Mini Review สายไฟนำเข้า Zonotone 6NPS-3.5MEISTER เข้าหัว Hubble
วันนี้เรามีสายไฟยอดนิยมจากญี่ปุ่นตัวนึง นั่นคือ Zonotone 6NPS 3.5Meister ซึ่งจัดเป็นสายไฟยอดนิยมอีกตัวนึงของประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ ซึ่งสายไฟที่นิยมในบ้านเค้าก็จะมีพวก Acrolink, Zonotone อะไรพวกนี้
วันนี้เราได้สายรุ่นรองท๊อป 6NPS 3.5Meister พร้อมเข้าหัว Hubble พร้อมสรรพ เอามาเทสและทำรีวิวกันด้วยมาดูกันเลยครับบ
ตัวสาย Zonotone 6NPS 3.5Meister ดูดีมีราคามากตัวสายถูกซีลเป็นแบบผ้าถักดูสวยงาม และข้อดีก็คือสายมีความอ่อนนุ่ม โค้งงอได้ดี ทำให้ไม่ทำอันตรายกับระบบหรือซิสเต็มเท่าไร่ (สายเส้นใหญ่ๆบางเส้น บางทีใส่ยาก ใส่ๆถอดๆทำให้รูเสียบที่เครื่องหลวม บางทีดึงเข้าดึงออกก็ไป โดนสายเส้นอื่นหลุด ม้วนยากแข๊ง เสียบทีต้องใช้แรง)
ซึ่งรุ่นนี้ทำจากตัวนำบริสุทธิ์ระดับ 6N (99.9999% High Puruty) วัสดุใช้ OFC ทองแดงบริสุทธิ์ระดับ 99.9999% เคลือบเงิน Oxygen free
ถือว่าสูงมาก และจัดเป็นสายรุ่นสูงอีกตัวนึง ซึ่งรุ่นนี้แบบแพ๊กเกจเข้าหัวมาจากโรงงานราคาจะอยู่ที่ 9800 บาท
ส่วนแบบแบ่งตัดจะอยู่ที่ 3500 บาทต่อเมตร
-------------------------------------------------------------------------
แบบแพ๊กเกจ ความยาว 1.8 เมตร: http://www.whatthatsound.com/product/281/ac-zonotone-6nps-3-5meister-power-cable-1-8m-package
แบบแบ่งตัด เมตรละ: http://www.whatthatsound.com/product/282/ac-zonotone-6nps-3-5meister-power-cable-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94
-------------------------------------------------------------------------
ตัวนี้เราตัดมาเพื่อทำเทสและทดสอบรีวิวโดยเฉพาะ โดยตัดมาที่ 2 เมตร เป็นความยาวมาตรฐานทั่วๆไป เราเลือกใช้หัวท้าย Hubble หน้าตาก็ตามรูปนี้เลยครับ
อุปกรณ์ที่เราเอามาทดสอบก็เสียบใช้กับ AVR และอุปกรณ์อื่นๆตามรายละเอียดดังนี้
Power: Emotiva XPA3
Pre / AVR: HarmanKardon 370
Speaker: Klipsch RP-280F, RC-64 II, RP-250S, R-115SW
---------------------------------------------------------------------------
เราเบิร์นไว้สักพัก ลองเปิดหนังเปิดเพลง ก็แน่นอนครับใช้หนังเรื่องเดิมๆที่เราเคยใช้
เช่น Man of Steel, Mad Max, Transformer 4, San Andres
และคราวนี้พิเศษหน่อยเราเพิ่งได้เรื่อง 007 Spectre มาและเพิ่งดูจบไปกับสายเส้นเดิม (Audyn Copper Tran) เสียงในหนังมันยังติดตรึงและจำได้อย่างแม่นยำ โดยหนังเรื่องนี้ผมดูจบแล้วบอกเลยว่าเสียงค่อนข้างจัด บันทึกเสียงมาชัดมากทั้งเสียงพูด เสียงระเบิด ดีเทลทุกอย่างเยอะ
เราเริ่มถอดสายเก่าและใส่สายใหม่ Zonotone 6NPS 3.5Meister เข้าไปกับ AVR แล้วก็ดู 007 Spectre ใหม่อีกรอบ สิ่งที่รู้สึกคือบรรยากาศของหนังมันผ่อนคลายขึ้น ไม่ได้ดูเครียดขึ้ง เสียงไม่จัดมาก ไม่ได้แผดเหมือนตอนที่ใช้สายเดิม
ก็นั่งดูไปจนจบ และก็ต่อด้วยหนังอีกหลายเรื่องและนี่คือข้อสรุปของสายเส้นนี้ครับ
