เสน่ห์และภาพสวยๆของการจัดส่งลำโพง Klipsch RC-64 II ให้ลูกค้าสองรายที่ปทุมธานี และลพบุรี
1. จัดส่ง Klipsch RC-64 II สีดำไปให้ลูกค้าที่ลพบุรีครับ
ตัวนี้เดิมทีลูกค้าสั่ง Klipsch RP-160M และ Klipsch R-112SW ไปใช้เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านั้นแล้ว
ตอนนี้ลูกค้าเลยอยากอัพเกรดลำโพงเซ็นเตอร์จากของเดิมมาเป็น RC-64 II โดยเฉพาะ
โดย ตัวนี้ลูกค้าจ่ายเงินไว้เรียบร้อยแล้ว พอของมาถึงเรา ลูกค้าจึงอนุญาติให้แกะกล่องเช็คสภาพของและต่อเบิร์นไว้ที่ห้องฟังของเรา ก่อนไปพลางๆ
---------------------------------------------------------------
แกะกล่อง RC-64 II Balck: http://goo.gl/kmhR6M
---------------------------------------------------------------
จนเมื่ออาทิตย์ก่อนจึงได้ฤกษ์ขับเอาไปส่งให้ลูกค้าที่ลพบุรี ส่งมอบกันเรียบร้อยครับเลยถ่ายรูปซิสเต็มลูกค้าไว้เป็นที่ระลึก
บางทีลำโพงบุ๊กเชลฟ์ตัวเล็กๆ ผสมกับลำโพงเซ็นเตอร์ตัวใหญ่ๆแบบนี้ก็ดูสวย ดูเท่ดีเหมือนกันครับ
เป็นการผสมผสานกันระหว่างตัวท๊อปของรุ่นเก่า (Reference II) และลำโพงคู่หน้าของรุ่นใหม่ (Reference Premier) ได้อย่างลงตัว
*** ลำโพง RC-64 II ตัวนี้ขับง่าย ความไว 99 dB ทำให้ AVR ระดับทั่วไปก็สามารถขับมันได้ดีในระดับนึง และตรงกันข้ามหากได้ Power amp ที่กำลังขับดีๆมาต่อเมื่อไร่ RC-64 II จะยิ่งแสดงศักยภาพของมันได้ดียิ่งขึ้นไปอีกจนคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียวละครับ
หลายคนถามว่าลำโพงเซ็นเตอร์ใช้ไซส์ไหน ขนาดเท่าไร่ดี
ก็ยังยืนยันว่า ความเห็นส่วนตัวผมยังให้ความสำคัญกับลำโพงเซ็นเตอร์พอๆกันกับซับวูฟเฟอร์เลยด้วยซ้ำ
สำหรับลำโพงเซ็นเตอร์คือ ใช้ให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่แอมป์เราขับไหว และกำลังทรัพย์เราไปถึงโดยไม่เดือดร้อนการเงินครับ
เพราะ ลำโพงเซ็นเตอร์ถือเป็นหัวใจหลักตัวหนึ่งของระบบเสียง Home Theater ทั้งทำหน้าที่ในการถ่ายทอดบทพูด dialouge ต่างๆ เสียง effect ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า ดังนั้นลำโพงเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ และถ่ายทอดเสียงพูดได้ชัดเจน หนักแน่น จึงทำให้บรรยากาศการดูหนังเปลี่ยนไปได้จากหน้ามือเป็นหลังมือครับ

2. ส่ง RC-64 II ให้ลูกค้าที่ปทุมธานี

ตัวนี้ลูกค้าปรึกษามาว่าเดิมทีใช้ Klipsch RP-260F รุ่นใหม่ และ Marantz 5010
ตั้งใจจะอัพเกรดลำโพงเซ็นเตอร์จากเดิมตัวเล็กมาเป็น Klipsch แต่ลังเลว่าจะเอา RP-450C หรือ RC-64 II ไปเลยดี
เลยแจ้งลูกค้าไปว่า ถ้าอนาคตไม่มีแพลนจะเปลี่ยนแอมป์อีกแล้ว ให้ใช้ RP-450C เพราะ AVR จะขับตัวนี้ได้ดีกว่า
แต่ หากจะเปลี่ยนแอมป์ หรือซื้อ Power มาเพิ่มในอนาคต ให้ใช้ RC-64 II ไปเลย เพราะคุณภาพเสียงดีกว่ามาก โดยเฉพาะเสียงแหลมจากทวีตเตอร์ 1.75 นิ้วตัวนี้ ให้เสียงละเอียดยิบ และสดสุดๆ
สุดท้ายลูกค้าแจ้งมาตอนสองทุ่มบอกให้ ส่งคืนนี้เลยได้มั๊ย ก็เลยส่งด่วนถึงบ้านลูกค้าที่ปทุมตอนเกือบสามทุ่มครับ ตัวนี้ผมส่งเอง ไปถึงก็แกะกล่อง เช็คของให้ลูกค้าเหมือนเดิมแ

เสร็จ เรียบร้อยผมขับรถกลับมาบ้าน ลูกค้าบอกว่าชอบมากและตัดสินใจไม่ผิดจริงๆกับ RC-64 II ตัวนี้ เพราะนอกจากขนาดดอกที่ได้ดอกใหญ่ขึ้น ทวีตเตอร์แบบใหญ่พิเศษ และผิวลำโพงเฟอร์นิเจอร์เกรดสีดำเงา เทียบกับเงินที่เพิ่มอีกแค่ไม่เท่าไร่ สำหรับผมคุ้มนะครับ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า คุณมีที่วางได้ และแอมป์คุณขับมันไหว
ส่วน ตัวผมมองว่า RC-64 II ตัวนี้เสียงแหลมของมันคือเสน่ห์ที่ผมชอบและหลงรักตั้งแต่ฟังครั้งแรกจริงๆ ไม่นับพลังเบส อิมแพคของวูฟเฟอร์ 6.5 นิ้วสี่ดอกที่อัดเรียงกันอยู่ในตู้ลำโพงที่ใหญ่และแข๊งแรงตู้นี้
============================================
ราคาและสเปก RC-64 II: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black
รีวิว RC-64 II Cherry: http://goo.gl/p1DIrf







