแต่งตามแบบที่ผู้อยู่ต้องการ แบบนี้มันก็เสียงไม่ดีครับ
หรือใช้ลำโพงแพงมาก แล้วขอลด cost เอาแอมป์ถูกๆไปขับ เสียงมันก็จะอั้นๆ โอเคละแนวเสียงลำโพงมันยังอยู่ แต่มันอาจจะสู้ลำโพงถูกๆ ใช้แอมป์ถูกๆที่เหมาะกับมันไม่ได้ก็ได้
ทางออกคือ ต้องคิดง่ายๆว่า garbage in garbage out คือซิสเต็มทั้งระบบเนี่ยมันต่อโยงกันหมดเป็น N-To-N คือถ้ามีบางอย่างในระบบที่มันดรอป มันก็จะพาให้เสียงดรอปตามไปด้วย แอมป์ป้อนมาแย่ ลำโพงดีแค่ไหนก็แย่ หรือซิสเต็มดีหมดแต่เปิดหนังซูม เปิดเพลง mp3 บิทเรท 64 k แบบนี้ก็แย่ลงทั้งระบบ
สำหรับมือใหม่ผมอยากให้พึงคำนึงถึง 4 อย่างที่ควรใส่ใจและไม่ควรไปลดค่าใช้จ่ายมันนั่นคือ
1. ลำโพง ไม่ได้บอกให้เลือกของแพง แต่ให้เลือกของที่ถูกจริตและเสียงถูกใจคุณ ถ้าคุณชอบอรวีย์ ไซ่ฉิน ก็คงไม่ไปเลือก Klipsch หรือถ้าคุณชอบ DJ Tiesto ก็คงไม่ไปเลือก Proac, ต่อกับแอมป์หลอดมาฟังมั้ง ใช้มั๊ย เพลงแต่ละประเภทมันมีลำโพงที่เหมาะสมของมันอยู่
2. แอมป์ จะเลือกอย่างไร ก็ต้องย้อนกลับไปดูข้อ 1 เลยครับว่าคุณเลือกลำโพงอะไร ลำโพงจะเป็นตัวกำหนดแอมป์ หรือบางคนอาจเลือกแอมป์ก่อนก็แล้วแต่สะดวกครับ แต่ผมจะเลือกลำโพงก่อน เพราะมันเป็นตัวกำหนดบุคลิกเสียงที่สำคัญที่สุด
ถ้าคุณเลือกลำโพง PA แน่นอนก็ต้องใช้แอมป์ PA ขับ ถ้าเอาแอมป์บ้านมาขับลำโพง PA ก็พัง
ถ้าคุณเลือก NHT ก็ต้องหา Power มาขับแล้วละ หรือถ้าจะไม่ใช้ power ก็ต้องหาแอมปฺ์กล้ามโตราคาเหยียบแสนมาขับมันถึงจะแสดงศักยภาพเต็มที่
หรือถ้าคุณใช้ลำโพงที่ขับไม่ยากไม่ง่ายมากนัก ทีนี้ตัวเลือกมันก็เยอะขึ้นแล้วครับ ในกลุ่มลำโพงที่ขับไม่ยากไม่ง่ายนี้ จะเลือกแอมป์อะไรก็ขอให้มันอยู่ในงบลำโพงนั่นแหละครับ อย่าให้เกินมากหรือถูกกกว่ามาก เลือกแนวเสียงของแอมป์ด้วย แอมป์บางตัวเสียงจัด บางตัวเสียงนุ่มนวล
3. ต้นทาง ตัวนี้เป็นตัวสำคัญที่กำหนดคุณภาพของเสียงของข้อ 1 และ 2 บางท่านเลือกลำโพงกะแอมป์ดีแล้ว แต่มาตกม้าตายตรงต้นทางก็มี จริงๆข้อนี้ส่วนตัวผมอยากให้เลือกและใส่ใจโดยดูลักษณะการใช้ชีวิตและไลฟสไตล์ของคุณและครอบครัวเป็นหลักด้วยนะครับ บางทีบางคนชอบเก็บแผ่นชอบซื้อแผ่นก็ต้องหาเครื่องเล่นดีๆมาเล่นแผ่น แต่บางคนไม่ชอบเก็บแผ่นที่บ้านเด็กชอบรื้อเอามาเหวี่ยงเล่น แบบนี้ก็ต้องพิจารณาพวก Music server หรือเครื่องเล่นที่ตอบสนองการเล่นผ่าน file เป็นหลัก
ใช้ชีวิตยังไงก็เลือกยังงั้นครับ ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่
อย่างผมดูหนังไม่ชอบเก็บแผ่น ขีเกียจเดินไปเปลี่ยนแผ่น ผมก็จะไม่สนใจพวกเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์เลย ของพวกนี้ขายผมไม่ได้ แต่กับบางคนที่ขี้เกียจโหลดหนัง เบื่ออินเตอร์เน็ท ขี้เกียจรอ ชอบง่ายๆ แบบนี้เค้าก็จะชื่นชอบและเลือกอีกแบบนึงครับ