สายเส้นนี้บุคลิกเสียงค่อนไปทางซอฟท์ คือไม่ใช้แนวบ้าพลัง ไม่ได้บู๊ทเบส เสียงไม่จัด เบสไม่เยอะ แหลมไม่แผด แต่มันช่วยจัดช่องไฟ ช่วยให้เสียงในระบบให้เป็นไปอย่างสมดุล ไม่มีย่านไหนโผล่ล้ำหรือเกินหน้าออกมา น้ำหนักเสียงติดออกไปทางกระชับ นุ่มนวล มีมวล ปลายแหลมพอประมาณทอดยาวได้ดี และเบสก็กระชับเก็บตัวได้พอประมาณ
หากซิสเต็มที่คุณใช้อยู่เสียงจัด มันจะช่วยให้ซิสเต็มผ่อนคลายและเสียงมีความบาล้านดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่กลับกันหากซิสเต็มขึ้นเสียงซอฟท์ นุ่มหรือกลางๆ มันกลับช่วยดึงให้เสียงมีความสมดุลขึ้น ช่องไฟ น้ำหนักเสียงมีน้ำหนัก และมีมวลพอประมาณ
จุดเด่นของสายเส้นนี้สำหรับผมคิดว่ามันเหมาะกับคนที่เน้นไปทางการฟังเพลงมากกว่าดูหนัง เพราะมวลเสียงกลางที่มีมวล ติดอุ่นนิดๆ เบสกระชับเก็บตัวดี แต่ไม่หนัก ไม่กระแทกจนเกินงาม และปลายแหลมก็ชัดทอดยาว
ด้วยบุคลิกแบบนี้ผมอยากให้ลองฟังเพลงแล้วเทียบกันดู สิ่งที่จะเห็นความแตกต่างก็คือน้ำหนักเสียงร้อง เสียงกลาง ที่มีมวล นุ่มละมุนขึ้น การเว้นวรรค ช่องไฟ เวทีเสียงชัดเจนและแยกแยะได้เด็ดขาด
จะว่าไปจุดเด่นแบบนี้ผมไม่แปลกใจที่จะหาได้ในสายที่นิยมกันในประเทศญี่ปุ่นครับ เพราะอุปกรณ์เครื่องเสียงหลายๆชิ้นที่ออกแบบ ผลิตและนิยมกันที่นู้น ส่วนใหญ่ก็จะมาในแนวนี้อยู่แล้ว เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศ พื้นที่ ลำโพงที่ใช้ และรสนิยมการเล่นเครื่องเสียงของพวกเค้านั้นเดินมาในแนวทางนี้อย่างชัดเจน คือไม่ได้เน้นพละกำลัง หรือโหดแบบอุปกรณ์ที่มาจากฝั่งอเมริกา
แต่กลับกันทางญี่ปุ่นจะชอบเน้นเวที อิมเมจ เสียงกลางที่นุ่มละมุน ฟังเบาๆแล้วเคลิ้มไปกับเสียงเพลงแบบนี้มากกว่า
สรุป
สาย Zonotone 6NPS 3.5Meister เป็นสายไฟอีกเส้นที่คุณภาพสูง เหมาะกับซิสเต็มที่ต้องการเสียงที่มีความบาล้าน ต้องการเสียงละมุนๆ นุ่มๆ ฟังเพลงเนียนๆหน่อย ใช้ฟังเพลงเป็นหลัก ดูหนังก็ได้ แต่จะเป็นแนวดูไปสบายๆ เน้นกลางๆสบายหู ทุกย่านฟังแล้วเนียนๆ ไม่ได้เน้นพละกำลัง
สายนี้เหมาะกับใคร
1. เหมาะกับซิสเต็มฟังเพลง ต้องการสายที่ไปเติมเต็มให้เสียงกลาง เสียงแหลมดีขึ้น อิมเมจ ซาวด์สเตจดี ฟังเพลงแนว audiophile เพลงร้อง จะเด่นมาก เพราะมวลเสียงกลาง เสียงแหลม และเบสจัดมาสมดุล สวยงาม
2. เหมาะกับซิสเต็มที่เสียงจัดอยู่แล้ว แหลมแผด เบสเยอะ เส้นนี้ช่วยให้สมดุลเสียงดีขึ้นอย่างได้ผลครับ
3. เหมาะกับซิสเต็มที่เสียงบางๆ ด้วยบุคลิกของสายที่สมดุล จึงนอกจากจะช่วยลดเสียงจัดแล้ว ยังช่วยให้เสียงในซิสเต็มสมดุล มีมวลขึ้นด้วย
สายเส้นนี้ไม่เหมาะกับใคร
1. ไม่เหมาะกับคนที่เน้นดูหนัง action เน้นพละกำลัง เบสเยอะๆ อิมแพคมหาศาล แบบนี้ไม่ใช่แนวของสายเส้นนี้ครับ
2. ไม่เหมาะกับคนที่ชอบเสียงนุ่มๆ หวานๆแบบน้ำผึ้งเรียกพี่ เส้นนี้แนวเสียงอย่างที่บอก สมดุล กลางแหลมเบส ช่องไฟเนียน แต่น้ำเสียงแท้ๆก็ไม่ได้มีคัลเลอร์ที่ไปในทางหวาน และ laid back แบบฟังแล้วเบาะจมไปในพื้นห้องขนาดนั้น
หน้าที่เข้าชม | 2,192,372 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,301,209 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 9 ก.ย. 2568 |