4. ห้อง ลงทุนข้อ 1 - 3 มาดีๆแล้ว อย่ามาตกม้าตายที่ข้อสุดท้ายนี้นะครับ เครื่องเสียง เสียงจะดีถ้ามันได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม เอาลำโพงบ้านไปออกคอนเสริต เอาลำโพงบ้านไปออกงาน ไปฟังหน้าบ้าน ไปเปิดที่ระเบียง หรือไปเปิดในห้องโถง หรือเอาไปตั้งในมุมอับ ตั้งในจุดที่เสียงก้อง มีปัญหาเบสบวม คุณงามความดีของลำโพง แอมป์ที่เลือกมาทั้งหมดจะหายไปในทันทีครับ
ส่วนใหญ่ทำเสียงดีในห้องใหญ่ย่อมจ่ายแพงกว่า ทำเสียงดีในห้องที่เล็กกว่า เครื่องเสียงบ้านไม่ได้มีพลังและอำนาจทะลุทะลวงเหมือนเครื่องเสียงกลางแจ้ง (PA) ขนาดที่จะไปตั้งตรงไหนก็ได้ ขนาดงานคอนเสริต์กลางแจ้งยังต้องมี Sound Engineer มาคุมมาดูเรื่องเสียงเลย เครื่องเสียงบ้านก็เช่นกัน ต้องการความใส่ใจ
เครื่องเสียงบ้านชอบรั้วรอบขอบชิดครับ มีห้องให้มันอยู่มิดชิด มีผนัง มีพื้นที่จำกัด เครื่องเสียงบ้านมันไม่ชอบกระจก (จริงทุกเครื่องเสียงนั่นแหละ) ถ้ามีห้องฟัง ห้องนอน หรืออย่างน้อยไว้ในห้องนั่งเล่นยังโอเค สำรวจขนาดห้อง ปัญหาห้องเราสักนิดครับว่ามีปัญหาอะไรมั๊ย เพราะบางทีไปฟังที่ร้านยังกะนางฟ้า พอยกมาที่บ้านกลายเป็นซาตานไปก็มี
สำหรับมือใหม่สิ่งที่ควรจะบันยะบันยัง และลดคอสได้สำหรับผมก็มองว่า คงเป็นเรื่อง Accessories ครับ พวกเส้นสาย (สายลำโพง สายสัญญาณ สายไฟ) พวกนี้ใช้ของระดับปานกลางได้ เอาแค่พอเหมาะสม ทั้งชุดเส้นสายไม่ควรแพงเกิน 10-20% ของราคาซิสเต็ม ไว้มีตัง ฟังออก มีประสบการณ์มาก หรือรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมากขึ้นกว่านี้ ค่อยไปลงทุนกับเส้นสายครับ
ส่วน accessories พวกน้ำยา สติ๊กเกอร์แปะแล้วจัดระเบียบอิเลกตรอน ช่วยให้เสียงดี พวกนี้ก็ใช้วิจารณญาณเอานะครับ ผมเชื่อว่าคนเล่นเครื่องเสียงระดับนี้แล้ว เป็นผู้ใหญ่พอ มีหน้าที่การงานสูง ระดับรายได้สูงพอจะตัดสินใจเองได้ ผมจะไม่ชี้นำใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
เครื่องเสียงจะว่าซับซ้อนก็ได้ จะว่าง่ายก็ได้ จริงๆมันทางตรงให้คุณเดินให้คุณศึกษา ให้คุณจ่ายเงินไปกับมัน
และบางทีมันก็มีทางลับ มีตรอกซอกซอย มีทางลัดให้คุณเดินไปโดยจ่ายเงินน้อยกว่า ถูกกว่า และได้ของถูกใจกว่า
แต่ขอให้คุณรู้ตัวเองก่อนว่า ตอนนี้คุณยืนอยู่จุดไหน มีตังในกระเป๋าเท่าไร่ สะดวกชอบเดินทางแบบไหน และจะไปจุดหมายปลายทางที่ไหน เอาให้ชัดๆ ถามใจตัวเอง เคลียร์ตัวเองให้ชัด หาความรู้ให้พอ แล้วการเล่นเครื่องเสียงจะไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่มันจะเป็นเรื่องที่สนุกและมีเสน่ห์น่าค้นหาครับ
